สืบค้นงานวิจัย
การจัดการธาตุอาหารเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลังในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
กิ่งกานท์ พานิชนอก - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การจัดการธาตุอาหารเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลังในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
ชื่อเรื่อง (EN): Adding efficiency cassava production by site-specific nutrient management in Chacheongsao province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กิ่งกานท์ พานิชนอก
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kingkan Panitnok
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: ศักยภาพในการให้ผลผลิตของมันสำปะหลังขึ้นอยู่กับปัจจัยในเรื่องพันธุ์ สิ่งแวดล้อม และปฏิกิริยาสัมพันธ์ ระหว่างพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจัดการดินเป็นปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอย่างหนึ่งที่มีต่อผลผลิตของมันสำปะหลังที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ การศึกษาผลของการจัดการดินเชิงพื้นที่ที่มีต่อผลผลิตของมันสำปะหลัง 4 พันธุ์ ปลูกทดลอง ที่สถานีวิจัยเขาหินซ้อน ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ลักษณะของดินเป็นดินคล้ายชุดดินมาบบอนที่มีเนื้อร่วนหยาบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการจัดการธาตุอาหารพืชที่มีอยู่ในดินที่มีต่อผลผลิตของมันสำปะหลัง วางแผนการทดลองแบบ split plot in RCBD จำนวน 3 ซ้ำ ปัจจัยหลักประกอบด้วยตำรับการไม่ใส่และใส่ปุ๋ย 4 ตำรับ การทดลอง ปัจจัยรอง ประกอบด้วยพันธุ์มันสำปะหลัง 4 พันธุ์ ได้แก่ ระยอง 11 ห้วยบง 80 ห้วยบง 60 และเกษตรศาสตร์ 50 ปลูกทดลองระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ถึง เดือนธันวาคม 2555 ผลการทดลองพบว่า การใส่และไม่ใส่ปุ๋ยมีผลทำให้ ผลผลิตหัวสด น้ำหนักสดต้น น้ำหนักสดเหง้า น้ำหนักหัวสดต่อต้น และจำนวนหัวต่อต้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ แต่ไม่มีผลทำให้น้ำหนักสดใบ และปริมาณแป้งในหัวแตกต่างกัน การใส่ปุ๋ย สูตร 16-8-16 อัตรา 100 กก./ไร่ มีผลทำให้ผลผลิตหัวสด น้ำหนักสดต้น น้ำหนักสดเหง้า น้ำหนักหัวสดต่อต้น และจำนวนหัวต่อต้นสูงสุด เท่ากับ 6,199.66, 2,659.58, 1,010.62 กก./ไร่, 3.88 กก./ต้น และ 9.8 หัว/ต้น ตามลำดับ ส่วนการปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ต่างกันมีผลทำให้ ผลผลิตหัวสด น้ำหนักสดต้น น้ำหนักสดใบ น้ำหนักสดเหง้า น้ำหนักหัวสดต่อต้น จำนวนหัวต่อต้น และปริมาณแป้งในหัว แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งพันธุ์ห้วยบง 80 แสดงผลผลิตและน้ำหนักหัวสดต่อต้นสูงสุด เท่ากับ 5,955.54 กก./ไร่ และ 3.72 กก./ต้น ตามลำดับ และพันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 แสดงปริมาณแป้งในหัวสูงสุด เท่ากับ 27.6% นอกจากนี้ ปัจจัยการใส่ปุ๋ยและพันธุ์มันสำปะหลังที่ต่างกันมีผลทำให้ผลผลิตหัวสด น้ำหนักสดต้น น้ำหนักสดใบ น้ำหนักสดเหง้า น้ำหนักหัวสด/ต้น และจำนวนหัว/ต้น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ไม่มีผลทำให้ปริมาณแป้งในหัวแตกต่างกัน ซึ่งการปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ห้วยบง 80 ร่วมกับการใส่ปุ๋ย สูตร 16-8-16 อัตรา 100 กก./ไร่ แสดงผลผลิตหัวสดและน้ำหนักหัวสด/ต้นสูงสุด เท่ากับ 6,741.08 กก./ไร่ และ 4.21 กก./ต้น ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Site-specific nutrient management was important effects on growth and yield of cassava. The cassava cultivar RY 11, HB 80, HB 60 and KU 50 were grown on Map Bon, coarse-loamy variant at Khao Hin Son Research Station, Khao Hin Son, Phanom Sarakham, Chachoengsao, Thailand, to evaluate the effects of plant nutrition management on yield of cassava. The experiment was carried out in a split plot design in RCBD with 3 replications during February 2012 to December 2012. There were 4 main plots, T1) no application (control), T2) application of chemical fertilizer grade 15-15-15 at the rate of 50 kg/rai at 2 month after planting T3) application of chemical fertilizer at the rate of 16-8-16 of N-P2 O5 -K2 O kg/rai at 2 month after planting and T4) site-specific nutrient application at 2 month after planting and 4 subplots, V1) RY 11, V2) HB 80, V3) HB 60 and V4) KU 50. The results showed that fertilizer treatments, cultivars and treatments x cultivars were different in fresh root yield, fresh stem weight, fresh rhizome weight, fresh root weight per plant and root number per plant but fertilizer treatments were not affect on fresh leave weight and root starch content of cassava. The treatment of 16-8-16 of N-P2 O5 -K2 O kg/rai gave the highest fresh root yield (6,199.66 kg rai-1 or 38.75 ton ha-1) and also gave higher fresh stem weight, fresh rhizome weight and root number per plant of cassava ( 2,659.58, 1,010.62 kg rai-1 or 16.62, 6.32 ton ha-1 and 9.8 root per plant, respectively). The HB 80 cultivars gave the highest fresh root yield (5,955.54 kg rai-1 or 37.22 ton ha-1) and also gave fresh root weight per plant (3.72 kg per plant) while the KU 50 cultivars gave the highest root starch content of cassava (27.6%). The HB 80 cassava cultivars were grown with 16-8-16 of N-P2 O5 -K2 O kg/rai treatments gave the highest fresh root yield and fresh root weight per plant by 6,741.08 kg rai-1 or 42.13 t ha-1 and 4.21 kg per plant, respectively but treatments x cultivars were not affect on root starch content of cassava.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
จำนวนหน้า: 10
เอกสารแนบ: https://ag2.kku.ac.th/kaj/PDF.cfm?filename=05 39-48.pdf&id=1077&keeptrack=5
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: มาบบอน
คำสำคัญ (EN): Map Bon
หมวดหมู่:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการธาตุอาหารเชิงพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มันสำปะหลังในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2556
การจัดการธาตุอาหารเฉพาะพื้นที่เพื่อการผลิตมันสำปะหลังอย่างมีประสิทธิภาพ โครงการย่อยที่ 1 การสำรวจ การเก็บตัวอย่าง และการระบุชนิดเชื้อราที่ก่อโรคในมันสำปะหลัง ในเขตพื้นที่ของอำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง การผลิต การตลาด และความต้องการใช้ดาหลาในพื้นที่ภาคใต้ การศึกษาสมบัติเชิงพื้นที่ของดินเกี่ยวกับศักยภาพการผลิตและการจัดการเฉพาะที่ในพื้นที่ผลิตข้าวนาปีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลของการใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมี ต่อผลผลิตมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9 ในชุดดินมาบบอน จังหวัดระยอง การใช้ปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพร่วมกับปุ๋ยเคมี ต่อผลผลิตมันสำปะหลังระยอง 9 กลุ่มชุดดินที่ 35 ชุดดินมาบบอน ในจังหวัดระยอง การเพิ่มศักยภาพการผลิตมันสำปะหลังโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม การคำนวณและการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์ทางพันธุกรรมสำหรับมันสำปะหลังพันธุ์ระยอง 9 เพื่อการประยุกต์ใช้แบบจำลองการเจริญเติบโตของพืช เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมีสำหรับการผลิตมันสำปะหลังหลังการทำนาในพื้นที่นาดอน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก