สืบค้นงานวิจัย
การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร: กากรำข้าวอินทรีย์เป็นตัวดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
จิราภรณ์ ทองตัน - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ชื่อเรื่อง: การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร: กากรำข้าวอินทรีย์เป็นตัวดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ชื่อเรื่อง (EN): Utilization of Agricultural Residues: De-oiled Organic Rice Bran as Adsorbent of Moisturizer for Cosmetic Products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จิราภรณ์ ทองตัน
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของกากรำข้าวอินทรีย์ในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้น 2 ชนิด ได้แก่ ยูเรีย และกลีเซอรีน ที่ใช้ในเครื่องสำอาง เพื่อช่วยในการกักเก็บความ ชุ่มชื้นไว้บนผิวหนัง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ กากรำข้าวอินทรีย์ จากสหกรณ์การเกษตร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถูกนำมาปรับสภาพพื้นผิวด้วยสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การศึกษาการดูดซับโดยใช้การทดลองแบบแบทช์ โดยสถิติที่ใช้ในงานวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย จากการทำการทดลองสามซ้ำ ในการศึกษาหาเวลาในการเข้าสู่สมดุล ปริมาณการดูดซับ และพฤติกรรมการดูดซับตามสมการของแลงเมียร์และฟรอยด์ลิช การศึกษาเวลาในการเข้าสู่สมดุลของการดูดซับทำได้โดยการเขย่ากากรำข้าวอินทรีย์ 0.5 กรัม ในสารละลายยูเรียหรือกลีเซอรีนความเข้มข้นร้อยละ 1 โดยน้ำหนักต่อปริมาตร ที่เวลาต่างๆ และตรวจวัดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นที่ยังคงเหลืออยู่ในสารละลาย สำหรับการหาความสามารถในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นของกากรำข้าวอินทรีย์ ทำได้โดยการเขย่ากากรำข้าวอินทรีย์ 0.5 กรัม ในสารละลายยูเรียหรือกลีเซอรีนปริมาตร 50 มิลลิลิตร ที่ระดับความเข้มข้นแตกต่างกัน (1, 2, 3, 4, 5, 10, 15 และ 30 กรัมต่อร้อยมิลลิลิตร) เป็นเวลา 1,440 นาที พบว่ายูเรียและกลีเซอรีนใช้เวลาในการเข้าสู่สมดุลเท่ากับ 40 และ 60 นาทีตามลำดับ โดยกากรำข้าวอินทรีย์มีความสามารถในการดูดซับยูเรียได้ดีกว่ากลีเซอรีน ผลการศึกษา ไอโซเทอร์มการดูดซับ พบว่าสอดคล้องเป็นอย่างดีกับสมการของฟรอยด์ลิช ผลการวิจัยนี้สามารถนำมาใช้ในการประเมินความเหมาะสม และประสิทธิภาพของกากรำข้าวอินทรีย์ในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตกากรำข้าวอินทรีย์ประเภทนวด/ขัดผิวกาย The objective of this research is to study the adsorption of two types of moisturizers in cosmetic, urea and glycerin, by de-oiled organic rice bran. Urea and glycerin are moisturizers which can enhances the water-binding capacity on the skin. The samples of the de-oiled organic rice bran were obtained from Surin province. The samples were pretreated with sodium hydroxide (NaOH). The method which used in this research was the adsorption experiments by using batch experiment. The statistics used in this research is the mean. In equilibrium time experiments, 0.5 g of dried de-oiled organic rice bran were immersed into 50 mL of urea or glycerin 1 % w/v solutions and shaken for various times followed by the determination of remaining moisturizer in the solution. To find the adsorption capacity of moisturizers by de-oiled organic rice bran, 0.5 g of dried de-oiled organic rice bran were immersed into 50 mL of urea or glycerin solutions with different concentration levels (1, 2, 3, 4, 5, 10 15 and 30 g/100 mL). The solutions were shaken for 1,440 min. The equilibrium time for urea and glycerin was achieved at 40 and 60 minutes, respectively. The de-oiled organic rice bran could adsorb higher amounts of urea than glycerin. The adsorption isotherm could be well described by the Freundlich isotherm model. The findings of this study would be beneficial to evaluate the suitability and efficiency of adsorption of moisturizers by de-oiled organic rice bran for future application such as body scrub.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
คำสำคัญ: วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของกากรำข้าวอินทรีย์ในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้น 2 ชนิด ได้แก่ ยูเรีย และกลีเซอรีน ที่ใช้ในเครื่องสำอาง เพื่อช่วยในการกักเก็บความ ชุ่มชื้นไว้บนผิวหนัง ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ กากรำข้าวอินทรีย์ จากสหกรณ์การเกษตร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถูกนำมาปรับสภาพพื้นผิวด้วยสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ การศึกษาการดูดซับโดยใช้การทดลองแบบแบทช์ โดยสถิติที่ใช้ในงานวิจัยคือ ค่าเฉลี่ย จากการทำการทดลองสามซ้ำ ในการศึกษาหาเวลาในการเข้าสู่สมดุล ปริมาณการดูดซับ และพฤติกรรมการดูดซับตามสมการของแลงเมียร์และฟรอยด์ลิช การศึกษาเวลาในการเข้าสู่สมดุลของการดูดซับทำได้โดยการเขย่ากากรำข้าวอินทรีย์ 0.5 กรัม ในสารละลายยูเรียหรือกลีเซอรีนความเข้มข้นร้อยละ 1 โดยน้ำหนักต่อปริมาตร ที่เวลาต่างๆ และตรวจวัดปริมาณสารให้ความชุ่มชื้นที่ยังคงเหลืออยู่ในสารละลาย สำหรับการหาความสามารถในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นของกากรำข้าวอินทรีย์ ทำได้โดยการเขย่ากากรำข้าวอินทรีย์ 0.5 กรัม ในสารละลายยูเรียหรือกลีเซอรีนปริมาตร 50 มิลลิลิตร ที่ระดับความเข้มข้นแตกต่างกัน (1, 2, 3, 4, 5, 10, 15 และ 30 กรัมต่อร้อยมิลลิลิตร) เป็นเวลา 1,440 นาที พบว่ายูเรียและกลีเซอรีนใช้เวลาในการเข้าสู่สมดุลเท่ากับ 40 และ 60 นาทีตามลำดับ โดยกากรำข้าวอินทรีย์มีความสามารถในการดูดซับยูเรียได้ดีกว่ากลีเซอรีน ผลการศึกษา ไอโซเทอร์มการดูดซับ พบว่าสอดคล้องเป็นอย่างดีกับสมการของฟรอยด์ลิช ผลการวิจัยนี้สามารถนำมาใช้ในการประเมินความเหมาะสม และประสิทธิภาพของกากรำข้าวอินทรีย์ในการดูดซับสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตกากรำข้าวอินทรีย์ประเภทนวด/ขัดผิวกาย The objective of this research is to study the adsorption of two types of moisturizers in cosmetic, urea and glycerin, by de-oiled organic rice bran. Urea and glycerin are moisturizers which can enhances the water-binding capacity on the skin. The samples of the de-oiled organic rice bran were obtained from Surin province. The samples were pretreated with sodium hydroxide (NaOH). The method which used in this research was the adsorption experiments by using batch experiment. The statistics used in this research is the mean. In equilibrium time experiments, 0.5 g of dried de-oiled organic rice bran were immersed into 50 mL of urea or glycerin 1 % w/v solutions and shaken for various times followed by the determination of remaining moisturizer in the solution. To find the adsorption capacity of moisturizers by de-oiled organic rice bran, 0.5 g of dried de-oiled organic rice bran were immersed into 50 mL of urea or glycerin solutions with different concentration levels (1, 2, 3, 4, 5, 10 15 and 30 g/100 mL). The solutions were shaken for 1,440 min. The equilibrium time for urea and glycerin was achieved at 40 and 60 minutes, respectively. The de-oiled organic rice bran could adsorb higher amounts of urea than glycerin. The adsorption isotherm could be well described by the Freundlich isotherm model. The findings of this study would be beneficial to evaluate the suitability and efficiency of adsorption of moisturizers by de-oiled organic rice bran for future application such as body scrub.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

จิราภรณ์ ทองตัน. "การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร: กากรำข้าวอินทรีย์เป็นตัวดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางUtilization of Agricultural Residues: De-oiled Organic Rice Bran as Adsorbent of Moisturizer for Cosmetic Products". มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. 2559

จิราภรณ์ ทองตัน. "การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร: กากรำข้าวอินทรีย์เป็นตัวดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางUtilization of Agricultural Residues: De-oiled Organic Rice Bran as Adsorbent of Moisturizer for Cosmetic Products". มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร: กากรำข้าวอินทรีย์เป็นตัวดูดซับสารให้ความชุ่มชื้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
จิราภรณ์ ทองตัน
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
2559
การดำเนินการที่ประสบผลสำเร็จตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของกลุ่มผู้ผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์ในจังหวัดสุรินทร์ ผลกระทบของระยะปักดำแคบที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวในสภาพปลูกล่าช้า งานวิจัยเรื่อง ข้าวหอมมะลิเสริมสมุนพรไทยพื้นบ้านภายในท้องถิ่น รายงานวิจัยเรื่อง การศึกษาและพัฒนาการผลิตเครื่องสำอางสมุนไพรของกลุ่มบ้านเนินพัฒนา อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของอินทรีย์วัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตทางการเกษตร และอุตสาหกรรมในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ผลการใช้แหนแดงแทนปุ๋ยไนโตรเจนต่อผลผลิตของข้าว ถ่านอัดแท่งจากฟางข้าวผสมวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว การใช้วัสดุอินทรีย์ในท้องถิ่นปรับปรุงดินเค็มเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว โครงการวิจัยผลิตภัณฑ์จักสานและดอกไม้ประดิษฐ์โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair