สืบค้นงานวิจัย
สถานภาพและศักยภาพในการผลิตโคเนื้อของลุ่มน้ำก่ำ
พิชาด เขจรศาสตร์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: สถานภาพและศักยภาพในการผลิตโคเนื้อของลุ่มน้ำก่ำ
ชื่อเรื่อง (EN): The status and potential of beef production in Namkam basin
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิชาด เขจรศาสตร์
บทคัดย่อ: การศึกษาเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการเลี้ยงโคเนื้อของเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้้าก่้า โดยประกอบด้วยสภาพการเลี้ยง ความเป็นอยู่ การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งศึกษาทั้งรูปแบบการเลี้ยงโคแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกและการเลี้ยงโคขุน ผลการศึกษา พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อมีอายุเฉลี่ย 49 ปี เกษตรกรร้อยละ 75.6 จบการศึกษาระดับประถม มีอาชีพหลัก คือ การท้านา และการปลูกพืช ตามแต่ละพื้นที่ ได้แก่ ข้าวนาปรัง มะเขือเทศ ข้าวโพด มันส้าปะหลัง อ้อย ยางพารา ปาล์มน้้ามัน ผักและผลไม้ เกษตรกรมีสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4 คน มีจ้านวนโคเมื่อเริ่มเลี้ยงน้อยกว่า 5 ตัว เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีการปลูกหญ้าอาหารสัตว์ และใช้พื้นที่ในการเลี้ยงโคเนื้อเฉลี่ยเพียง 4.35 ไร่ ต่อครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตนเองและเป็นพื้นที่สาธารณะ โดยมีทั้งการปล่อยให้กินหญ้าเองตามธรรมชาติ และมีการตัดหญ้าเสริมเพื่อน้ามาไว้ในคอกจากการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการเลี้ยงโคแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกมีต้นทุนการผลิตตัวละ 17,037.47 บาท เกษตรกรมีก้าไรตัวละ 9,802.76 บาท แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะต้นทุนเงินสดเกษตรกรมีก้าไรเหนือต้นทุนเงินสดตัวละ 19,310.81 บาท การผลิตโคขุนทีมีอายุการเลี้ยงขุนเฉลี่ย 12 เดือน มีต้นทุนการผลิตตัวละ 67,705.78 บาท เกษตรกรมีก้าไรตัวละ 12,675.07 บาท แต่ถ้าพิจารณาเฉพาะต้นทุนเงินสดเกษตรกรมีก้าไรเหนือต้นทุนเงินสดตัวละ 24,659.42 บาท ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารข้น อาหารหยาบและกากน้้าตาลประมาณร้อยละ 40 ของต้นทุนทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนและผลตอบแทนในการผลิตโคแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกและการเลี้ยงขุน พบว่า การผลิตโคแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกให้ผลตอบแทนสูง แต่การเลี้ยงโคขุนจะมีต้นทุนส่วนใหญ่เป็นค่าพันธุ์และอาหาร ดังนั้นหากสามารถลดต้นทุนค่าอาหารลงได้ การเลี้ยงโคขุนก็สามารถสร้างรายได้ดี นอกจากนี้รายได้บางส่วนได้จากการจ้าหน่ายมูล หากพิจารณาต้นทุนและผลตอบแทนแล้วการเลี้ยงโคแม่พันธุ์เพื่อผลิตลูกจึงเหมาะส้าหรับเกษตรกรที่จะเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมเพิ่มรายได้เพราะมีต้นทุนที่เป็นเงินสดต่้าจึงไม่จ้าเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง เกษตรกรมีความต้องการสินเชื่อต่อครัวเรือน 62,500.37 บาท แต่ส่วนใหญ่เกษตรกรใช้เงินทุนตัวเองในการลงทุน ส่วนแหล่งสินเชื่อหลักได้มาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) หรือกู้ยืมจากสหกรณ์หรือกองทุนหมู่บ้าน เพื่อนามาลงทุนเลี้ยงโคขุน ปัญหาและอุปสรรคในการเลี้ยงโคเนื้อลูกผสม ได้แก่ การหาซื้อแม่พันธุ์ยากและโคเข้าขุนมีราคาแพง การขาดแคลนหญ้าและพื้นที่เลี้ยงโคในบางช่วง พื้นที่และทุ่งหญ้าสาธารณะเลี้ยงโคลดลง การให้บริการผสมเทียมยังมีน้อยและเกษตรกรส่วนหนึ่งยังขาดการปรับปรุงพันธุ์โคที่เหมาะสม และเกษตรกรรายย่อยขาดแคลนเงินทุนและขาดการดูแลเลี้ยงโคที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามเกษตรกรมีศักยภาพในการเลี้ยงโคเป็นอยู่แล้ว แต่ยังจ้าเป็นที่ต้องมีการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อที่เหมาะสมทั้งสายพันธุ์ การลดต้นทุนอาหารสัตว์ การจัดการดูแลโคเนื้อที่ดีจะท้าให้เกิดประสิทธิภาพและความยั่งยืนในอาชีพได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: รองรับการเปลี่ยนแปลง
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สถานภาพและศักยภาพในการผลิตโคเนื้อของลุ่มน้ำก่ำ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2560
การศึกษาการใช้สมุนไพรขมิ้นชันต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคเนื้อ ประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนการผลิตในโคเนื้อโดยใช้อาหารหมักและอาหารสัตว์เส้นใย (WDGS) จากวัสดุเหลือทิ้งจากข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เปรียบเทียบกับการใช้กากเบียร์ การสร้างระบบฐานข้อมูลโคเนื้อและกระบือกรมปศุสัตว์ กรณีศึกษาระบบฐานข้อมูลโคเนื้อ การใช้เทคโนโลยีการผลิตโคเนื้อของเกษตรกรในจังหวัดพังงา อาหาร TMR กับการเลี้ยงโคนม-โคเนื้อ การประเมินค่าพลังงานใช้ประโยชน์ได้ของหญ้ากินนีสีม่วงในโคเนื้อ พลังงานใช้ประโยชน์ได้ของถั่วไมยราในโคเนื้อ ความเปลี่ยนแปลงในระบบการผลิตโคเนื้อของเกษตรกรรายย่อยในเขตภาคกลางของไทย พลังงานใช้ประโยชน์ได้ของถั่วคาวาลเคดในโคเนื้อ การประเมินค่าพลังงานใช้ประโยชน์ได้ของหญ้าเนเปียร์แคระในโคเนื้อ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก