สืบค้นงานวิจัย
การประเมินผลกระทบการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการแพร่กระจายสารแคดเมียม โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
ละไม ศรีสวัสดิ์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การประเมินผลกระทบการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการแพร่กระจายสารแคดเมียม โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
ชื่อเรื่อง (EN): The Evaluation Impact of the Establishment of Soil and Water Conservation Measurements in the Mae Taow Basin to Cadmium Distribution Using Geographic Information System
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ละไม ศรีสวัสดิ์
บทคัดย่อ: การปนเปื้อนสารแคดเมียมในดินและพืชพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว อ. แม่สอด จ. ตาก ทางภาคเหนือของประเทศไทยส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมต่อประเทศ การศึกษานี้เป็นการติดตามการแพร่กระจายของแคดเมียมในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาวซึ่งมีการก่อสร้างระบบอนุรักษ์ดินและน้ำเพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียหน้าดินซึ่งส่งผลต่อการแพร่กระจายของแคดเมียมในดินและป้องกันการสัมผัสสารพิษเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนสารพิษ และเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนา กำหนดมาตรการอนุรักษ์ดินเพิ่มเติม การปรับปรุงดิน การวางแผนการปลูกพืช เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาวได้ตามศักยภาพของดิน จากผลการศึกษาประเมินค่าการกระจายของแคดเมียมในดินโดยการประมาณค่าช่วงในรูปแบบ Inverse Distance Weighted (IDW) ด้วยโปรแกรม ArcGIS 10.0 โดยการสุ่มตัวอย่างแบบสุ่ม (Random) จำนวน 423 ตัวอย่าง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 58,700 ไร่ บริเวณลุ่มน้ำแม่ตาว อ. แม่สอด จ. ตาก พบว่า ลักษณะการกระจายของแคดเมียมในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาวมีความแตกต่างกันขึ้นกับสภาพภูมิประเทศ และการใช้ประโยชน์ที่ดินของพื้นที่โดยพบแคดเมียมที่ระดับความเข้มข้นมากกว่า 3 mg kg-1 ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐานดินในพื้นที่เกษตรซึ่งกำหนดโดยประชาคมยุโรปซึ่งกำหนดไว้ที่ 3 mg kg-1 พบเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ลุ่มซึ่งลำห้วยแม่ตาว และลำห้วยแม่กุไหลผ่าน มีระดับความเข้มข้นของแคดเมียมระหว่าง 3- 80 mg kg-1 ซึ่งเกินค่ามาตรฐานดินในพื้นที่เกษตร ส่วนพื้นที่สูงบริเวณเนินเขาของ zone 3 มีระดับการปนเปื้อนแคดเมียม ไม่เกินค่ามาตรฐานของดินในพื้นที่เกษตร โดยพบแคดเมียมมีค่าความเข้มข้นระหว่าง 0.5-3.0 mg kg-1 ส่วนพื้นที่ zone 2 พบการปนเปื้อนแคดเมียมในช่วง 0.5- 5.0 mg kg-1 โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของโชน (zone) นี้พบการปนเปื้อนของแคดเมียมในช่วง 1-3 mg kg-1 และพบว่า พื้นที่ที่มีการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณแคดเมียมในแปลงน้อยมาก นั่นคือระบบอนุรักษ์ดินและน้ำไม่มีผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของแคดเมียม แต่มีประโยชน์ในด้านการป้องกันหรือชลอไม่ให้มีการขยายพื้นที่ปนเปื้อนอันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายของแคดเมียมไปกับตะกอนดินที่มีการชะล้างพังทลายของหน้าดินไปตามลำน้ำสู่พื้นที่บริเวณอื่น ดังนั้นการประยุกต์เทคโนโลยีด้านการอนุรักษ์ดินและน้ำมาปรับใช้ในพื้นที่นอกจากเป็นการป้องกันการสูญเสียหน้าแล้วยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายของแคดเมียมที่มีประสิทธิภาพ เป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อม ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ต่อการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อนสารแคดเมียม และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนพัฒนาด้านการใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างยั่งยืน
บทคัดย่อ (EN): Cadmium contamination in the soil and plant at the Mae Tao River Basin, Mae Sot District, Tak province, Northern of Thailand , has affected to the economic and social of the country . In this area has established the soil and water conservation to reduce the soil loss and cadmium distribution, so the evaluation impact of the establishment of soil and water conservation for the cadmium distribution in top soil at the Mae Taow River Basin was investigated to improve the information of soil development planning in cadmium contaminated area. A total of 423 topsoil samples in 3 zone of the Mae Tao River Basin, were collected at 0-30 cm of soil depth and examined the cadmium concentrations, then evaluate the cadmium distribution by using geographic information system. The results revealed that the distributions of cadmium in the soil were different depend on the topography and land use. In the lowland of the zone 1 and zone 3 of Mae Tao River Basin, cadmium was found at the concentrations between 3- 80 mg kg-1 which was exceeds the European Union (EU) maximum permissible level of 3 mg kg-1 for soil quality in agricultural area, while the highland hill area of zone 3 was found the levels of cadmium contamination lower than the maximum permissible level with the cadmium concentration between 0.5-3.0 mg kg-1. In the area of zone 2 was contaminated with cadmium at 0.5- 5.0 mg kg-1 by a majority of this zone showed contamination of the cadmium level at 1-3 mg kg-1. The cadmium distribution in the area where estabished the soil and water conservation system, has very little changed. It indicated that the soil and water conservation system was not directly affected by the increase or decrease of cadmium. However, there was benefits to prevent or delay the expansion of the contamination caused by the movement of sediments containing cadmium by the erosion of the soil along the river to the other areas. Thus, the application of soil and water conservation technologies in the cadmium contaminated area is good for environment and human health because it can be reduced health risks to humans from consumption of the edible plants and advantaged for the development of sustainable land use.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ลุ่มน้ำแม่ตาว
คำสำคัญ (EN): Using Geographic Information System
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ละไม ศรีสวัสดิ์. "การประเมินผลกระทบการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการแพร่กระจายสารแคดเมียม โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์The Evaluation Impact of the Establishment of Soil and Water Conservation Measurements in the Mae Taow Basin to Cadmium Distribution Using Geographic Information System". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556

ละไม ศรีสวัสดิ์. "การประเมินผลกระทบการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการแพร่กระจายสารแคดเมียม โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์The Evaluation Impact of the Establishment of Soil and Water Conservation Measurements in the Mae Taow Basin to Cadmium Distribution Using Geographic Information System". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
การประเมินผลกระทบการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการแพร่กระจายสารแคดเมียม โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
ละไม ศรีสวัสดิ์
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2556
การประเมินผลการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อความชื้นของดิน โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การประเมินผลการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว ต่อการชะล้างพังทลายของดิน โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ เพื่อประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดิน ในพื้นที่ลุ่มน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น การศึกษาการแพร่กระจายของปลิงทะเล พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อศึกษาการแพร่กระจาย ดินเค็ม บริเวณตำบลพลสงคราม อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา การประเมินระดับความรุนแรงการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ลุ่มน้ำลำภาชี โดยการใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การจัดทำแผนที่ดินกระจายตัวในพื้นที่โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง จังหวัดลำปาง โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ การศึกษาปัญหาการกระจายตัวของดินในเขตชลประทานจังหวัดชัยภูมิ โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ กรณีศึกษา : พื้นที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ เส้นทางการเข้าถึงพื้นที่ประสบอุทกภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยการวิเคราะห์ด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair