สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนแบบมีส่วนร่วมจากผลกระทบของการพัฒนาเมืองโดยเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างถนนสายใหม่
วุฒิพงษ์ ธรรมศรี - มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนแบบมีส่วนร่วมจากผลกระทบของการพัฒนาเมืองโดยเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างถนนสายใหม่
ชื่อเรื่อง (EN): Optimizing the Use of Natural Resources of a Participatory Community (of Participatory Communities) as a Result
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วุฒิพงษ์ ธรรมศรี
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้คือเพื่อศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช๎ ประโยชน์ที่ดินในการสร๎างถนนสายใหมํที่มีตํอทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมของชุมชน การใช๎ ภูมิปัญญาท๎องถิ่นในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมของชุมชนและการมี สํวนรํวมรับผิดชอบพื้นที่สีเขียวของชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพการอยูํอาศัยคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล๎อม ชุมชนที่ยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช๎ทรัพยากรธรรมชาติและสร๎างความเข๎มแข็งของชุมชนใน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมโดยการเชื่อมโยงวิธีการทางวิทยาศาสตร์และภูมิ ปัญญาท๎องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้า และปุาไม๎ที่ถูกต๎องและเหมาะสมสูํชุมชน โดยกลุํม ตัวอยำงคือตัวแทนประชาชนที่พักอาศัยอยูํในบริเวณถนนสายใหมํในพื้นที่ 5 ตำบล ตาบลหนอง ปลาไหล ตาบลหนองยาว ตาบลปากข๎าวสาร ตาบลกุดนกเปล๎า อาเภอเมืองและตาบลหนองนาก อาเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จานวน 381 คน เครื่องมือที่ใช๎ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช๎ ในงานวิจัย คือ คำร๎อยละ คำเฉลี่ย และคำเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช๎โปรแกรมสาเร็จรูป SPSS version 17.0 ผลการวิจัยมีดังนี้ จากการศึกษาผลกระทบและความคิดเห็นของประชาชนตํอการสร๎าง ถนนสายใหมํ (ทางหลวงหมายเลข 326 สายเลี่ยงเมืองสระบุรีด๎านตะวันออก) ของตัวแทนประชาชน กลุํมตัวอยำงในพื้นที่ 5 ตาบลที่ได๎รับผลกระทบบริเวณใกล๎เคียงพื้นที่ถนนตัดผำนในพื้นที่ 5 ตำบลของ จังหวัดสระบุรี พบวำ ลักษณะการใช๎ที่ดินในชุมชนโดยรวมสูงสุดเป็นพื้นที่ทาเกษตรกรรม ร๎อยละ 43.57 รองลงมาเป็นที่พักอาศัย ร๎อยละ 31.23 และการค๎า/พาณิชย์ ร๎อยละ 25.20 ผู๎ตอบ แบบสอบถามโดยรวมสํวนใหญํได๎ย๎ายมาอาศัยอยูํในที่ดินปัจจุบันภายหลังมีการกํอสร๎างถนนมากที่สุด ร๎อยละ 46.20 และเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ย๎ายมาอาศัยอยูํในที่ดินปัจจุบันกํอนมีการกํอสร๎างถนน มี เพียงร๎อยละ 36.74 และที่มีการอาศัยอยูํมาตั้งแตํดั้งเดิม ร๎อยละ 17.06 ซึ่งกํอนที่จะมีการกํอสร๎าง ถนนสํวนใหญํที่ดินถูกทิ้งวำงเปลำร๎อยละ 41.74 รองลงมาที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ร๎อยละ 28.87 และเป็นพื้นที่อยูํอาศัย ร๎อยละ 24.15 ภายหลังการเปิดให๎ใช๎ถนนที่ดินสํวนใหญํถูกใช๎ประโยชน์เพื่อที่ อยูํอาศัย ร๎อยละ 45.14 เพื่อการค๎า ร๎อยละ 30.97 และเกษตรกรรมร๎อยละ 23.89 โดยพบวำการใช๎ ที่ดินปัจจุบันหลังจากการกํอสร๎างถนนแตกตำงจากกํอนการกํอสร๎างถนน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการใช๎ ที่ดินเกิดขึ้นการมากที่สุดในชํวงปี พ.ศ. 2554 ร๎อยละ 30.97 รองลงมา พ.ศ. 2553 ร๎อยละ 26.25 สาเหตุที่เลือกมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มากที่สุดโดยรวม คือ น้าไมํทํวม ร๎อยละ 29.66 รองลงมาคือ การ คมนาคมสะดวก ร๎อยละ 26.50 และอยูํใกล๎ถนนทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ร๎อยละ 25.20 สํวนบริเวณที่ พักอาศัยกํอนมีการกํอสร๎างถนนโดยรวมมีลักษณะเป็นพื้นที่สมบูรณ์เหมาะตํอการทาเกษตรกรรม ร๎อย ละ 37.53 เป็นพื้นที่ที่มีความแห๎งแล๎ง ร๎อยละ 32.81 และเป็นพื้นที่ปุาโปรํง ร๎อยละ 29.66 ภายหลัง การกํอสร๎างถนนโดยรวมพื้นที่สมบูรณ์เหมาะตํอการทาเกษตรกรรมลดลงเหลือ ร๎อยละ 36.48 พื้นที่ที่ มีความแห๎งแล๎งเพิ่มขึ้น เป็นร๎อยละ 34.12 และพื้นที่ปุาโปรํงลดลงเหลือ ร๎อยละ 29.40 และในสํวน ของการมีสํวนรํวมในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนให๎มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสิ่งแวดล๎อมที่ยั่งยืนของคนใน ชุมชนโดยรวมสูงสุด คือ การปลูกฝังสมาชิกในครอบครัวให๎มีวินัยในการรู๎จักคุณคำของสิ่งแวดล๎อม ร๎อยละ 29.40 รองลงมาคือ การปลูกต๎นไม๎เพื่อให๎มีพื้นที่สีเขียว ร๎อยละ 29.14 The purpose of this research study was to investigate the effect of changing land usage in the construction of new roads on natural resource and community environment. The implementation of local wisdom to restore and conserve natural resources and community environments, the participatory responsibility of green areas to improve the heath quality and the sustainable environment, the enhancement of strong community to conserve natural resource and environment were linked through scientific methods and local wisdom for conserving land, water, and forest resources. The samples were 381 representative people who lived at the new road in five districts including Nong Pla Lai, Nong Yao, Pak Kao Sarn, Kood Nok Plao, and Nong Nak which were a part of Saraburi Province. In this study, the questionnaires were employed to gather data. The descriptive statistics which were percentage, mean, and standard deviation were used to analyze data using SPSS 17 From the study on the result and the opinion of the people for the new road construction (Highway No. 326, the Eastern Saraburi Bypass) of the people representative from the sample group, there were 5 sub-districts affected near the road cut through in 5 sub-districts in Saraburi, which were Nong Pla Lai Sub-district, Nong Yao Sub-district, Pak Khao San Sub-district, Kut Nok Plao Sub-district, where were in Mueang District and Nong Nak Sub-district, where was in Nong Khae District. The researcher found that the maximum use of the community land was for the agriculture at 43.57 percent, the second use was for the habitat at 31.23 percent, for the business/commerce at 25.20 percent. Most respondents moved to this area after the road construction at the maximum number at 46.20 percent. However, people moved to this area before the road construction at only 36.74 percent. The people who lived in this area originally were at 17.06 percent. Before the road construction, most of the lands were neglected at 41.74 percent, for agriculture at 28.87 percent, and for habitat at 24.15 percent. After launching the road, most of the land was used for habitat at 45.14 percent, for business at 30.97 percent, and for agriculture at 23.89 percent. The researcher found that the land use after the road construction was different from before the road construction. The maximum change of land use was in 2011 at 30.97 percent, in 2010 at 26.25 percent. The main causes of moving here were no flooding at 29.66 percent, the convenient transportation at 26.50 percent, and the location near Saraburi bypass road at 25.20 percent. For the habitat area, before the road construction the overall area was good for agriculture at 37.53 percent, the dry area at 32.81 percent, and the sparse woods area at 29.66 percent. After the road construction, the agriculture area decreased to 36.48 percent, the dry area increased to 34.12 percent, and the sparse woods area decreased to 29.40 percent. For the participation in the community area development to have the good life quality and sustainable environment for the people in the community at the maximum overall aspect were to foster the family members to have discipline to recognize the environment value at 29.40 percent, and planting the trees to increase the green area at 29.14 percent.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
คำสำคัญ: การมีส่วนร่วม
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
รายละเอียด: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้คือเพื่อศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการใช๎ ประโยชน์ที่ดินในการสร๎างถนนสายใหมํที่มีตํอทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมของชุมชน การใช๎ ภูมิปัญญาท๎องถิ่นในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมของชุมชนและการมี สํวนรํวมรับผิดชอบพื้นที่สีเขียวของชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพการอยูํอาศัยคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล๎อม ชุมชนที่ยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช๎ทรัพยากรธรรมชาติและสร๎างความเข๎มแข็งของชุมชนใน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อมโดยการเชื่อมโยงวิธีการทางวิทยาศาสตร์และภูมิ ปัญญาท๎องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน น้า และปุาไม๎ที่ถูกต๎องและเหมาะสมสูํชุมชน โดยกลุํม ตัวอยำงคือตัวแทนประชาชนที่พักอาศัยอยูํในบริเวณถนนสายใหมํในพื้นที่ 5 ตำบล ตาบลหนอง ปลาไหล ตาบลหนองยาว ตาบลปากข๎าวสาร ตาบลกุดนกเปล๎า อาเภอเมืองและตาบลหนองนาก อาเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี จานวน 381 คน เครื่องมือที่ใช๎ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช๎ ในงานวิจัย คือ คำร๎อยละ คำเฉลี่ย และคำเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช๎โปรแกรมสาเร็จรูป SPSS version 17.0 ผลการวิจัยมีดังนี้ จากการศึกษาผลกระทบและความคิดเห็นของประชาชนตํอการสร๎าง ถนนสายใหมํ (ทางหลวงหมายเลข 326 สายเลี่ยงเมืองสระบุรีด๎านตะวันออก) ของตัวแทนประชาชน กลุํมตัวอยำงในพื้นที่ 5 ตาบลที่ได๎รับผลกระทบบริเวณใกล๎เคียงพื้นที่ถนนตัดผำนในพื้นที่ 5 ตำบลของ จังหวัดสระบุรี พบวำ ลักษณะการใช๎ที่ดินในชุมชนโดยรวมสูงสุดเป็นพื้นที่ทาเกษตรกรรม ร๎อยละ 43.57 รองลงมาเป็นที่พักอาศัย ร๎อยละ 31.23 และการค๎า/พาณิชย์ ร๎อยละ 25.20 ผู๎ตอบ แบบสอบถามโดยรวมสํวนใหญํได๎ย๎ายมาอาศัยอยูํในที่ดินปัจจุบันภายหลังมีการกํอสร๎างถนนมากที่สุด ร๎อยละ 46.20 และเมื่อเปรียบเทียบกับการที่ย๎ายมาอาศัยอยูํในที่ดินปัจจุบันกํอนมีการกํอสร๎างถนน มี เพียงร๎อยละ 36.74 และที่มีการอาศัยอยูํมาตั้งแตํดั้งเดิม ร๎อยละ 17.06 ซึ่งกํอนที่จะมีการกํอสร๎าง ถนนสํวนใหญํที่ดินถูกทิ้งวำงเปลำร๎อยละ 41.74 รองลงมาที่ดินเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ร๎อยละ 28.87 และเป็นพื้นที่อยูํอาศัย ร๎อยละ 24.15 ภายหลังการเปิดให๎ใช๎ถนนที่ดินสํวนใหญํถูกใช๎ประโยชน์เพื่อที่ อยูํอาศัย ร๎อยละ 45.14 เพื่อการค๎า ร๎อยละ 30.97 และเกษตรกรรมร๎อยละ 23.89 โดยพบวำการใช๎ ที่ดินปัจจุบันหลังจากการกํอสร๎างถนนแตกตำงจากกํอนการกํอสร๎างถนน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการใช๎ ที่ดินเกิดขึ้นการมากที่สุดในชํวงปี พ.ศ. 2554 ร๎อยละ 30.97 รองลงมา พ.ศ. 2553 ร๎อยละ 26.25 สาเหตุที่เลือกมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้มากที่สุดโดยรวม คือ น้าไมํทํวม ร๎อยละ 29.66 รองลงมาคือ การ คมนาคมสะดวก ร๎อยละ 26.50 และอยูํใกล๎ถนนทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ร๎อยละ 25.20 สํวนบริเวณที่ พักอาศัยกํอนมีการกํอสร๎างถนนโดยรวมมีลักษณะเป็นพื้นที่สมบูรณ์เหมาะตํอการทาเกษตรกรรม ร๎อย ละ 37.53 เป็นพื้นที่ที่มีความแห๎งแล๎ง ร๎อยละ 32.81 และเป็นพื้นที่ปุาโปรํง ร๎อยละ 29.66 ภายหลัง การกํอสร๎างถนนโดยรวมพื้นที่สมบูรณ์เหมาะตํอการทาเกษตรกรรมลดลงเหลือ ร๎อยละ 36.48 พื้นที่ที่ มีความแห๎งแล๎งเพิ่มขึ้น เป็นร๎อยละ 34.12 และพื้นที่ปุาโปรํงลดลงเหลือ ร๎อยละ 29.40 และในสํวน ของการมีสํวนรํวมในการพัฒนาพื้นที่ชุมชนให๎มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสิ่งแวดล๎อมที่ยั่งยืนของคนใน ชุมชนโดยรวมสูงสุด คือ การปลูกฝังสมาชิกในครอบครัวให๎มีวินัยในการรู๎จักคุณคำของสิ่งแวดล๎อม ร๎อยละ 29.40 รองลงมาคือ การปลูกต๎นไม๎เพื่อให๎มีพื้นที่สีเขียว ร๎อยละ 29.14 The purpose of this research study was to investigate the effect of changing land usage in the construction of new roads on natural resource and community environment. The implementation of local wisdom to restore and conserve natural resources and community environments, the participatory responsibility of green areas to improve the heath quality and the sustainable environment, the enhancement of strong community to conserve natural resource and environment were linked through scientific methods and local wisdom for conserving land, water, and forest resources. The samples were 381 representative people who lived at the new road in five districts including Nong Pla Lai, Nong Yao, Pak Kao Sarn, Kood Nok Plao, and Nong Nak which were a part of Saraburi Province. In this study, the questionnaires were employed to gather data. The descriptive statistics which were percentage, mean, and standard deviation were used to analyze data using SPSS 17 From the study on the result and the opinion of the people for the new road construction (Highway No. 326, the Eastern Saraburi Bypass) of the people representative from the sample group, there were 5 sub-districts affected near the road cut through in 5 sub-districts in Saraburi, which were Nong Pla Lai Sub-district, Nong Yao Sub-district, Pak Khao San Sub-district, Kut Nok Plao Sub-district, where were in Mueang District and Nong Nak Sub-district, where was in Nong Khae District. The researcher found that the maximum use of the community land was for the agriculture at 43.57 percent, the second use was for the habitat at 31.23 percent, for the business/commerce at 25.20 percent. Most respondents moved to this area after the road construction at the maximum number at 46.20 percent. However, people moved to this area before the road construction at only 36.74 percent. The people who lived in this area originally were at 17.06 percent. Before the road construction, most of the lands were neglected at 41.74 percent, for agriculture at 28.87 percent, and for habitat at 24.15 percent. After launching the road, most of the land was used for habitat at 45.14 percent, for business at 30.97 percent, and for agriculture at 23.89 percent. The researcher found that the land use after the road construction was different from before the road construction. The maximum change of land use was in 2011 at 30.97 percent, in 2010 at 26.25 percent. The main causes of moving here were no flooding at 29.66 percent, the convenient transportation at 26.50 percent, and the location near Saraburi bypass road at 25.20 percent. For the habitat area, before the road construction the overall area was good for agriculture at 37.53 percent, the dry area at 32.81 percent, and the sparse woods area at 29.66 percent. After the road construction, the agriculture area decreased to 36.48 percent, the dry area increased to 34.12 percent, and the sparse woods area decreased to 29.40 percent. For the participation in the community area development to have the good life quality and sustainable environment for the people in the community at the maximum overall aspect were to foster the family members to have discipline to recognize the environment value at 29.40 percent, and planting the trees to increase the green area at 29.14 percent.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนแบบมีส่วนร่วมจากผลกระทบของการพัฒนาเมืองโดยเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างถนนสายใหม่
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
2558
การกระบวนการเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมตามแนวเศรษฐกิจชุมชนของกลุ่มอาชีพ ในตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โครงการวิจัยเพื่อการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ การศึกษาผลสัมฤทธิ์การใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเขตพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ ผลของสารสกัดจากเถาวัลย์เปรียงที่มีต่อลูกน้ำยุงลายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ ต้นแบบกลยุทธ์การตลาดส าหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน เพื่อการค้าระดับประเทศ สู่ความยั่งยืน (กรณีศึกษา : ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีระดับต่ำกว่า 3 ดาว ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา) ศึกษาศักยภาพในการจัดตั้งสหกรณ์เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองตาก การศึกษาการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์สาสายพันธุ์ต่าง ๆ (Broussonetia papyrifera Vent.) โดยวิธีรวดเร็ว ศึกษาเปรียบเทียบผลจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆ ต่อการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีและกายภาพบางประการของดินในระบบการปลูกผักอินทรีย์ การอนุรักษ์และฟื้นฟูต้นฉำฉา ถนนสายวัฒนธรรมเชียงใหม่-สันกำแพง อย่างมีส่วนร่วมของชุมชน รายงานฉบับสมบูรณ์ การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ต.คลองพลู อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก