สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
สุกัญญา ยียะมา - มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุกัญญา ยียะมา
บทคัดย่อ: 0, 3:1, 2:2, 1:3 เเละ 4:0 เพื่อศึกษา อัตราส่วนทีเหมาะสมระหว่างดินกับกากตะกอน ที่นำมาปลูกผักกาดหอม และศึกษาการเจริญเติบ โตด้านความสูง จำนวนใบ มวลชีวภาพ และวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วที่สะสมในผักกาดหอม โดยใช้ เทคนิคอะตอมมิคแอบซอบชัน สเปกโตรโฟโตมิเตอร์ ผลการศึกษาการเจริญเติบโตด้านความสูง พบว่า ผักกาคหอมที่ปลูกในอัตราส่วนดิน ต่อ กากตะกอน 2:2 คือ 8.57 เซนติเมตร รองลงมา คือ อัตราส่วน 3:1, 4:0 และ 1:3 ซึ่งเท่ากับ 7.37 6.5 และ 5.17 เซนติเมตร ตามลำดับ และจำนวนใบเฉลี่ยสูงสุดที่อัตราส่วน 2:2 คือ 6.67 ใบ/วัน รองลงมา คือ อัตราส่วน 4:0, 3:1 และ 1:3 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 5.2 4.7 และ 3.73 ใบ/วัน ตามลำดับ สำหรับมวลชีวภาพเฉลีย พบว่า ในอัตราส่วน 2:2 มีมวลชีวภาพมากที่สุดคือ 106 กรัม/แปลง และ รองลงมาคืออัตราส่วน 3:1, 4:0 และ 1:3 มีค่าเท่ากับ 59.54, 54.82 และ 32. กรัม/แปลง ตามลำคับ การวิเคราะห์หาปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม พบว่าค่าความแปรปรวนของอัตราส่วนดิน ต่อกากตะกอนไม่มีค่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าอัตราส่วนผสมของดินเเละ กากตะกอนไม่มีผลต่อปริมาณตะกั่วที่สะสมอยู่ในผักกาดหอม ส่วนปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม พบว่า ค่าปริมาณตะกัวที่สะสมมากที่สุดในอัตราส่วน 1:3 รองลงมา คือ อัตราส่วน 2:2 มีผลตามลำดับดังนี้ 5.05 ไมโครกรัม/กิโลกรัม และ 4.89 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ซึ่งค่าที่ได้จัดว่าไม่อยู่ ในระดับที่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อพืช เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานทีกำหนดไว้ และไม่เป็นอันตราย ต่อผู้บริโภค ซึ่งตะกั่วจะเเสดงความเป็นพิษต่อมนุษย์เมื่อบริโภคพืชที่มีปริมาณตะกั่วประมาณ 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยในอัตราส่วน 2:2 เป็นอัตราส่วนทีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผัก เนื่องจากมีการใส่กากตะกอนในปริมาณที่เหมาะสม และจากการนำจุลินทรึย์มีประสิทธิมาใช้ใน การศึกษา พบว่า ไม่สามารถเพิ่มการเจริญเติบโตให้กับผักกาดหอมที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนได้ และยังไม่มีผลต่อการดูดซึมปริมาณตะกัวของผักกาดหอมอีกค้วย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=31&RecId=589&obj_id=6738
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
คำสำคัญ: ว.จ.546.688
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
รายละเอียด: 0, 3:1, 2:2, 1:3 เเละ 4:0 เพื่อศึกษา อัตราส่วนทีเหมาะสมระหว่างดินกับกากตะกอน ที่นำมาปลูกผักกาดหอม และศึกษาการเจริญเติบ โตด้านความสูง จำนวนใบ มวลชีวภาพ และวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วที่สะสมในผักกาดหอม โดยใช้ เทคนิคอะตอมมิคแอบซอบชัน สเปกโตรโฟโตมิเตอร์ ผลการศึกษาการเจริญเติบโตด้านความสูง พบว่า ผักกาคหอมที่ปลูกในอัตราส่วนดิน ต่อ กากตะกอน 2:2 คือ 8.57 เซนติเมตร รองลงมา คือ อัตราส่วน 3:1, 4:0 และ 1:3 ซึ่งเท่ากับ 7.37 6.5 และ 5.17 เซนติเมตร ตามลำดับ และจำนวนใบเฉลี่ยสูงสุดที่อัตราส่วน 2:2 คือ 6.67 ใบ/วัน รองลงมา คือ อัตราส่วน 4:0, 3:1 และ 1:3 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 5.2 4.7 และ 3.73 ใบ/วัน ตามลำดับ สำหรับมวลชีวภาพเฉลีย พบว่า ในอัตราส่วน 2:2 มีมวลชีวภาพมากที่สุดคือ 106 กรัม/แปลง และ รองลงมาคืออัตราส่วน 3:1, 4:0 และ 1:3 มีค่าเท่ากับ 59.54, 54.82 และ 32. กรัม/แปลง ตามลำคับ การวิเคราะห์หาปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม พบว่าค่าความแปรปรวนของอัตราส่วนดิน ต่อกากตะกอนไม่มีค่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แสดงว่าอัตราส่วนผสมของดินเเละ กากตะกอนไม่มีผลต่อปริมาณตะกั่วที่สะสมอยู่ในผักกาดหอม ส่วนปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม พบว่า ค่าปริมาณตะกัวที่สะสมมากที่สุดในอัตราส่วน 1:3 รองลงมา คือ อัตราส่วน 2:2 มีผลตามลำดับดังนี้ 5.05 ไมโครกรัม/กิโลกรัม และ 4.89 ไมโครกรัม/กิโลกรัม ซึ่งค่าที่ได้จัดว่าไม่อยู่ ในระดับที่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อพืช เมื่อเทียบกับค่ามาตรฐานทีกำหนดไว้ และไม่เป็นอันตราย ต่อผู้บริโภค ซึ่งตะกั่วจะเเสดงความเป็นพิษต่อมนุษย์เมื่อบริโภคพืชที่มีปริมาณตะกั่วประมาณ 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยในอัตราส่วน 2:2 เป็นอัตราส่วนทีเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผัก เนื่องจากมีการใส่กากตะกอนในปริมาณที่เหมาะสม และจากการนำจุลินทรึย์มีประสิทธิมาใช้ใน การศึกษา พบว่า ไม่สามารถเพิ่มการเจริญเติบโตให้กับผักกาดหอมที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนได้ และยังไม่มีผลต่อการดูดซึมปริมาณตะกัวของผักกาดหอมอีกค้วย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักกาดหอม โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
2548
การวิเคราะห์ปริมาณทองแดงในผักกาดหอมโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การทดสอบประสิทธิภาพของสารฮิวมิคแอซิคในผักกาดหัว การคัดเลือกแบบรวมรอบที่ 1 ของผักกาดหัวพันธุ์เบา ศึกษาการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินชุดโคราช การวิเคราะห์ปริมาณนิกเกิลในผักกาดกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักกาดเขียวกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การวิเคราะห์ปริมาณแคดเมียมในผักกาดเขียวกวางตุ้ง โดยใช้จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานค การวิเคราะห์ปริมาณตะกั่วในผักคะน้าโดยใช้ จุลินทรีย์มีประสิทธิภาพที่ปลูกด้วยดินผสมกากตะกอน จากระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลางนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร การศึกษาปริมาณธาตุอาหารรองในดินตะกอนจุลินทรีย์จากระบบบำบัดน้ำเสียแบบเลี้ยงตะกอนจุลินทรีย์ในอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลังแปรรูป
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก