สืบค้นงานวิจัย
การเลี้ยงสาหร่ายสีเขียวแกมน้ําเงินน้ําเค็ม Spirulina เชิงพาณิชย์ สําหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมไฟโคไซยานินเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มะลิวัลย์ คุตะโค - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: การเลี้ยงสาหร่ายสีเขียวแกมน้ําเงินน้ําเค็ม Spirulina เชิงพาณิชย์ สําหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมไฟโคไซยานินเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล
ชื่อเรื่อง (EN): Commercial culture of marine cyanobacteria, Spirulina, for phycocyanin products development to leverage benefit of shrimp farmers
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มะลิวัลย์ คุตะโค
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ได้เลี้ยงสาหร่าย S. laxissima BUUC1901 ด้วยน้ำจากบ่อเลี้ยงกุ้งขาว เพื่อเป็น แนวทางการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง จากการเลี้ยงสาหร่ายในระดับห้องปฏิบัติการ พบว่า การใช้น้ำ จากบ่อเลี้ยงกุ้งต่อปริมาตรอาหารสูตร Zarrouk เท่ากับ 50% ของปริมาตรอาหารทั้งหมด ส่งเสริมการเติบโต ของสาหร่ายได้ดี และช่วยลดปริมาณไนเตรตและฟอสเฟตในน้ำได้ 80-98% และ 41-75% ตามลำดับ สาหร่าย เติบโตได้ในความเค็มช่วงกว้าง 0-30 ppt และเติบโตได้ดีที่ความเค็ม ระหว่าง 10-30 ppt การเลี้ยงสาหร่ายใน ภาชนะปริมาตร 100 และ 300 l ที่วางภายใต้โรงเรือนที่มีหลังคาโปร่งแสง และใช้อาหารที่เตรียมจาก ปุ๋ยทางการเกษตรผสมกับน้ำบ่อเลี้ยงกุ้ง พบว่า ราคาอาหารดังกล่าวถูกกว่าอาหารสูตรมาตรฐาน F/2 ถึง 158 เท่า ต้นทุนของอาหาร F/2 และอาหารที่เตรียมจากปุ๋ยทางการเกษตร เท่ากับ 0.13 บาท/l และ 0.00084 บาท/l ตามลำดับ สาหร่ายที่เลี้ยงด้วยอาหารสูตร F/2 ให้ผลผลิตมวลชีวภาพ 0.05 g/l/day ผลได้ ไฟโคไซยานิน 1.63 mg/g DW ที่มีค่าความบริสุทธิ์ 0.44 ส่วนสาหร่ายที่เลี้ยงด้วยอาหารที่เตรียมจากปุ๋ย ทางการเกษตร มีผลผลิตมวลชีวภาพ 0.06 g/l/day ผลได้ไฟโคไซยานิน 0.013 mg/g DW ที่มีค่าความบริสุทธิ์ 0.48 อีกทั้งสาหร่ายที่เลี้ยงด้วยอาหารที่เตรียมจากปุ๋ยทางการเกษตร มีชนิดกรดอะมิโนคล้ายคลึงกับสาหร่ายที่ เลี้ยงด้วยอาหารสูตร F/2 สารสกัดไฟโคไซยานินจากสาหร่าย Spirulina มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ E. coli ได้ดีที่สุด ที่ระดับความเข้มข้น 2,000 µg และมีค่า IC50 ในการต้านอนุมูลอิสระ DPPH และ ABTS เท่ากับ 300.97±0.31 และ 67.37±5.70 ppm ตามลำดับ ซึ่งสารสกัดไฟโคไซยานินที่ผลิตได้มีประสิทธิภาพต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่า วิตามินซีและอนุพันธ์ของวิตามินอี จากการทดลองนำไฟโคไซยานินเป็นส่วนผสมในครีมทาผิว 100-1,000 µg/ml พบว่า มีปริมาณฟีนอลิกรวม ในช่วง 146.75-211.33 mg GAE/g extract และครีมทาผิวสูตรที่ผสม สารสกัดไฟโคไซยานิน 1,000 µg/ml สามารถชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ดีกว่าครีมทาผิวสูตรอื่น และยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย S. vitulinus, S. aureus และ E. coli ได้แต่ประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ดังกล่าวน้อยกว่ายา Clindamycin (12.15, 5.97 และ 8.10 เท่า ตามลำดับ) จึงเห็นได้ว่าสารสกัด ไฟโคไซยานินที่ผลิตได้จากงานวิจัยนี้ออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและอนุมูลอิสระได้น้อย จึงไม่เหมาะสำหรับ นำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีคุณสมบัติในด้านการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและต้านอนุมูลอิสระ
บทคัดย่อ (EN): This research investigated the cultivation of S. laxissima BUUC1901 using water from white shrimp ponds to increase income for shrimp farmers. Cultivation of Spirulina was performed under laboratory condition. It was found that a standard Zarrouk medium containing shrimp pond water at 50% by volume could promote the growth performance of Spirulina. Nitrate and phosphate content in water was reduced 80-98% and 41-75%, respectively. Spirulina grew in a wide salinity range of 0-30 ppt and grew well at salinity 10-30 ppt. With outdoor condition, microalgae vessels (100 and 300 l) were placed under transparent canopy greenhouse. Microalgae were grown a medium prepared from the agricultural fertilizers mixed with shrimp pond water. This agricultural fertilizer medium was 158 times cheaper than the standard F/2 medium. Cost of the standard F/2 medium and agricultural fertilizer media were 0.13and 0.00084Bath/l, respectively. With F/2 medium, it gave the biomass productivity and phycocyanin yield of 0.05 g/l/day and 1.63 mg/g DW, respectively. While Spirulinacultured in agricultural fertilizer media gave the biomass productivity and phycocyanin yield of 0. 06 g/l/day and 0.013 mg/g, respectively. Purity of phycocyanin extracted from Spirulinacultured in F/2 and agricultural fertilizer media were 0.44 and 0.48, respectively. In addition, microalgae cultured in the agricultural fertilizer media have a similar amino acid profile to microalgae cultured in F/2 medium. Crude extracted of phycocyanin from S. laxissimaBUUC1901 had the greatest inhibitory activity against E. coli at concentrations of 2,000 µg. The IC50 values of the DPPH and ABTS scavenging tests were 300.97±0.31 and 67.37±5.70 ppm, respectively. Phycocyanin produced less antioxidant efficiency than vitamin C and vitamin E derivatives. Using phycocyanin as an ingredient in skin cream 100-1000 µg/ml, the total phenolic content was in the range 146.75-211.33 mg GAE/g extract. Skin cream composed with 1,000 µg/ml of phycocyanin slowed down the oxidation reaction better than other skin creams. However, it did not inhibit S. vitulinus, S. aureus and E. coli as well as Clindamycin. With skin cream composed of 1,000 µg/ml of phycocyanin, the Inhibitory of those bacteria was lower than Clindamycin (approximately 12.15, 5.97, and 8.10 times, respectively). It was indicated that phycocyanin produced in this research had low antibacterial and antioxidant activities. Therefore, it is not suitable for use as an ingredient in products that require antibacterial and antioxidant properties.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: กุ้งทะเล
คำสำคัญ (EN): shrimp
เจ้าของลิขสิทธิ์: คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเลี้ยงสาหร่ายสีเขียวแกมน้ําเงินน้ําเค็ม Spirulina เชิงพาณิชย์ สําหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมไฟโคไซยานินเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2562
การศึกษาการเพาะเลี้ยงปลาพลวงหินเชิงพาณิชย์ การผลิตสารเสริมอาหารสําหรับสัตว์น้ําวัยอ่อนด้วยจุลินทรีย์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและมูลค่าน้ํานมดิบของฟาร์มโคนมในประเทศไทย อิทธิพลของพันธุ์ข้าวต่อการดึงดูดตัวห้ำมวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) และแตนเบียนไข่ (Anagrus optabilis (Perkins)) ศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens (Stål)) อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศร่วมกับการอนุรักษ์ดินและน้ําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ําสําหรับวางแผนปลูกข้าวในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งของจังหวัดขอนแก่น นครสวรรค์ และน่าน การเลี้ยงปลิงทะเล Holothuria scabra รูปแบบต่างๆ เพื่อขยายผลสู่เกษตรกร การทดลองเลี้ยงปลานิลโดยใช้หญ้าเนเปียร์ของเกษตรกร อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย การวิจัยและพัฒนาสารสกัดมะละกอ สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ําในอนาคต ระยะที่ 2 การทดแทนยากลุ่ม statin สําหรับการลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดด้วยสารสกัดจากเห็ด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก