สืบค้นงานวิจัย
ศักยภาพการให้ผลผลิตและลักษณะทางการเกษตรของแก่นตะวันพันธุ์ต่างๆ ในสภาพการเพาะปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
สนั่น จอกลอย - ไม่ระบุหน่วยงาน
ชื่อเรื่อง: ศักยภาพการให้ผลผลิตและลักษณะทางการเกษตรของแก่นตะวันพันธุ์ต่างๆ ในสภาพการเพาะปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Yield potential and agronomic performance of Kaentawan under growing conditions in the Northeast, Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สนั่น จอกลอย
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sanun Jogloy
บทคัดย่อ: แม้ว่าแก่นตะวันเป็นพืชที่สามารถใช้ เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย และยังใช้เป็นอาหารสัตว์ และพืชพลังงานทดแทนได้อีกด้วย แต่ก็ยังไม่มีการผลิตเพื่อการดัในประเทศไทย และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตและลักษณะ ทางการเกษตรอื่นๆ ในประเทศไทยยังมีน้อย วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อเปรียบเทียบผลผลิตหัวและลักษณะทางการ เกษตรของพันธุ์แก่นตะวันซึ่งมีแหล่งกำเนิดแตกต่างกัน โดยทดสอบพันธุ์ 14 พันธุ์ในฤดูแล้ง 2547/2548 ใช้แผนการทดลองแบบ สุ่มสมบูรณ์ภายในซ้ำ มี 4 ซ้ำ เก็บข้อมูลน้ำหนักแห้งส่วนเหนือดิน ดัชนีพื้นที่ใบ ผลผลิตหัวสด ด่าบริกซ์ (brix) และดัชนี เก็บเกี่ยว ผลการทดลองพบว่า น้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นจนถึงอายุ 4 สัปดาห์หลังปลูก หลังจากนั้นมีการ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีน้ำหนักแห้งสูงสุดเมื่ออายุ 8 สัปดาห์หลังปลูก และเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อถึงอายุ 12 สัปดาห์หลังปลูก โดยพันธุ์ JA 102, HEL 335, HEL 66 และ JA 89 มีแนวโน้มมีน้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินมากที่สุด แบบแผนการพัฒนาของ น้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินสอดคล้องกับการพัฒนาดัชนีพื้นที่ใบ อย่างไรก็ตามดัชนีพื้นที่ใบมีค่าต่ำโดยที่พันธุ์ที่ดีที่สุดมีดัชนีพื้นที่ใบ สูงสุดต่ำกว่า 2.0 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหากต้องการให้ผลผลิตต่อไร่สูงสามารถทำได้โดยเพิ่มประชากรต่อไร่ ความแปรปรวน ระหว่างพันธุ์ในลักษณะน้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินและดัชนีพื้นที่ใบมีมาก แสดงให้เห็นว่าสามารถดัดเลือกพันธุ์ที่มีการสะสม น้ำหนักแห้งที่ดีได้ การเริ่มสร้างหัวอาจเกิดขึ้นก่อนอายุ : สัปดาห์หลังปลูก การพัฒนาหัวเพิ่มขึ้นจนกระทั่งอายุ 12 สัปดาห์หลัง ปลูก บางพันธุ์เมื่อพัฒนาหัวสูงสุดและผลผลิตหัวสดลดลง แต่บางพันธุ์ยังพัฒนาหัวต่อไปจนถึงเก็บเกี่ยว (อายุ 13 สัปดาห์หลังปลูก) ความแปรปรวนระหว่างพันธุ์ในลักษณะผลผลิตหัวสดมีสูงเช่นเดียวกับลักษณะน้ำหนักแห้งส่วนเหนือดินและดัชนีพื้นที่ใบ โดยพันธุ์ JA 89 และ JA 102 มีแนวโน้มให้ผลผลิตหัวสดสูงที่สุด ดวามแปรปรวนของพันธุ์ในลักษณะด่าบริกซ์มีน้อยโดยมีค่าเฉลี่ย 21.9 เมื่ออายุ 12 สัปดาห์หลังปลูก และไม่มีความแตกต่างระหว่างพันธุ์เมื่อเก็บเกี่ยว ส่วนลักษณะดัชนีเก็บเกี่ยวแม้มีความ แตกต่างระหว่างพันธุ์สูงเมื่ออายุ 12 สัปดาห์หลังปลูก แต่กลับไม่มีความแตกต่างระหว่างพันธุ์เมื่อเก็บเกี่ยว (อายุ 13 สัปดาห์หลังปลูก)
บทคัดย่อ (EN): Although it is promising candidate as raw material for various value-added products, animal feed and green energy production, Kaentawan (Helianthus tuberosus L.) has not been grown commercially in Thailand, and little information about yield and agronomic performance under growing conditions in Thailand is available. The objective of this study was to compare tuber yield and agronomic performance of some clones of Kaentawan with diverse origins. Fourteen clones of Kaentawan were planted in a randomized complete block with four replications under irrigation in dry season 2005/2006. Data were recorded for above ground biomass (AGB), leaf area index (LAI), tuber yield (TY), soluble solid index (Brix) and harvest index (HI). AGB gradually increased from the plant ages of 0 to 4 weeks after planting (WAP). Flush growth occurred and generally reached the peak from 4 to 8 WAP. Rapid decline in AGB occurred after 12 WAP, by JA 102, HEL 335, HEL 66 and JA 89 varieties tended to highest AGB and the growth pattern of AGB is in good accordance with those of LAI. LAI for the best clone was lower than 2.0, indicating the need for higher plant population densities to achieve optimum yield. Variations among clones for these characters were great, enhancing further selection for the best clone in term of dry matter accumulation. Tuber initiation might occurred few weeks before the age of 8 WAP. Tuber growth increased until the age of 12 WAP, when some clones reached the peak and started to decline and some clones resumed growing until harvest (13 WAP s). Under limited study, variation for tuber yield was also high by JA 89 and JA 102 varieties tended to highest TY. Variation for brix is not as high as other characters and significant with average of 21.9 at 12 WAP only. HI variation, though high at 12 WAP, was not significant at harvest (13 WAP).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 12
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=KAJ 34_02_0061.pdf&id=59&keeptrack=5
คำสำคัญ: ค่าบริกซ์
คำสำคัญ (EN): brix
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศักยภาพการให้ผลผลิตและลักษณะทางการเกษตรของแก่นตะวันพันธุ์ต่างๆ ในสภาพการเพาะปลูกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
ไม่ระบุผู้เผยแพร่
2549
ลักษณะสัณฐานและกายวิภาคของแก่นตะวัน (Helianthus tuberosus L.) ที่ปลูกในประเทศไทย ผลของระยะเวลาการเก็บรักษาต่อการงอกหลังบ่มของหัวแก่นตะวัน พันธุ์แอสเตอร์ที่เหมาะสมในการผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์เพื่อการค้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศักยภาพการให้ผลผลิต องค์ประกอบผลผลิต และสหสัมพันธ์ของ องค์ประกอบผลผลิตกับผลผลิตของมันเทศ 5 พันธุ์ สภาพนิเวศเกษตร เศรษฐกิจและสังคมของระบบการผลิตข้าวนาน้ำฝนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การศึกษาชนิดและการกระจายพันธุ์ของพรรณไม้น้ำ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของแมลงวันผลไม้ Bactrocera latifrons ในภาคกลางของประเทศไทย ความหลากหลายของไก่พื้นเมืองในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ความสัมพันธ์ของขนาดต้นและผลผลิตของยางพาราในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ความหลากหลายของแมลงศัตรูธรรมชาติของวัชพืชในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก