สืบค้นงานวิจัย
เบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี น้ำตาล ใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางโภชนากา
Siriwan Suknicom - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี น้ำตาล ใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางโภชนากา
ชื่อเรื่อง (EN): Beta-carotene, lycopene, vitamin E, sugar, soluble and insoluble dietary fiber contents in selected Thai fruits for health and diseases guidelines
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Siriwan Suknicom
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปริมาณเบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี และน้ำตาล ด้วยวิธี High Performance Liquid Chromatography และวิเคราะห์ปริมาณใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ด้วยวิธี enzymatic-gravimetric ในผลไม้ไทยและผลไม้กระป๋อง รวมถึงคำนวณหาปริมาณของสารอาหารเหล่านี้ต่อหนึ่ง หน่วยบริโภค และหาความสัมพันธ์ระหว่าง ดัชนีน้ำตาลของผลไม้และดัชนีน้ำตาลของผลไม้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภคกับ ปริมาณน้ำตาลและปริมาณใยอาหาร โดยเก็บตัวอย่างผลไม้สด 37 ชนิด และผลไม้กระป๋อง 4 ชนิดจากตลาดสดและ ซูเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่งในกรุงเทพมหานคร ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ผลการศึกษาพบว่า ใน ตัวอย่างผลไม้สดและผลไม้กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ มีปริมาณเบต้าคาโรทีน ตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 616.10 ไมโครกรัม มีปริมาณไลโคปีนตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 6693.04 ไมโครกรัม และมีปริมาณวิตามินอีตั้งแต่ วิเคราะห์ไม่ พบถึง 1.43 มิลลิกรัม ส่วนปริมาณน้ำตาลในผลไม้สดและผลไม้กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ พบว่าน้ำตาลซูโครส มีค่าตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 12.99 กรัม น้ำตาลกลูโคสมีค่าตั้งแต่ 0.47 ถึง 10.28 กรัม น้ำตาลฟรุกโตสมีค่าตั้งแต่ 1.03 ถึง 9.93 กรัม และปริมาณน้ำตาลทั้งหมดมีค่าตั้งแต่ 4.54 ถึง 20.33 กรัม สำหรับปริมาณใยอาหารในผลไม้สดและผลไม้ กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้พบว่า ใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำมีค่าตั้งแต่ 0.20 ถึง 10.16 กรัม ใยอาหารชนิดที่ ละลายน้ำได้มีค่าตั้งแต่ 0.15 ถึง 2.76 กรัม และใยอาหารทั้งหมดมีค่าตั้งแต่ 0.60 ถึง 11.43 กรัม เมื่อคำนวณปริมาณสารอาหารเหล่านี้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค พบว่าแตงโมจินตราแดงเป็นแหล่งที่ดีของเบต้าคาโร ทีนและไลโคปีน โดยมีค่าประมาณ 1047 และ 11378 ไมโครกรัมตามลำดับ มะม่วงเขียวเสวยดิบมีปริมาณวิตามินอีต่อ หนึ่งหน่วยบริโภคสูงสุด คือ 0.9 มิลลิกรัม หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณวิตามินอีที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส้มโอ ขาวน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตาลซูโครสสูงที่สุด คือ 12.0 กรัม องุ่นเขียวมีปริมาณน้ำตาลกลูโคสสูงที่สุด คือ 6.9 กรัม มะละกอ แขกดำมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูงที่สุด คือ 8.8 กรัม และลองกองมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดสูงที่สุด คือ 14.2 กรัม สตรอ เบอรี่มีปริมาณใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำสูงที่สุด คือ 2.2 กรัม ละมุดมีปริมาณใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำและใยอาหาร ทั้งหมดสูงที่สุด คือ 7.0 และ 7.9 กรัม และพบว่าละมุดเป็นแหล่งที่ดีของใยอาหาร โดยละมุดหนึ่งหน่วยบริโภคให้ใย อาหารคิดเป็นร้อยละ 32 ของปริมาณใยอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน จากการศึกษานี้พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง ดัชนีน้ำตาลในผลไม้กับปริมาณน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรุกโตส แต่พบว่ามีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงระหว่างดัชนี น้ำตาลในผลไม้ กับปริมาณซูโครสและน้ำตาลทั้งหมด (r= 0.429 และ 0.441 ตามลำดับ ที่ p<0.05) นอกจากนี้พบว่า ดัชนีน้ำตาลของผลไม้มีความสัมพันธ์แบบแปรผกผันกับใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำและใยอาหารทั้งหมด (r= -0.550 และ -0.421 ตามลำดับ ที่ p<0.05) แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับปริมาณใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำ
บทคัดย่อ (EN): g/one edible portion, respectively. The highest vitamin E content was found in unripe mango (Keosawoei variety) (0.9 mg/one edible portion) which is 9% of the Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) of vitamin E. The highest content of sucrose was found in pomelo (Khaonahmpeung variety) (12.0 g/one edible portion) while the highest content of glucose was found in grape (Green variety) (6.9 g/one edible portion). The highest fructose content was found in papaya (Khakdahm variety) (8.8 g/one edible portion) and the highest total sugar content was found in longkong (14.2 g/one edible portion). Strawberry contained the highest soluble dietary fiber (2.2 g/one edible portion) and sapodilla had the highest amounts of insoluble and total dietary fiber (7.0 and 7.9 g/one edible portion). The best source of dietary fiber in fruits per one edible portion was sapodillas which is 32% of the Thai RDI of dietary fiber. There was no significant correlation between GI and both glucose and fructose but a significant positive correlation between GI and both sucrose and total sugar was found (r=0.429 and 0.441, respectively at p<0.05). In addition, there was no significant correlation between GI and soluble dietary fiber, however a significant negative correlation was found between GI and insoluble dietary fiber and total dietary fiber (r= -0.550 and -0.421, respectively at p<0.05).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4163&obj_id=4268
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Vitamin E
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปริมาณเบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี และน้ำตาล ด้วยวิธี High Performance Liquid Chromatography และวิเคราะห์ปริมาณใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ด้วยวิธี enzymatic-gravimetric ในผลไม้ไทยและผลไม้กระป๋อง รวมถึงคำนวณหาปริมาณของสารอาหารเหล่านี้ต่อหนึ่ง หน่วยบริโภค และหาความสัมพันธ์ระหว่าง ดัชนีน้ำตาลของผลไม้และดัชนีน้ำตาลของผลไม้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภคกับ ปริมาณน้ำตาลและปริมาณใยอาหาร โดยเก็บตัวอย่างผลไม้สด 37 ชนิด และผลไม้กระป๋อง 4 ชนิดจากตลาดสดและ ซูเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่งในกรุงเทพมหานคร ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 ผลการศึกษาพบว่า ใน ตัวอย่างผลไม้สดและผลไม้กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ มีปริมาณเบต้าคาโรทีน ตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 616.10 ไมโครกรัม มีปริมาณไลโคปีนตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 6693.04 ไมโครกรัม และมีปริมาณวิตามินอีตั้งแต่ วิเคราะห์ไม่ พบถึง 1.43 มิลลิกรัม ส่วนปริมาณน้ำตาลในผลไม้สดและผลไม้กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ พบว่าน้ำตาลซูโครส มีค่าตั้งแต่วิเคราะห์ไม่พบถึง 12.99 กรัม น้ำตาลกลูโคสมีค่าตั้งแต่ 0.47 ถึง 10.28 กรัม น้ำตาลฟรุกโตสมีค่าตั้งแต่ 1.03 ถึง 9.93 กรัม และปริมาณน้ำตาลทั้งหมดมีค่าตั้งแต่ 4.54 ถึง 20.33 กรัม สำหรับปริมาณใยอาหารในผลไม้สดและผลไม้ กระป๋อง 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้พบว่า ใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำมีค่าตั้งแต่ 0.20 ถึง 10.16 กรัม ใยอาหารชนิดที่ ละลายน้ำได้มีค่าตั้งแต่ 0.15 ถึง 2.76 กรัม และใยอาหารทั้งหมดมีค่าตั้งแต่ 0.60 ถึง 11.43 กรัม เมื่อคำนวณปริมาณสารอาหารเหล่านี้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค พบว่าแตงโมจินตราแดงเป็นแหล่งที่ดีของเบต้าคาโร ทีนและไลโคปีน โดยมีค่าประมาณ 1047 และ 11378 ไมโครกรัมตามลำดับ มะม่วงเขียวเสวยดิบมีปริมาณวิตามินอีต่อ หนึ่งหน่วยบริโภคสูงสุด คือ 0.9 มิลลิกรัม หรือคิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณวิตามินอีที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส้มโอ ขาวน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตาลซูโครสสูงที่สุด คือ 12.0 กรัม องุ่นเขียวมีปริมาณน้ำตาลกลูโคสสูงที่สุด คือ 6.9 กรัม มะละกอ แขกดำมีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูงที่สุด คือ 8.8 กรัม และลองกองมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดสูงที่สุด คือ 14.2 กรัม สตรอ เบอรี่มีปริมาณใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำสูงที่สุด คือ 2.2 กรัม ละมุดมีปริมาณใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำและใยอาหาร ทั้งหมดสูงที่สุด คือ 7.0 และ 7.9 กรัม และพบว่าละมุดเป็นแหล่งที่ดีของใยอาหาร โดยละมุดหนึ่งหน่วยบริโภคให้ใย อาหารคิดเป็นร้อยละ 32 ของปริมาณใยอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน จากการศึกษานี้พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่าง ดัชนีน้ำตาลในผลไม้กับปริมาณน้ำตาลกลูโคสและน้ำตาลฟรุกโตส แต่พบว่ามีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงระหว่างดัชนี น้ำตาลในผลไม้ กับปริมาณซูโครสและน้ำตาลทั้งหมด (r= 0.429 และ 0.441 ตามลำดับ ที่ p
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี น้ำตาล ใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางโภชนากา
Siriwan Suknicom
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
เกลือแร่ชนิดต่างๆ ไฟเตทและแทนนินในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางด้านโภชนาการ การผลิตเบต้า-คาโรทีนจาก Rhodotorula glutinis DM28 ในน้ำหมักดองโดยกระบวนการหมัก การวิเคราะห์หาชนิดของเอนไซม์เบต้า การศึกษาชนิดและปริมาณของน้ำตาลและกรดอินทรีย์บางชนิดในสารที่หลั่งจากราก (root exudate) ของข้าว 5 พันธุ์ ดัชนีน้ำตาลของขนมเทียนในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 กับผลดีที่เกิดขึ้นต่อระดับน้ำตาล, ไขมันและคว ต่อการเ การผลิตโอโซนโดยวิธีโคโรนาดิสชาร์จ ผลกระทบของการหมุนเวียนน้ำเสียที่มีไตโตรเจนภายในระบบและการควบคุมออกซิเจนละลายน้ำต่อการกำจัดธ การทบทวนอย่างเป็นระบบและอภิวิเคราะห์ของการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองต่อการควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2. การพัฒนาไมโครฟลูอิดิกเคมิลูมิเนสเซนส์สำหรับวิเคราะห์หาไนโตรฟูรานบางชนิดในเภสัชภัณฑ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก