สืบค้นงานวิจัย
สมบัติเคมี-กายภาพ และการดูดซับธาตุอาหารพืชของถ่านชีวภาพที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรชนิดต่างๆ
กุลภัทร ยิ้มพักตร์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: สมบัติเคมี-กายภาพ และการดูดซับธาตุอาหารพืชของถ่านชีวภาพที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรชนิดต่างๆ
ชื่อเรื่อง (EN): Physico-chemical Properties and Nutrient Sorption of Biochar Producing from Various Agricultural Residues
บทคัดย่อ: การศึกษาสมบัติเคมีและกายภาพของถ่านชีวภาพที่ผลิตจากเศษวัสดุทางการเกษตรชนิดต่างๆ จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ไม้ไผ่ กะลามะพร้าว แกลบ ไม้ยูคาลิปตัส และไม้ลิ้นจี่ ที่ผลิตโดยวิธีไพโรไลซิส (pyrolysis) ด้วยเตาเผาขนาดเล็กที่ดัดแปลง โดยวิเคราะห์สมบัติเคมีและกายภาพของถ่านชีวภาพ ได้แก่ ความสามารถในการดูดซับไอโอดีน ค่าความเป็นกรดด่าง ค่าการนำไฟฟ้า อัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจน ปริมาณธาตุอาหาร และปริมาณโลหะหนักทั้งหมด (total form) (สารหนู แคดเมียม ทองแดง ตะกั่ว และสังกะสี) เปรียบเทียบกับถ่านหุงต้มและวัตถุดิบชนิดเดียวกัน ผลการศึกษาพบว่า ถ่านชีวภาพและถ่านหุงต้ม มีค่าความสามารถในการดูดซับไอโอดีน (ไอโอดีนนัมเบอร์, iodine number) มากกว่าวัตถุดิบชนิดเดียวกัน โดยที่ถ่านชีวภาพไม้ลิ้นจี่ มีความสามารถในการดูดซับไอโอดีนมากที่สุด (382 mg/kg) รองลงมาได้แก่ ถ่านชีวภาพไม้ยูคาลิปตัส (365.6 mg/kg) ถ่านหุงต้มไม้ลิ้นจี่ (322.8 mg/kg) ถ่านชีวภาพไม้ไผ่ (312.3 mg/kg) ถ่านหุงต้มกะลามะพร้าว (304.9 mg/kg) ถ่านหุงต้มไม้ไผ่ (300.5 mg/kg) ถ่านหุงต้มไม้ยูคาลิปตัส (295.3 mg/kg) ถ่านชีวภาพกะลามะพร้าว (272.0 mg/kg) ถ่านหุงต้มแกลบ (205.1 mg/kg) และถ่านชีวภาพแกลบ (181.2 mg/kg) ตามลำดับ ถ่านชีวภาพและถ่านหุงต้มทุกชนิดมีสมบัติเป็นด่าง (pH 7.5-10.4) มีค่าการนำไฟฟ้าอยู่ในระดับต่ำ (EC 0.2-1.8 dS/m) ค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนมีสัดส่วนมากกว่า 20 (C/N ratio 55.7-310.8) ปริมาณธาตุอาหารหลักในถ่านที่ศึกษา พบว่าปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด มีค่าน้อยกว่า 1% ปริมาณฟอสฟอรัสทั้งหมดมีค่าน้อยกว่า 1% และปริมาณโพแทสเซียมทั้งหมดของถ่านชีวภาพ มีค่ามากกว่า 1% ในขณะที่ในถ่านหุงต้มทุกชนิดมีค่าน้อยกว่า 1% ปริมาณโลหะหนักในรูปโลหะหนักทั้งหมดในถ่านชีวภาพและถ่านหุงต้ม พบว่า ถ่านที่ศึกษาส่วนใหญ่มีปริมาณสังกะสีมากที่สุด (15.2-1,214.4 mg/kg) รองลงมาได้แก่ ทองแดง (2.8-14.5 mg/kg) และตะกั่ว (<0.05-6.4 mg/kg) แต่ไม่พบการสะสมของสารหนูและแคดเมียมในถ่านชีวภาพและถ่านหุงต้มทุกชนิด ยกเว้น ถ่านจากแกลบ และถ่านจากกะลามะพร้าว เมื่อเปรียบเทียบปริมาณโลหะหนักในถ่านชีวภาพที่ศึกษากับค่ามาตรฐานโลหะหนักในวัสดุปรับปรุงดิน พบว่า ปริมาณโลหะหนักในถ่านชีวภาพที่ศึกษาทุกชนิดมีค่าไม่เกินค่ามาตรฐานตามพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 (สารหนู 50 mg/kg แคดเมียม 5 mg/kg ทองแดง 500 mg/kg และตะกั่ว 500 mg/kg) เมื่อพิจารณาความสามารถในการดูดซับไอโอดีนและปริมาณธาตุอาหาร พบว่า เศษวัสดุทางการเกษตรที่เหมาะสมในการนำมาผลิตถ่านชีวภาพเพื่อปรับปรุงดิน ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้ลิ้นจี่ และไม้ยูคาลิปตัส นอกจากนี้ถ่านชีวภาพทุกชนิดมีสมบัติเป็นด่างจึงสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงดินกรด เพื่อช่วยลดความเป็นกรดของดิน ทำให้ความเป็นประโยชน์ของธาตุอาหารในดินมากขึ้น
บทคัดย่อ (EN): The physical and chemical properties of biochar produced from agricultural residues were studied for 5 agricultural residues (Bamboo, Coconut shell, Rice husk, Eucalyptus and Lychee). Biochars were studied Iodine adsorption capacity, pH value, Electrical conductivity, Carbon: Nitrogen ration, Nutrient content and amount of total metals (arsenic, cadmium, copper, lead, and zinc) compared to charcoal and the same raw materials. The result showed that the biochar and charcoal have a higher iodine absorption (Iodine number) than the raw materials. The Lychee biochar had the highest Iodine number (382 mg/kg), Eucalyptus biochar (365.6 mg/kg), Lynches charcoal (322.8 mg/kg), Bamboo biochar (312.3 mg/kg), Coconut shell charcoal (304.9 mg/kg), Bamboo charcoal (300.5 mg/kg), Eucalyptus charcoal (295.3 mg/kg), Coconut shell biochar (272.0 mg/kg), Rice husk charcoal (205.1 mg/kg), and Rice husk biochar (181.2 mg/kg, respectively. All the biochars and charcoals were strongly alkaline to very strongly alkaline (pH 7.5 to 10.4) whereas the electrical conductivity were very low (0.2-1.8 dS/m). The carbon to nitrogen ratio of all were higher than 20 (C:N ratio 55.7-310.8). The Nitrogen and phosphorus contents were low ( 0.5%). Charcoals have phosphorus and potassium contents less than biochars. Arsenic and Cadmium contents were not detected in both biochar and charcoal. In conclusion, agriculture residues (Bamboo, Lychee and Eucalyptus) are suitable for biochar production considering the ability to absorb Iodine and nutrient contents. Thus, biochar can be used to reduce soil acidity resulting nutrient available.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/291286
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ความพรุน
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สมบัติเคมี-กายภาพ และการดูดซับธาตุอาหารพืชของถ่านชีวภาพที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรชนิดต่างๆ
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2556
การพัฒนาถ่านอัดแท่งจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ สมบัติเคมี-กายภาพของถ่านชีวภาพที่ผลิตจากเศษวัสดุทางการเกษตรชนิดต่างๆ การศึกษาความเหมาะสมของการแปรรูปวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง การศึกษาคุณสมบัติของถ่านขาวและน้ำส้มควันไม้ที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอุ้มน้ำในพื้นที่ดินทรายจัด การศึกษาและออกแบบเครื่องจักรกล สำหรับการขึ้นรูปถ่านแฟนซี จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ตามแนว เศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาประสิทธิภาพเตาเผาถ่านกัมมันต์ จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร อาหารบำรุงสมอง สเตอรอลจากพืช
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก