สืบค้นงานวิจัย
การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอน
Witchanan Tambamroong - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง: การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอน
ชื่อเรื่อง (EN): taro and wild taro
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Witchanan Tambamroong
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการสะสมของสารหนูในเผือกและบอนที่ความเข้มข้นของสารหนูในดินที่แตกต่างกัน และศึกษาประสิทธิภาพของ ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการสะสมสารหนูในพืชทั้งสองชนิด พืชทั้งสองชนิดจะปลูกในกระถางทดลองและผสม Na2HAsO4.7H2O ให้มีความเข้มข้นเป็น 0 100 200 และ 400 มิลลิกรัมของสารหนู/กิโลกรัมของดิน หลังจากนั้นสองอาทิตย์จึงเติม EDTA 5 มิลลิโมล/กิโลกรัมของดิน โดยทำการเก็บตัวอย่างทุก 20 วันจนครบ 100 วัน และวิเคราะห์สารหนูที่สะสมในพืชโดยแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ราก หัว ก้านใบ และใบ ผลการศึกษาพบว่าพืชทั้งสองชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดีและอยู่รอดทั้งหมดในความเข้มข้น 100 และ 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยสารหนูสามารถสะสมได้มากที่สุดใน ราก มากที่สุด รองลงมา คือ หัว ก้านใบ และใบ ตามลำดับ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการเติม EDTA สามารถเพิ่มการสะสมของ สารหนูในพืชทั้งสองชนิดได้ การสะสมของสารหนูมีค่ามากที่สุดที่ความเข้มข้น 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัมพบว่าในเผือกมีค่ามากที่สุด คือ 40.34 มิลลิกรัม ส่วนในบอนพบว่ามีค่า 46.79 มิลลิกรัม
บทคัดย่อ (EN): The purposes of this study were to study and compare the accumulation of arsenic in Colocasia esculenta (L.) Schott (taro and wild taro) among different concentrations of arsenic in soil and study the efficiency of ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) solution to enhance the accumulation of arsenic in both plant species. The plants were planted in the experimental pots and amended with disodium hydrogen arsenate (Na2HAsO4.7H2O) solution with 4 different concentrations (control, 100, 200, and 400 mg As/kg soil). Ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) solution 5 mmol/kg was apply to the soil surface 2 weeks after amending with disodium hydrogen arsenate (Na2HAsO4.7H2O) solution. The plants were harvested and cut to sample every 20 days for 100 days and analyzed for total arsenic accumulation in 4 parts that are corm, roots, petioles, and laminas. The results indicate that both plants could growth well in concentration of 100 and 200 mg As/kg soil. Amount of arsenic accumulated in root was more than in corm, petiole, and lamina, respectively. And the research shows that the accumulation of arsenic in both plants can be enhanced through the application of EDTA to the soil. The maximum arsenic accumulations in plants were 40.34 mg for taro and 46.79 mg for wild taro in concentration of 400 mg As/kg soil.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/May2004/thesis/Witchanan.pdf
เผยแพร่โดย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสำคัญ (EN): Ethylenediaminetetraacetic acid
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียด: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการสะสมของสารหนูในเผือกและบอนที่ความเข้มข้นของสารหนูในดินที่แตกต่างกัน และศึกษาประสิทธิภาพของ ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการสะสมสารหนูในพืชทั้งสองชนิด พืชทั้งสองชนิดจะปลูกในกระถางทดลองและผสม Na2HAsO4.7H2O ให้มีความเข้มข้นเป็น 0 100 200 และ 400 มิลลิกรัมของสารหนู/กิโลกรัมของดิน หลังจากนั้นสองอาทิตย์จึงเติม EDTA 5 มิลลิโมล/กิโลกรัมของดิน โดยทำการเก็บตัวอย่างทุก 20 วันจนครบ 100 วัน และวิเคราะห์สารหนูที่สะสมในพืชโดยแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ ราก หัว ก้านใบ และใบ ผลการศึกษาพบว่าพืชทั้งสองชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดีและอยู่รอดทั้งหมดในความเข้มข้น 100 และ 200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม โดยสารหนูสามารถสะสมได้มากที่สุดใน ราก มากที่สุด รองลงมา คือ หัว ก้านใบ และใบ ตามลำดับ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าการเติม EDTA สามารถเพิ่มการสะสมของ สารหนูในพืชทั้งสองชนิดได้ การสะสมของสารหนูมีค่ามากที่สุดที่ความเข้มข้น 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัมพบว่าในเผือกมีค่ามากที่สุด คือ 40.34 มิลลิกรัม ส่วนในบอนพบว่ามีค่า 46.79 มิลลิกรัม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Witchanan Tambamroong. "การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอนtaro and wild taro". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2545

Witchanan Tambamroong. "การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอนtaro and wild taro". จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 2545. Print.



TARR Wordcloud:
การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอน
Witchanan Tambamroong
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2545
ผลของปุ๋ยเคมีต่อการดูดดึงแคดเมียมด้วยการปลูกอ้อยในดินที่มีการปนเปื้อนจากพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก การบำบัดดินที่ปนเปื้อนด้วยสารตะกั่วโดยใช้หญ้าชนิดต่าง ๆ การดูดซับและสะสมสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยหญ้าแฝก การสะสมสารหนูในปลาน้ำจืดและพืชจากพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสารหนู การปรับปรุงคุณภาพของแร่ดินเบาด้วยการเผาเพื่อใช้เป็นตัวดูดซับอาร์เซนิกออกจากน้ำที่ปนเปื้อน แบคทีเรียที่อาจใช้เป็นดัชนีบ่งชี้การปนเปื้อนของอุจจาระในน้ำชายฝั่ง ศักยภาพของ Pteris vittata และ pityrogramma calomelanos ในการบำบัดดินที่มีการปนเปื้อนสารตะกั่ว การใช้ไข่น้ำเป็นดัชนีทางชีวภาพของการปนเปื้อนสังกะสีและทองแดงในแหล่งน้ำธรรมชาติ การคงตัวของโลหะหนักในดินปนเปื้อนที่มีกรดฮิวมิกและปรับเสถียรด้วยซีเมนต์ การใช้ความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุเพื่อควบคุมเชื้อราที่ปนเปื้อนในผงสมุนไพร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair