สืบค้นงานวิจัย
ความแปรปรวนของปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวเหนียวก่ำพันธุ์พื้นเมืองของไทย
สุภาภรณ์ ญะเมืองมอญ - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ความแปรปรวนของปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวเหนียวก่ำพันธุ์พื้นเมืองของไทย
ชื่อเรื่อง (EN): Variation of Anthocyanin Content and Antioxidant Capacity among Local Thai Purple Glutinous Rice Genotypes
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุภาภรณ์ ญะเมืองมอญ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Supaporn Yamuangmorn
บทคัดย่อ: ข้าวเหนียวดำหรือข้าวเหนียวก่ำอุดมไปด้วยสารสำคัญที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารรงควัตถุให้สีคือ แอนโทไซยานินที่อยู่บริเวณเยื่อหุ้มเมล็ด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคสำคัญหลายชนิด ทำให้ปัจจุบันข้าวเหนียวก่ำเป็นข้าวที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความแปรปรวนของผลผลิต ปริมาณแอนโทไซยานินและ ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ ในข้าวเหนียวก่ำพันธุ์พื้นเมือง 19 พันธุ์ โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 3 ซ้ำ ปลูกข้าวเหนียวก่ำทั้งหมดในสภาพการจัดการเดียวกัน เก็บเกี่ยวเมล็ดในระยะสุกแก่เพื่อประเมินผลผลิตและวิเคราะห์ปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระในข้าวกล้อง ผลการทดลองพบว่า มีความแตกต่างของผลผลิต แอนโทไซยานินและ ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระระหว่างข้าวเหนียวก่ำทั้ง 19 พันธุ์ โดยมีผลผลิตอยู่ในช่วง 260 - 625 กิโลกรัม/ไร่ ปริมาณแอนโทไซยานินมีค่าอยู่ในช่วง 9.73 - 54.68 มิลลิกรัม/100 กรัม และ ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระมีค่าอยู่ในช่วง 251.76 - 709.38 มิลลิกรัม Trolox/100 กรัม และ 2304.6 - 6247.0 ไมโครโมล Fe(II)/100 กรัม วัดโดยวิธี DPPH และ FRAP ตามลำดับ โดยพบว่า พันธุ์ก่ำ 7677 เป็นพันธุ์ที่มีผลผลิต แอนโทไซยินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ยังพบว่า การวัดความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่วัดได้จากทั้งสองวิธีมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = 0.71, p < 0.01) ในขณะที่ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่วัดได้ทั้งสองวิธี แสดงให้เห็นว่า แอนโทไซยานินเป็นสารที่ทำให้เกิดสีดำในข้าวเหนียวก่ำแต่อาจจะไม่ใช่องค์ประกอบหลักของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเพียงตัวเดียวในการต้านอนุมูลอิสระที่พบในข้าวเหนียวก่ำที่เป็นข้าวกล้อง น่าจะมีสารชนิดอื่นๆ ที่ออกฤทธิ์ในการต้านอนุมูอิสระอีกที่มีบทบาทสำคัญและทำหน้าที่ร่วมกัน ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจในการศึกษาวิจัยเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป อย่างไรก็ตามผลการทดลองนี้สามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการศึกษากลไกการสะสมสารแอนโทไซยานินที่ไม่สอดคล้องกับความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระที่พบในข้าวเหนียวก่ำ รวมทั้งการคัดเลือกพันธุกรรมข้าวเหนียวก่ำเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเหนียวก่ำให้มีปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภคต่อไป
บทคัดย่อ (EN): Purple rice is rich in nutritional values and bioactive compounds such as anthocyanins found mostly in pericarp layer of the grain. They illustrate antioxidant properties by reacting against reactive oxygen species. For this reason, consuming purple rice has recently become popularly among health concerning people. The objective of this study was to determine variation of grain yield, anthocyanin content and antioxidant capacity among 19 local purple rice genotypes. The experiment was arranged in RCBD with 3 replications. Rice plants were grown in the same growing condition and harvested at maturity for yield evaluation. Anthocyanin content and antioxidant capacity were analyzed in brown rice caryopsis. The results show significant variation in grain yield, anthocyanin content and antioxidant capacity among the 19 purple rice genotypes. Grain yield varied significantly from 260 to 625 kg/rai, anthocyanin content ranged from 9.73 - 54.68 mg/100 g and antioxidant capacity ranged from 251.76 - 709.38 mg Trolox/100 g and 2304.6 - 6247.0 µmol Fe (II)/100 g determined by DPPH and FRAP assays, respectively. The genotype Kum 7677 had the highest amount of grain yield, anthocyanins and antioxidants determined by DPPH assay. These 2 assays was used to determine the antioxidant capacity in purple rice as they were significantly correlated (r = 0.71, p < 0.01). The correlation was not observed between anthocyanin content and antioxidant capacity determined by both assays. There should be some other compounds play the similar role as anthocyanin which is requiring further study. However, the information in this study encourages further study on physiological mechanisms of anthocyanin and antioxidant accumulation in rice grain among different rice genotypes and the selection of rice genotypes in breeding program for high anthocyanin and antioxidant capacity genotypes which will be benefit for rice consumers.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://li01.tci-thaijo.org/index.php/joacmu/article/view/245560/167868
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: สารต้านอนุมูลอิสระ
คำสำคัญ (EN): antioxidant
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความแปรปรวนของปริมาณแอนโทไซยานินและความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวเหนียวก่ำพันธุ์พื้นเมืองของไทย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2559
การศึกษาโรคที่เกิดกับข้าวเหนียวพันธุ์พื้นเมือง แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวก่ำเพิ่มมูลค่าเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ แอนโทไซยานินกับประเด็นด้านสุขภาพ: โรคเบาหวานชนิดที่ 2 การวัดปริมาณแอนโทไซยานินและสารโพลีฟีนอลอื่นๆในหม่อน ที่ตอบสนองต่อสภาวะแล้งและอุณหภูมิต่ำ ปริมาณกาบาและกิจกรรมต้านอนุมูลอิสระของข้าวกล้องงอกพันธุ์พื้นเมืองในจังหวัดมหาสารคาม 5 สายพันธุ์ การพัฒนาการผลิต Bioactive Fractions ที่มีฤทธิ์ต้านการกลายพันธุ์ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการสลายเซลล์ข้อเข่าจากการสกัดหยาบของลำไย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาสมุนไพรแห้งที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูง การบ่งชี้โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารประกอบแอนโทไซยานินในข้าวเหนียวดำ ผลของกระบวนการแปรรูปต่อปริมาณและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของแอนโทไซยานินในแป้งข้าวกล้องพรีเจลาติไนซ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก