สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยประสิทธิภาพการใช้เปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบผลพลอย ได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคเนื้อ
วีระพล แจ่มสวัสดิ์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
ชื่อเรื่อง: การวิจัยประสิทธิภาพการใช้เปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบผลพลอย ได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคเนื้อ
ชื่อเรื่อง (EN): Research on Efficiency of Using Pineapple Waste as Roughage, Cassava By-Product as Based Energy and Local Legume as Protein Supplement for Feeding Beef Cattle
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วีระพล แจ่มสวัสดิ์
บทคัดย่อ: การวิจัยประสิทธิภาพการใช้เปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบ ผลพลอยได้ของมันสำปะหลังจาก การผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการ เลี้ยงโคเนื้อ เป็นการทดลองเปรียบเทียบเพื่อหาอาหารที่เหมาะสมใช้เลี้ยงโค โดยใช้โคที่หย่านม แล้วในการ ทดลองจำนวน 16 ตัว โดยใช้โคลูกผสมบราห์มัน (Brahman) สายเลือด 62.50-75.00 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้ ระยะเวลาทดลอง 252 วัน โดยแบ่งกลุ่มการทดลอง ดังนี้ กลุ่มการทดลองที่ 1 (T ) เปลือกสับปะรด + ผลพลอยได้ของมันสำปะหลัง (control) กลุ่มการทดลองที่ 2 (T.) เปลือกสับปะรด + ผลพลอยได้ของมันสำปะหลัง + ใบกระดินสด กลุ่มการทดลองที่ 3 (T .) เปลือกสับปะรด + ผลพลอยได้ของมันสำปะหลัง + ต้นถั่วลิสงแห้ง กลุ่มการทดลองที่ 4 (T.) เปลือกสับปะรด + ผลพลอยได้ของมันสำปะหลัง + ใบจามจุรี ผลการทดลองพบว่า น้ำหนักเพิ่มขึ้นตลอดการทดลอง กลุ่มการทดลองที่ 3 เพิ่มขึ้นมากที่สุด 129.25 กิโลกรัม หรือ 0.51 กิโลกรัมต่อวัน รองลงมาคือกลุ่มการทดลองที่ 2 127.75 กิโลกรัม หรือ 0.50 กิโลกรัม ต่อวัน กลุ่มการทดลองที่ 4 125.75 กิโลกรัม หรือ 0.50 กิโลกรัมต่อวัน และน้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือกลุ่ม การทดลองที่ 1 117.50 กิโลกรัม หรือ 0.46 กิโลกรัมต่อวัน โดยกลุ่มการทดลองที่ 2, 3 และ 4 ไม่มีความ แตกต่างกันแต่แตกต่างจากกลุ่มการทดลองที่ 1 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งที่ p<0.01อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็น น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตลอดการทดลอง กลุ่มการทดลองที่ 2 เพิ่มขึ้นมากที่สุด 61.30 กิโลกรัม รองลงมาคือ กลุ่มการทดลองที่ 4 61.14 กิโลกรัม กลุ่มการทดลองที่ 3 60.05 กิโลกรัม และอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็น น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดคือกลุ่มการทดลองที่ 1 59.45 กิโลกรัม โดยกลุ่มการทดลองที่ 2, 3 และ 4 ไม่มีความแตกต่างกันแต่แตกต่งจากกลุ่มการทดลองที่ 1อย่างมีนัยสำคัญยิ่งที่ p<0.01และเมื่อ วิเคราะห์ค่าอาหารที่เปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม พบว่า กลุ่มการทดลองที่ใช้ค่าอาหารมากที่สุด คือ กลุ่มการทดองที่ 4 94.97 บาท รองลงมาคือกลุ่มการทดลองที่ 2 93.94 บาท กลุ่มการทดลองที่ 3 92.49 บาท และกลุ่มการทดลองที่ใช้น้อยที่สุดคือกลุ่มการทดลองที่ 1 74.24 บาท โดยกลุ่มการทดลองที่ 2 , 3 และ 4 ไม่มีความแตกต่างกัน แต่ต่างจากกลุ่มที่ 1 อย่างมีนัยสำคัญยิ่งที่ p<0.01 แสดงให้เห็นว่าการเสริมพืช ตระกูลถั่วท้องถิ่นทำให้เพิ่มค่าอาหารเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวมากขึ้นกว่าการไมใช้พืชตระกูลถั่วท้องถิ่น ทั้งนี้ เพราะว่าค่าแรงงานและใบพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นมีราคาสูง ถ้าสามารถลดค่าแรงงานและวัตถุดิบนี้ได้น่าจะทำ ให้ค่าอาหารที่เปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวประหยัดหรือลดลงได้มากกว่านี้
บทคัดย่อ (EN): The result showed that T4 was the highest weight increase among all four groups at the growth rate of 129.25 kg./day or 0.60 kg. T2 127.75 kg. or 0.50 kg./day T4 125.75 kg./day and the lowest weight increase was T1 117.50 or 0.46 kg./day respectively. Statically there was no significant difference T2 , T3 and T4 as same but significantly different from T1 at the significant level of p<0.01 For the feed conversion rate the highest rate was T1 and T2 has the same weight as 61.30 kg. T4 61.14 kg. , T3 60.05 kg. and the lowest rate was T2 59.45 kg. which T2 , T3 and T4 were not significantly different but significantly different from T1 at p<0.01 Total feed consumption per day T4 was the highest consumer at 94.97 Baht , T2 93.94 Baht , T3 92.45 Baht And the lowest was T1 74.24 Baht respectively. There was no significantly different among T2, T3 and T4 but T1 significantly different with T2, T3 and T4 at the significant level of p<0.01. Counting the cost of feed conversion rate ,it was found that T4 used the highest cost at 94.97 Baht. Respectively, T2 was at 93.94 Baht., T3 92.49 Baht. and the lowest was T1 at 74.24 Baht. Statically, T2, T3 and T4 were not different. However T1 was significantly different at the significant level of p<0.01. The experiment revealed that local legume can increased growth rate of beef cattle and also increase the cost of feed conversion too. So,must be the price of local legume by save the labeur cost this feed stuff will be more useful for feeding beef cattle.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
คำสำคัญ: โคเนื้อ
หมวดหมู่:
หมวดหมู่ AGRIS:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิจัยประสิทธิภาพการใช้เปลือกสับปะรดเป็นอาหารหยาบผลพลอย ได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคเนื้อ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
30 กันยายน 2557
การใช้หญ้าขจรจบเป็นอาหารหยาบ ผลพลอยได้ของมันสำปะหลังจากการผลิตเอทานอลเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีนในการเลี้ยงโคนมสาว อาหารจากมันสำปะหลัง การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การผลิตเอทานอลจากกากเนื้อในเมล็ดปาล์มน้ำมันโดยเชื้อผสมที่คัดเลือก ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารปลาสลิด ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารปลาอีกงวัยรุ่น การเปรียบเทียบผลผลิตลูกปลิงทะเล (Holothuria scabra Jaeger, 1833) ที่อนุบาลด้วยอาหารธรรมชาติกับอาหารเสริม ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารสำหรับปลากระดี่หม้อ ระดับโปรตีนและพลังงานที่เหมาะสมในอาหารสำหรับปลาเทพาขนาดเล็ก การวิจัยประสิทธิภาพการใช้ฟางข้าวเป็นอาหารหยาบใช้มันเส้นเป็นแหล่งอาหารพลังงานและพืชตระกูลถั่วท้องถิ่นเป็นแหล่งอาหารเสริมโปรตีน ในการเลี้ยงลูกโคหย่านม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก