สืบค้นงานวิจัย
ผลิตภัณฑ์สารสำคัญทางชีวภาพจากพืชสมุนไพรทางการแพทย์ของประเทศไทย ในการเป็นสารต้านการพัฒนาพยาธิสภาพในกลุ่มอาการ Long COVID จากการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV2: การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลอง และการทดสอบทางคลินิก
พรงาม เดชเกรียงไกรกุล - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ชื่อเรื่อง: ผลิตภัณฑ์สารสำคัญทางชีวภาพจากพืชสมุนไพรทางการแพทย์ของประเทศไทย ในการเป็นสารต้านการพัฒนาพยาธิสภาพในกลุ่มอาการ Long COVID จากการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV2: การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลอง และการทดสอบทางคลินิก
ชื่อเรื่อง (EN): -------------
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรงาม เดชเกรียงไกรกุล
บทคัดย่อ: ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ทางผู้วิจัยได้มุ่งเน้นในการพัฒนาสารสกัดสมุนไพรไทยในการนำมาใช้ต้านการอักเสบของปอด โดยเฉพาะการอักเสบของปอดในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ถึงแม้ว่าผู้ป่วยโควิด-19 จะได้รับการรักษาและเชื้อไวรัสหมดไปจากร่างกายแล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มอาการต่าง ๆ เกิดขึ้นตามมาโดยเรียกว่าอาการลองโควิด (Long COVID) ซึ่งหนึ่งในสาเหตุการเกิดอาการลองโควิดเป็นผลมาจากการเกิดภาวะอักเสบภายในร่างกายจากชิ้นส่วนของโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 หน่วยย่อย S1 ของเชื้อ SARS-COV-2 ดังนั้นเพื่อลดอาการลองโควิดในคนที่หายจากการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ที่กำลังมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน ทางผู้วิจัยจึงมีแนวคิดในนำสมุนไพรไทยมาใช้ในการลดกลุ่มอาการลองโควิด โดยมุ่งเน้นไปยังการลดการอักเสบภายในร่างกายโดยเฉพาะการอักเสบของเซลล์ปอดที่เกิดจากการกระตุ้นของชิ้นส่วนของโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 หน่วยย่อย S1 ของเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 โดยผู้วิจัยได้ทำการสืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูล PubMed Google scholar Science direct ร่วมกับบัญชียาสมุนไพรหลักแห่งชาติ เพื่อค้นหาสมุนไพรที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ จากการคัดเลือกเป็นผลให้ได้สมุนไพรจำนวน 12 ชนิด คือ ข้าวดำ งาม้อน สมุนไพรในตำรับห้าราก ที่ประกอบด้วย รากคนทา รากย่านาง รากไม้เท้ายายม่อม รากมะเดื่อชุมพร และรากชิงชี่ ตำรับตรีผลา ที่ประกอบด้วย ผลมะขามป้อม ผลสมอไทย และผลสมอพิเภก จันทร์แดง และโกศจุฬาลัมพา ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาแผนโบราณที่ใช้ในการรักษาไข้หวัด เมื่อได้ตัวอย่างสมุนไพรมาแล้วทางผู้วิจัยได้ทำการสกัดสมุนไพรแต่ละชนิดด้วยตัวทำละลายชนิด 80 เปอร์เซ็นเอทานอล ได้เป็นสารสกัดสมุนไพรแต่ล่ะชนิด จากนั้นทำการตรวจวัดปริมาณสารพฤกษเคมี และสารสำคัญที่พบในสารสกัดสมุนไพรแต่ละชนิด โดยพบว่าสารสกัดสมุนไพรแต่ละชนิดมีสารสำคัญแตกต่างกัน จากนั้นทางผู้วิจัยได้ทำการศึกษาความเป็นพิษของสารสกัดสมุนไพรไทยแต่ละชนิดต่อเซลล์ปอดชนิด A549 จากผลการทดทดสอบพบว่าสารสกัดสมุนไพรดังกล่าวมีความเป็นพิษต่อเซลล์ปอดต่ำ ยกเว้นสารสกัดจันทร์แดงมีความเป็นพิษต่อเซลล์ปอดสูง (IC50 = 39.38?6.57 ug/mL) จึงไม่เหมาะสมต่อการนำมาศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการเกิดการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 จากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 (spike Glycoprotein S1 subunit: SP1) ดังนั้นจึงเหลือสารสกัดสมุนไพรไทย 9 ชนิดที่ทางผู้วิจัยจะนำไปศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการเกิดการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นการอักเสบด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ต่อไป จากนั้นทางผู้วิจัยได้ทำการกระตุ้นเซลล์ปอดชนิด