สืบค้นงานวิจัย
การผลิตและประสิทธิภาพเชิงเทคนิคการผลิตอ้อย ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดขอนแก่น
อนุสรา มูลป้อน - สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ชื่อเรื่อง: การผลิตและประสิทธิภาพเชิงเทคนิคการผลิตอ้อย ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดขอนแก่น
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อนุสรา มูลป้อน
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: เอกสารวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงสภาพทั่วไปของการผลิตอ้อย การวิเคราะห์การใช้ ปัจจัยการผลิต และประสิทธิภาพทางเทคนิคการผลิตอ้อยและปัจจัยที่มีผลต่อความไม่มีประสิทธิภาพทาง เทคนิคของการผลิตอ้อยของเกษตรกร รวมถึงการศึกษาปัญหาและอุปสรรค และปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ ประสิทธิภาพการผลิตอ้อยของเกษตรกร ในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดขอนแก่น โดยการสุ่มเลือกเกษตรกร ตัวอย่างจากเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดขอนแก่น 8 อำเภอ ได้แก่อำเภอน้ำพอง มัญจาคีรี เมืองขอนแก่น สีชมพู หนองเรือ บ้านแฮด ภูผาม่าน และอำเภอชนบท จำนวนตัวอย่างเกษตรกรทั้งสิ้น 99 คน ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรกลุ่มตัวอย่างมีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 51 ปี มีจำนวนสมาชิกวัยแรงงานใน ครัวเรือนเฉลี่ย 2 คน ส่วนใหญ่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และมีประสบการณ์ในการทำไร่อ้อยเฉลี่ย 20 ปี พื้นที่ในการปลูกอ้อยประมาณ 16 ไร่ต่อครัวเรือน เกษตรกรร้อยละ 85.86 เป็นสมาชิกกลุ่มหรือองค์กรด้าน การเกษตร เกษตรกรส่วนใหญ่ขายอ้อยให้กับโรงงานที่อยู่ใกล้พื้นที่ปลูกอ้อย และจำหน่ายลานรับซื้อเนื่องจากมี ความสะดวกและได้เงินสด ไม่ต้องรอคิวเหมือนการจำหน่ายให้กับโรงงาน ลักษณะพื้นที่ ที่เกษตรกรปลูก อ้อยเป็นพื้นที่ดอนถึงร้อยละ 94.95 ชุดดินของเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างมีทั้งหมด 7 ชุด ได้แก่ ชุดดินโคราช ชุดดิน ร้อยเอ็ด ชุดดินปากช่อง ชุดดินตาคลี ชุดดินโพนพิสัย ชุดดินน้ำพอง และชุดดินสตึก ปริมาณผลผลิตโดยเฉลี่ยเท่ากับ 14,080 กิโลกรัมต่อไร่ โดยมีการใช้ปัจจัยการผลิต ได้แก่ ท่อนพันธุ์ใน การปลูกเฉลี่ยเท่ากับ 1,704.04 กิโลกรัมต่อไร่ ใช้แรงานทั้งหมดเฉลี่ย 21 คนต่อไร่ ปริมาณการใช้สารเคมี เฉลี่ย 614.24 กรัมต่อไร่ ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ย 104.84 กิโลกรัมต่อไร่ ปัญหาในการผลิตอ้อยของเกษตรกรที่พบมากที่สุด คือ ปัญหาของต้นทุนในการผลิตอ้อย รองลงมาคือ ปัญหาด้านราคาจำหน่ายอ้อย ความเสื่อมโทรมและความไม่เหมาะสมของชุดดิน และปริมาณ น้ำที่ใช้ในการปลูกอ้อย เป็นปัญหาที่พบรองลงมาจากสองปัญหาดังกล่าวมาแล้ว ปัญหาเรื่องสารเคมี ราคา แพง ปัญหาวัชพืชโรค และแมลง โดยปัญหาคือวัชพืชดื้อยา กำจัดยาก ปุยที่ซื้อมาเป็นปุยปลอม แรงงานใน ครัวเรือนไม่เพียงพอ ทำให้ต้องจ้างแรงงานเพิ่มซึ่งค่าจ้างมีแนวโน้มราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ การหาซื้อพันธุ์อ้อย ได้ยาก และปัญหาเรื่องสุดท้ายของเกษตรกรกลุ่มตัวอย่าง คือปัญหาในเรื่องที่ตั้งที่ดินที่ปลูกอ้อย มีพื้นที่ปลูก อ้อยห่างไกลจากแหล่งน้ำ ทำให้น้ำไม่เพียงพอ ที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งจำหน่ายอ้อย ทำให้เสียค่าขนส่งใน ไปจำหน่ายเพิ่มขึ้น หรือทางเข้าออกแปลงไม่สะดวก สำหรับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพเชิงเทคนิคการผลิต (Technical Efficieng> ในรูปแบบฟังก์ชั่นการผลิต Cobb-Douglas ได้เลือกใช้โปรแกรม Frontier 4.1 ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สะดวกในการใช้ สามารถคำนวณหาระดับประสิทธิภาพการผลิตของแต่ละตัวอย่าง พร้อมทั้งหาระดับประสิทธิภาพการผลิต เฉลี่ยรวมได้ ซึ่งผลจากการรันสมการด้วยโปรแกรมดังกล่าว พบว่า ระดับประสิทธิภาพทางเทคนิคเฉลี่ย เท่ากับ 84.38 ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างผู้ผลิตอ้อยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคได้อีก 0.16 และผลปรากฏว่าสารเคมีและปุยเคมี มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตของเกษตร ถือเป็นปัจจัยที่ควรจะตระหนักและเห็นความสำคัญ แต่เนื่องจากทั้งปุย และสารเคมีถือเป็นต้นทุนในการผลิตอ้อยที่สูงมาก รวมถึง หากใช้ใน ปริมาณที่มากเกินความจำเป็นและใช้ไม่ถูกต้อง จะก่อให้เกิดผลกระทบได้ เช่น การปนเปื้อนของสารเคมีในแหล่ง น้ำใต้ดิน การทำลายระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ การเกิดปัญหาการดื้อยาของแมลงศัตรูอ้อยเป็นต้น ดังนั้น จึงควรเร่งหาสิ่งทดแทนปุยเศมีและสารคมีที่ใส่ลงไป โดยใช้สารที่ทำจากวัตถุดิบทางธรรมชาติทดแทนสารเคมี เช่น สารชีวภาพ หรือใช้ปุยที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติทดแทน หรือการหาวิถีทางเพื่อกำจัดศัตรูอ้อย โดยไม่พึ่งสารเคมี
บทคัดย่อ (EN): This research aimed to study the general condition, the cultivation factors and technical efficiency, the factors affecting technical inefficiency, the cultivation problems and obstacles and the factors related to sugarcane cultivation efficiency of the farmers in the agricultural land reform area of Khonkaen province. The research was operated in 8 districts; Namphong, Mancha Khiri, Muang Khon Kaen, See Chompoo, Nong Reu, Baan Haad, Phu Pha man and Chonnabot in Khonkaen province based on a survey questionnaire with a total of 99 sampled farmer by using multi-stage random sampling method.The findings of this research show that the average age of sampled farmers is 51-year-old and the average of household labor force size is 2 persons. Most of the sampled farmers finished the 4th grade from primary school and have an average of 20 years of work experience in sugarcane cultivation. The sugarcane cultivation area is approximately 16 Rai per household. About 85.86% of the sampled farmers are members of an agricultural group or organization. Most of them sell sugarcane to the factory close to their farm. The production is also sold at the local selling point which is more convenient. It is found that 94.95% of cultivation area is of upland type and 7 soil series are found: Korat, Roi-Et, Pakchong, Takhli, Poanpisai, Namphong, and Satuek.The average production is about 14,080 kg per Rai with the use of cultivation factors per Rai including 1,704.04 kg of sugarcane stalk, 21 workers, 614.24 grams of pesticide and 104.84 kg of chemical fertilizer. The most common problem for the sampled farmers is the production cost. The secondary problem concerns sugarcane selling price. Decadence and unsuitability of soil series and inadequate water quantity are the next below to the two said problems. Other problems found are the high cost of pesticide, pests and weeds resistance, counterfeit fertilizer, household labor force shortage, labor wage increase and difficulty to find sugarcane stalks respectively. The last problem relies on the location of sugarcane crops where is significantly far from water sources in consequence water is not enough for the cultivation. Besides, sugarcane crops situated far from the selling point and the complexity to access to the crops could increase the transportation cost. For analyzing technical efficiency in terms of functional production (Cobb-Douglas), the Frontier 4.1 program is selected because this program has the simple using process and it is convenient to calculate the efficiency level of each sample and also the total average of efficiency level. The result of the equation running by the said program finds that the average technical efficiency level equals to 84.38 This figure indicates that the sampled farmers could increase the technical efficiency of 0.16. In a result, pesticides and chemical fertilizers have an implication in the farmers’ productivity. These two factors should be taken into consideration. But both are considered as the high-cost factor and if it is over- use or misused, it shall have some effects such as the contamination in the underground water source, the destruction of ecology and biodiversity, the pests and weeds resistance for example. Therefore, it is recommended to find the substitutes of pesticide and chemical fertilizer by using the substance made from natural material such as bio-fertilizer or organic-fertilizer.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://www.alro.go.th/research_plan/download/article/article_20190924104504.pdf
เผยแพร่โดย: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คำสำคัญ: ประสิทธิภาพเขิงเทคนิค
หมวดหมู่:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตและประสิทธิภาพเชิงเทคนิคการผลิตอ้อย ของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน จังหวัดขอนแก่น
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2557
เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การปรับปรุงพันธุ์อ้อยเพื่อผลผลิตและพลังงาน การศึกษาประสิทธิภาพการผลิตถั่วเหลือง การใช้เทคโนโลยีการผลิตอ้อยโรงงานของเกษตรกรตำบลดงลาน อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น รูปแบบการทำไร่นาสวนผสมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น ประสิทธิภาพทางเทคนิคการผลิตอ้อยของเกษตรกร ตำบลพังทุย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น โดยวิธี Stochastic Frontier Production Approach ประสิทธิภาพการผลิตแพะตามกิจกรรมศูนย์ผลิตและกระจายแพะพันธุ์ดี การใช้เทคโนโลยีการผลิตอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตำบลน้ำอ้อม อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น ผลของการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมต่อเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอ้อย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก