คลังข้อมูลการวิจัยการเกษตรไทย

ผู้แต่ง รองศาสตราจารย์งามทิพย์ ภู่วโรดม

เผยแพร่โดย

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

เผยแพร่เมื่อ 16 มิถุนายน 2553

หน่วยงาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

งานวิจัยที่แนะนำ การใช้ประโยชน์กากรำข้าวจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำมันรำข้าวเพื่อเป็นอาหารมนุษย์ การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย Polysaccharides การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย polysaccharides การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย polysaccharides การใช้ชานอ้อยดัดแปรในการปรับปรุงคุณภาพของวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การพัฒนาผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จากเปลือกทุเรียน กลุ่มยีนย่อยสลายไม้ที่สามารถสังเคราะห์สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพโดยใช้เทคนิคพันธุวิศวกรรมเพื่อประยุกต์ใช้ทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ(ระยะที่ 2) ใช้ประโยชน์กากเบียร์เพื่อการพัฒนากระถางต้นไม้ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ การผลิตเอนไซม์ย่อยลิกนินจากราย่อยสลายไม้โดยใช้วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยกระบวนการหมักแบบแข็งและการประยุกต์ใช้ การพัฒนาการใช้ประโยชน์จากชานอ้อยสำหรับผลิตภัณฑ์วัสดุชีวภาพ

คัดลอก URL

ชื่อเรื่อง:	การพัฒนาวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากกากรำสกัดน้ำมันเพื่อใช้ทางการเกษตร
ชื่อเรื่อง (EN):	Development of Biodegradable Materials from Defatted Rice Brand for Agricultural Applications
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ:	รองศาสตราจารย์งามทิพย์ ภู่วโรดม
บทคัดย่อ:	สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การพัฒนาวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากกากรำสกัดน้ำมันเพื่อใช้ทางการเกษตร” แก่ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาวัสดุแตกสลายได้ทางชีวภาพได้จากกากรำสกัดน้ำมัน เพื่อใช้ประโยชน์ ทางการเกษตร และเป็นวัสดุแทนโฟมพลาสติก เช่น กระถางเพาะชำ กระถางไม้ดอกไม้ประดับ ถาดรองผักและผลไม้สด กล่องบรรจุดอกไม้สด เป็นต้น พัฒนาสารเคลือบกระถางเพาะชำให้สามารถทนทานการใช้งาน และสลายตัวได้ในดิน พัฒนาสารเคลือบถาดและกล่อง ให้สามารถทนทานการใช้งานและสลายตัวได้ในดิน และพัฒนากระบวนการเติมแต่งปุ๋ยให้ผลิตภัณฑ์ จากการศึกษาวิจัย พบว่า การพัฒนาวัสดุแตกสลายทางชีวภาพได้จากกากรำสกัดน้ำมัน เริ่มต้นด้วยขนาดอนุภาคกากรำสกัดน้ำมันที่เหมาะสมในการขึ้นรูปกระถางเพาะชำ ต้องมีขนาดเล็กกว่า 600 ไมครอน จึงจะได้กระถางกากรำที่มีผิวเรียบเนียน การพัฒนาแม่พิมพ์ขึ้นรูปกระถางเพาะชำ สามารถใช้วัสดุที่มีราคาต่ำ คือเหล็ก แทนการใช้อะลูมิเนียม การพัฒนาเครื่องขึ้นรูปโดยใช้ระบบไฮดรอลิก และพัฒนาโปรแกรมการขึ้นรูปกระถางให้ทำงาน 2 จังหวะ การเคลือบกระถางโดยใช้เครื่องต้นแบบเคลือบ 2 ด้าน เป็นการฉีดพ่นสารเคลือบโดยหัวสเปรย์ลงบนกระถาง โดยให้หัวสเปรย์อยู่กับที่จำนวน 3 หัว ฉีดพ่นพร้อมกันลงบนกระถางหมุนอยู่ สามารถเคลือบกระถางได้ 300-350 ใบต่อชั่วโมง สารเคลือบติดอยู่บนผิวกระถาง 6.5-7.0 กรัมต่อใบ ซึ่งเป็นสูตรที่ผลิตจากพอลิเมอร์ชีวภาพ S30F5 lมารถใช้เพาะต้นไม้ได้ถึง 5 สัปดาห์โดยที่กระถางยังคงรูปได้อยู่ การศึกษาสูตรขึ้นรูปกระถางเพาะชำ ปริมาณกากรำสกัดน้ำมันที่เหมาะสมที่สามารถขึ้นรูปได้คือ ร้อยละ 40-42 สูตรผสมที่ดีที่สุดคือ สูตร 5C ทำการขึ้นรูปโดยใช้อุณหภูมิ 195-200 องศาเซลเซียส เวลา 210 วินาที การทดสอบสมบัติการใช้งานของกระถางกากรำ โดยการทดสอบความต้านทานแรงกดเริ่มต้นและหลังอายุการเก็บ 1 ปี พบว่าความต้านทานแรงกดของกระถางจะลดลงเมื่อกระถางดูดซับน้ำเพิ่มขึ้น แต่การใช้งานในการเพาะเมล็ดกระถางสามารถคงรูปได้อยู่ถึง 5 สัปดาห์ กระถางกากรำสามารถต้านแรงกดในแนวดิ่งได้สูงกว่าด้านข้าง และเมื่อเก็บเป็นเวลา 1 ปี ความแข็งแรงของกระถางเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และทดสอบการย่อยสลายตามมาตรฐาน EN-13432 พบว่าผ่านเกณฑ์ทุกประเด็น เมื่อนำกระถางกากรำไปปลูกดาวเรืองและพริกประดับเปรียบเทียบกับการใช้ถุงพลาสติกดำ พบว่าการใช้ถุงพลาสติกดำส่งผลให้ต้นอ่อนเจริญเติบโตดีกว่า แต่เมื่อย้ายต้นอ่อนลงปลูกจนครบ 8 สัปดาห์ ต้นอ่อนที่เพาะในถุงพลาสติกโตช้าลง ส่วนต้นอ่อนในกระถางกากรำยังเติบโตได้ดี ส่วนการเติมปุ๋ยลงในกระถางกากรำ และศึกษาเปรียบเทียบกับปุ๋ยที่ใช้เติมแต่ง 3 ชนิด พบว่ากระถางกากรำเติมแต่งปุ๋ยเม็ดละลายช้าจะปลดปล่อยธาตุอาหารหลักออกมาช้าๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตได้ดีกว่า การเพิ่มศักยภาพการใช้งานให้วัสดุจากกากรำสกัดน้ำมัน โดยการเพิ่มวัตถุดูดซับเอทิลีนในวัสดุ หรือด้วยวิธีการที่เหมาะสม เพื่อใช้เป็นภาชนะบรรจุผัก ผลไม้ และดอกไม้สด สามารถช่วยชะลอการเสื่อมเสียคุณภาพของพืชที่ไวต่อเอทิลีน ซึ่งวัสดุพาหะที่สามารถดูดซับสารเคมีจำกัดเอทิลีนหรือสารออกซิแดนท์ได้ดี คือเวอร์มิคูไลต์ ซึ่งการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานพบว่ามีส่วนช่วยชะลอการเปลี่ยนสีของเปลือกกล้วยเป็นสีเหลืองอย่างชัดเจน แต่การยืดอายุการสุกจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีภายในผลของกล้วยหอมยังไม่ชัดเจนนัก ประโยชน์ที่จะได้รับจากผลงานวิจัยได้ สามารถเพิ่มมูลค่าของกากรำสกัดน้ำมันโดยพัฒนาวัสดุแตกสลายทางชีวภาพได้จากกากรำสกัดน้ำมัน เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรในรูปของกระถางเพาะชำ กระถางไม้ดอกไม้ประดับ ถาดรองผักและผลไม้สด กล่องบรรจุดอกไม้สด เป็นต้น
บทคัดย่อ:	ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN):	th
เผยแพร่โดย:	มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ:	กากรำ
คำสำคัญ (EN):	Defatted Rice Brand
เจ้าของลิขสิทธิ์:	สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
ข้อมูลทรัพยสินทางปัญญา
ประเภทIP	ลิขสิทธิ์
รายชื่อสิ่งประดิษฐ์	การพัฒนาวัสดุย่อยสลายได้ทางชีวภาพจากกากรำสกัดน้ำมันซึ่งเป็นวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
เลขที่คำขอ	244448
วันที่ยื่นคำขอ	2010-10-01 12:00:00
เลขที่ประกาศ
วันที่จดทะเบียน	2010-12-03 12:00:00
เลขที่จดทะเบียน	ส.8373
วันที่ประกาศ
สถานะปัจจุบัน	เชิงพาณิชย์