A549 ด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ความเข้มข้น 100 ng/mL เป็นเวลาต่าง ๆ เพื่อหาเวลาในการกระตุ้นที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการศึกษาต่อไป จากการทดลองพบว่าเมื่อทำการกระตุ้นเซลล์ปอดชนิด A549 ด้วยด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ความเข้มข้น 100 ng/mL เป็นเวลา 3 ชั่วโมง จะส่งผลให้เกิดการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ได้มากที่สุด โดยจะเห็นได้ว่ามีการแสดงออกของตัวบ่งชี้ที่จำเพาะต่อการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome คือ NLRP3, IL-1beta และ IL-18 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับยีน (gene levels) และโปรตีน (protein levels) ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 เมื่อเปรียบเทียบกับเซลล์ปอดในสภาวะปกติ นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อเซลล์ปอดชนิด A549 ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 จะเกิดการกระตุ้นการส่งสัญญาณภายในเซลล์ชนิดต่าง ๆ เช่น Akt/MAPK หรือ JAK/STAT signaling pathway ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการทำงานของ transcription factors เช่น NF-kB AP-1 และ STAT3 ที่ทำหน้าที่ควบคุมการแสดงออกของยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดการอักเสบตามมา เมื่อได้แบบจำลองการกระตุ้นการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 จากนั้นทางผู้วิจัยได้ทำการทดสอบฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบของสารสกัดสมุนไพรชนิดต่าง ๆ จากการศึกษาผลของสารสกัดสมุนไพรในตำรับห้าราก คือ สารสกัดรากคนทา สารสกัดรากมะเดื่อชุมพร สารสกัดรากไม้เท้ายายม่อม สารสกัดรากชิงชี่ สารสกัดย่านาง ต่อการยับยั้งการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 พบว่ามีเพียงสารสกัดรากคนทาและรากไม้เท้ายายม่อมเท่านั้น ที่สามารถลดการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 จากนั้นทางผู้วิจัยได้นำเลือกสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อมไปศึกษาต่อถึงกลไกเชิงลึกในการยับยั้งการอักเสบชนิด NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 โดยเริ่มจากการวิเคราะห์หาสารออกฤทธิ์สำคัญของสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อมโดยเทคนิค HPLC ซึ่งพบว่าสารออกฤทธิ์สำคัญของสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อมคือ สาร hesperetin จากการศึกษาพบว่าสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อม และ hesperetin สามารถลดการแสดงออกของโปรตีน NLRP3, ASC และ Caspase-1 ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่เกิดจากการกระตุ้นของโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ส่งผลให้ไม่สามารถเกิดการรวมกลุ่มของโปรตีนเป็น inflammasome ได้ ส่งผลให้ไม่สามารถกระตุ้นการหลั่งของไซโตไคน์ชนิด IL-1beta และ IL-18 จากเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อมและสารสำคัญ hesperetin ยังสามารถยับยั้งการส่งสัญญาณ Akt/MAPK signaling ภายในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้ เป็นผลให้ยับยั้งการทำงานของโปรตีน AP-1 ซึ่งเป็น transcription factor ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการแสดงออกของสารก่อการอักเสบชนิด IL-1beta และโปรตีนที่เกี่ยวข้องในวิถี inflammasome คือ NLRP3 ASC และ Caspase-1 เป็นผลให้สามารถยับยั้งการอักเสบของเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้นอกจากตำรับยาไทยแล้วทางผู้วิจัยยังให้ความสำคัญในการค้นหาสารสำคัญจากพืช หรืออาหารที่บริโภคเป็นประจำในชีวิตประจำวัน โดยเริ่มต้นข้าวดำ ซึ่งอุดมไปด้วยสารสำคัญกลุ่ม Anthocyanins ดังนั้นทางผู้วิจัยจึงได้ทำการสกัดสารชั้นที่มีสารกลุ่ม Anthocyanin เข้มข้นจากจมูกและรำข้าวสีดำ (Anthocyanin-rich fraction from black rice germ and bran) และทำการหาปริมาณสารสำคัญด้วยเทคนิค HPLC พบว่า Anthocyanin-rich fraction มีปริมาณสารสำคัญกลุ่ม Anthocyanins ได้แก่ cyanidin-3-o-glucoside (C3G) และ Peonidin-3-o-glucoside (P3G) ในปริมาณสูง เมื่อทำการทดสอบฤทธิ์การต้านการอักเสบจากสภาวะที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 พบว่า Anthocyanin-rich fraction และสารสำคัญ C3G และ P3G สามารถยับยั้งการแสดงออกของยีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบได้แก่ IL-6, NLRP3, IL-1beta และ IL-18 และยังสามารถยับยั้งการหลั่งไซโตไคน์ก่อการอักเสบชนิด IL-6, IL-1beta และ IL-18 จากเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้อย่างนัยสำคัญทางสถิติ จากนั้นทางผู้วิจัยได้ทำการศึกษากลไกการยับยั้งกระบวนการอักเสบผ่านวิถี NLRP3 inflammasome pathway ด้วยเทคนิค Western blot พบว่า Anthocyanin-rich fraction และสารสำคัญ C3G และ P3G สามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีน NLRP3 ASC และ Caspase-1 ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในการส่งสัญญาณการอักเสบผ่านวิถี NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งการลดการแสดงออกของโปรตีนดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่ Anthocyanin-rich fraction และสารสำคัญคือ C3G และ P3G สามารถยับยั้งการทำงานของ NF-kB transcription factor ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 จึงส่งผลให้การแสดงออกของยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบในวิถี NLRP3 inflammasome ลดลงตามไปด้วยนอกจากนี้ทางผู้วิจัยได้ทำการทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบผ่านวิถี NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ของสารสกัดกากงาม้อน และสารสำคัญ คือ Luteolin จากการศึกษาพบว่าสารสกัดกากงาม้อน และสาร Luteolin สามารถยับยั้งการหลั่งสารก่อการอักเสบไซโตไคน์ ชนิด IL-6 IL-1beta และ IL-18 จากเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้ทั้งการแสดงออกระดับยีนส์ และโปรตีน นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดกากงาม้อน และสาร Luteolin ยังสามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีน NLRP3 ASC และ Caspase-1 ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในวิถี NLRP3 inflammasome ในเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ส่งผลให้เกิดการลดการอักเสบตามมาในที่สุด จากผลการศึกษาข้างต้นจะเห็นได้ว่าสารสกัดข้าวดำ (สารสำคัญ C3G และ P3G) สารสกัดรากไม้เท้ายายม่อม (สารสำคัญ hesperetin) และสารสกัดกากงาม้อน (สารสำคัญ luteolin) ซึ่งเป็นสมุนไพรไทยที่พบได้ในชีวิตประจำวัน สามารถลดการอักเสบผ่านวิถี NLRP3 inflammasome ของเซลล์ปอดชนิด A549 ที่ถูกกระตุ้นด้วยโปรตีนหนามหน่วยย่อย SP1 ได้ โดยสามารถยับยั้งการแสดงออกของโปรตีนที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของ inflammasome และยับยั้งการหลั่งสารก่อการอักเสบไซโตไคน์ชนิด IL-1beta IL-18 และ IL-16 ผ่านการยับยั้งการส่งสัญญาณภายในเซลล์ ซึ่งผลการศึกษาวิจัยดังกล่าวเป็นการจำลองสภาวะการอักเสบภายในปอดของผู้ติดเชื้อไวรัส SAR-CoV-2 และผู้ป่วยสภาวะ Long-COVID ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าสมุนไพรสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วย Long-COVID ได้ ความเสียหายของปอดพยาธิสภาพที่สำคัญที่มักพบในผู้ป่วยโควิด-19 และเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยรุนแรง หรือเสียชีวิตในเวลาต่อมา ดังนั้นทางผู้วิจัยได้ทำการศึกษาผลของสารสกัดข้าวดำ สารสกัดรากไม้เท้ายายม่อม และสารสกัดกากงาม้อน ต่อการยับยั้งการเกิดความเสียหายของปอด โดยจำลองสภาวะการเกิดพังผืดของปอดเมื่อถูกกระตุ้นด้วยเชื้อก่อโรค โดยทำการกระตุ้นเซลล์ไฟโบบลาสต์ด้วยเชื้อก่อโรค พบว่าเมื่อเซลล์ไฟโบลลาสต์ถูกกระตุ้นด้วยเชื้อก่อโรคจะทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการสร้างคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นในปอดจะนำไปสู่การเกิดพังผืดของปอดในที่สุด แต่เมื่อทำการบ่มเซลล์ไฟโบบลาสต์ที่ถูกกระตุ้นด้วยเชื้อก่อโรคร่วมกับสารสกัดสมุนไพรดังกล่าว พบว่าสารสกัดข้าวดำ สารสกัดกากงาม้อน และสารสกัดรากไม้เท้ายายม่อมสามารถลดการสร้างคอลลาเจนจากเซลล์ไฟโบบลาสต์ที่ถูกกระตุ้นด้วยเชื้อก่อโรคได้ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าสารสกัดดังกล่าวสามารถลดการเกิดความเสียหายของปอดจากการติดเชื้อก่อโรคได้ อย่างไรก็ตามควรจะมีการศึกษากลไกการยับยั้งการเกิดความเสียหายของปอดของสารสกัดสมุนไพรดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อให้ทราบกลไกในการยับยั้งการเกิดความเสียหายของปอดที่ชัดเจน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในผู้ป่วยโรคปอดชนิดต่าง ๆ ต่อไปถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกในการรักษาให้กับผู้ป่วยต่อไปจากการดำเนินงานของผู้วิจัยตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานั้นเป็นผลให้เกิดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการสนับสนุนให้ใช้สารสกัดสมุนไพรไทย คือ สารสกัดข้าวดำ สารสกัดรากไม้เท้ายายม่อม และสารสกัดกากงาม้อน ในการเป็นทางเลือกในการรักษาทั้งในผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วย Long-COVID ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจง ให้ผู้ป่วยมีอาการลดลง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ และจากการดำเนินงานดังกล่าวทางผู้วิจัยได้ทำการตีพิมพ์ผลงานจากโครงการวิจัยในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ (Web of Science: Q1) จำนวน 3 เรื่อง ตามเป้าหมายที่วางไว้ และจากการดำเนินโครงการวิจัยดังกล่าวสมารถพัฒนาความรู้ ความชำนาญของนักวิจัยรุ่นใหม่จำนวน 7 คน และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจำนวน 7 คน ซึ่งกำลังคนที่ได้รับการพัฒนาความสามารถในการดำเนินงานวิจัยจะเป็นกำลังคนในการพัฒนาการวิจัยของชาติในอนาคตต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คำสำคัญ: สารสกัดกากงาม้อน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลิตภัณฑ์สารสำคัญทางชีวภาพจากพืชสมุนไพรทางการแพทย์ของประเทศไทย ในการเป็นสารต้านการพัฒนาพยาธิสภาพในกลุ่มอาการ Long COVID จากการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV2: การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ ในสัตว์ทดลอง และการทดสอบทางคลินิก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
2565
อิทธิพลของอาหารและสารควบคุมการเจริญเติบโตต่อการเกิดเอ็มบริโอเจนนิคแคลลัสและการพัฒนาเป็นพืชต้นใหม่ของหน้าวัวพันธุ์สุลต่าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้านริ้วรอยจากสารสกัดเปลือกของผลเสาวรสพันธุ์เปลือกสีม่วง ผลของสมุนไพรสูตรพูฟฝ์ 1 และระดับของหญ้าหวานในอาหารต่อการใช้ประโยชน์ได้ของอาหารในสุกรระยะเจริญเติบโต การพัฒนาผลิตภัณฑ์เค้กโปรตีนสูง นวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชะลอวัยและเพิ่มมูลค่าจากสารสกัดหอมแดงศรีสะเกษ GI แบบครบวงจร เพื่อพัฒนายกระดับเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงในจังหวัดศรีสะเกษ การพัฒนากระบวนการแปรสภาพเส้นใยจากใบอ้อย เพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอตามแนวคิดนิเวศเศรษฐกิจ การใช้สารสกัดจากใบสะเดาเป็นสารยับยั้งกระบวนการไนตริฟิเคชั่นเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวภายใต้การใช้น้ำแบบประหยัด สรุปสาระสำคัญโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวจิ้งหรีดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นฐานจากจิ้งหรีด การสำรวจโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในพืชต่างถิ่นและการเกิดโรคอุบัติใหม่ในพื้นที่เกษตรที่สูงของจังหวัดเชียงใหม่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก