สืบค้นงานวิจัย
ความหนาแน่นของปลาที่เหมาะสมต่อปริมาณธาตุอาหารในน้ำทิ้งเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวไรซ์เบอรี่
ทวีเดช ไชยนาพงษ์ - มหาวิทยาลัยทักษิณ
ชื่อเรื่อง: ความหนาแน่นของปลาที่เหมาะสมต่อปริมาณธาตุอาหารในน้ำทิ้งเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวไรซ์เบอรี่
ชื่อเรื่อง (EN): Appropriate fish density per fish wastewater nutrients for growth and yield of Riceberry
บทคัดย่อ: น้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำอุดมไปด้วยสารอินทรีย์ ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชได้ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหนาแน่ของปลานิลและปลาดุกลูกผสมที่เหมาะสมต่อปริมาณธาตุ อาหารในน้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงปลาเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวไรซ์เบอรี่และเพื่อประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของการใช้น้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงปลาสำหรับลูกข้าวไรซ์เบอรี่ โดยทดลองเลี้ยงปลานิลและปลาดุกถูกผสมขนาดน้ำหนักเฉลี่ย 23.5-32.6 กรัมในถังไฟเบอร์ขนาดความจุ 500 ลิตร ในอัตราความหนาแน่น 20, 25 และ 30 ต่อตัวถัง ทำการทดลอง 3 ซ้ำ ให้ปลากินอาหารเม็ดสำเร็จรูปโปรตีน 32% ให้กินจนอิ่มภายใน 30 นาที วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 112 วัน ตรวจวัดการเจริญเติบโตของปลาและคุณภาพน้ำทุกๆ 14 วัน และปลาอยน้ำจากถังเลี้ยงปลาลงสู่ท่อกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 0.5 เมตร ที่ปลูกข้าวไรซ์เบอรี่จำนวน 10 เมล็ดต่อแปลง วัดการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวแต่ละแปลง ผลการทดลองพบว่า ปลานิลหรือปลาดุกลูกผสมที่เลี้ยงในอัตราความหนาแน่ต่างกันมีน้ำหนักเฉลี่ยไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) แต่ปลานิลมี น้้ำหนักเฉลี่ยสูงกว่าปลาดุกลูกผสมอย่างมีนัยสำคัญทำงสถิติ (p0.05) มีค่าระหว่ำง 329.5?50.7 - 446.7?113.4 กรัมต่อแปลง และจากการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของการใช้น้ำทิ้งจากบ่อเลี้ยงปลาสำหรับปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ พบว่าการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ โดยใช้น้ำจากถังพักน้ำได้ผลตอบแทนเพียง 6.6 บาทต่อแปลง ในขณะที่การปลูกข้าวโดยใช้น้ำจากถังเลี้ยงปลาได้ผลตอบแทนจากการปลูกข้าวระหว่าง 8.2-11.2 บาทต่อแปลง และเมื่อรวมกำไรสุทธิจากการปลูกข้าวและการเลี้ยงปลาพบว่าการเลี้ยงปลานิลในอัตราความหนาแน่น 30 ตัวต่อถังมีกำไรสุทธิสูงที่สุด คือ 105.2 บาทต่อปลา 1 ถัง และข้าว 1 แปลง ผลอบแทนการลงทุนมีค่าเท่ากับ 56.6 และ 71.6% สำหรับการเลี้ยงปลานิลและการเลี้ยงปลาดุกลูกผสมในอัตราความหนาแน่น 30 ตัวต่อถังตามลำดับ จากผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าน้ำทิ้งจากการเลี้ยงปลานิลอุดมไปด้วยธาตุไนโตรเจน ส่วนน้ำทิ้งจากการเลี้ยงปลาดุกลูกผสมอุดมไปด้วยธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ การเลี้ยงปลานิลที่อัตราความหนาแน่น 30 ตัวต่อถัง ให้กไรสุทธิสูงที่สุด และการเลี้ยงปลาดุกลูกผสมในอัตราความหนาแน่น 25 ตัวต่อถัง มีผลตอบแทนการลงทุนสูงที่สุด
บทคัดย่อ (EN): Effluent from aquaculture ponds rich in organic matter can be used to grow crops. The aims of this study were to determine the appropriate stocking density of Nile tilapia (Oreochromis niloticus) and hybrid catfish (Clarias macrocephalus x C. gariepinus) on effluent as nutrient inputs for Riceberry production. With an initial weight of 23.5-32.6 grams, Nile tilapia and hybrid catfish were tested in 500-L fiberglass tanks with 20, 25 or 30 fish per tank with three replicates. Fish were fed a 32% protein catfish feed to satiation within 30 min, twice daily, for 112 days. Fish growth and water quality were monitored every 14 days. Effluent from the fish tank were irrigated to 1 diameter plot with ten seed of Riceberry. Rice growth and rice production from each plot were evaluated. The results showed that there were no significant differences in the final body weight of Nile tilapia or hybrid catfish at different stocking densities but Nile tilapia had significantly higher final body weight than hybrid catfish. Ammonia, nitrite and nitrate in the Nile tilapia tank were significantly higher than in the hybrid catfish tank. On the other hand, on day 14 – 84 of the experiment, total phosphorus in the hybrid catfish tank was significantly higher than in the Nile tilapia tank. The rice plot irrigated from all fish tanks except at the density of 20 hybrid catfish per tank had significantly higher rice yield than rice plot irrigated from tap water. Rice yield were 266.0?132.2 and 329.5?50.7 - 446.7?113.4 grams per plot from rice plot irrigated from tap water and fish tanks, respectively. Economic analysis showed that gross revenue of the rice plot irrigated from tap water was 6.6 baht per plot. Whereas, gross revenue of the rice plot irrigated from the fish tanks ranged from 8.2-11.2 baht per plot. The density of 30 Nile tilapia per tank showed the highest net profit from rice and fish which were 105.2 baht per 1 fish tank and 1 rice plot. Return on investment was 56.6 and 74.0 % from 30 Nile tilapia and 25 hybrid catfish per tank, respectively. The results from this study indicated that effluent from Nile tilapia tank rich in nitrogen and effluent from hybrid catfish tank rich in phosphorus can be used as nutrient inputs for Riceberry. Nile tilapia stocked at 30 fish per tank had the highest net profit and hybrid catfish stocked at 25 fish per tank had the highest return on investment.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยทักษิณ
คำสำคัญ: ข้าวสังข์หยด
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความหนาแน่นของปลาที่เหมาะสมต่อปริมาณธาตุอาหารในน้ำทิ้งเพื่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวไรซ์เบอรี่
มหาวิทยาลัยทักษิณ
30 กันยายน 2558
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดข้าวเหนียวในดินจังหวัดพัทลุง ผลของการเก็บรักษาไรแดงต่อการเจริญเติบโตของปลา การใช้ปุ๋ยคอกมูลไก่และวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลทรายต่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน การเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าวไรซ์เบอรี่ การศึกษาอัตราการเจริญเติบโตของปลาเสือตอที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มีชีวิต การทดสอบสายพันธุ์ปลานิลจิตรลดา 3 และปลานิลจิตรลดา 4 ในกระชังของเกษตรกร ผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโต การฟื้นตัวจากการขาดน้ำและการเพิ่มผลผลิตของข้าวนาน้ำฝน 5 พันธุ์ ชนิดและระดับคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลาหมอ ผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตของปลาหมอ การเจริญเติบโต อัตราการรอดตาย และผลผลิตของปลานิลแดงในบ่อพักน้ำเค็ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก