สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก
พิศมัย จันทุมา - การยางแห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก
ชื่อเรื่อง (EN): Suitable Tapping System for Development of Small- holding
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิศมัย จันทุมา
บทคัดย่อ: การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก ประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ กิจกรรมย่อยที่ 1 การใช้ระบบกรีดที่เหมาะสมกับพันธุ์ยางก่อนใช้ประโยชน์จากไม้ยาง การปลูกยางเพื่อใช้ประโยชน์จากไม้ยางอย่างเดียวเป็นการลงทุนสูง ควรใช้ประโยชน์จากผลผลิตน้ำยางด้วย จึงได้ศึกษาการใช้ระบบกรีดที่เหมาะสมกับพันธุ์ยางก่อนใช้ประโยชน์จากไม้ยาง ดำเนินการทดลองที่ศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตกระบี่ ส่วนแยกยางพารา เพื่อหาระบบกรีดที่เหมาะสมทั้งการให้ผลผลิตน้ำยางและเนื้อไม้ ในปี 2539-2546 เป็นระยะการทดลองเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของพันธุ์ยาง 4 พันธุ์คือ PB 260, AVROS 2037, BPM 24, และ MT/C/11 9/70 ซึ่งปลูกด้วยต้นยางชำถุง พบว่าพันธุ์ PB 260 มีการเจริญเติบโตก่อนเปิดกรีดดีที่สุด โดยเมื่อต้นยางอายุ 5 ปี ที่ระดับความสูง 170 เซนติเมตร มีความยาวรอบลำต้นดี เฉลี่ย 44.38 เซนติเมตร มีจำนวนต้นที่สามารถเปิดกรีดได้ 54 เปอร์เซ็นต์ พันธุ์ AVROS 2037 และพันธุ์ BPM 24 สามารถเปิดกรีดในปีที่ 6 ได้ โดยที่ระดับความสูง 170 เซนติเมตร มีความยาวรอบลำต้น เฉลี่ย 46.65 และ 43.91 เซนติเมตร ตามลำดับ มีจำนวนต้นที่สามารถเปิดกรีดได้ 63 และ 51 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ กิจกรรมย่อยที่ 2 ช่วงเวลาการกรีดที่เหมาะสมกับพันธุ์ RRIM 600 ในท้องที่แห้งแล้ง ที่ศูนย์วิจัยยางฉะเชิงเทรา วางแผนการทดลอง แบบ RCB จำนวน 3 ซ้ำ วางแผนการทดลองแบบ RCB มี 3 ซ้ำ ประกอบด้วยช่วงระยะเวลาในการกรีด 5 ช่วงเวลา เริ่มเวลา 22.00, 24.00, 02.00, 04.00 และ 06.00 น. โดยใช้ระบบกรีด 1/2S d/2 ผลการทดลอง 6 ปี พบว่า ช่วงเวลาการกรีดยางต่าง ๆ กัน ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยเป็นกรัมต่อต้นต่อครั้งกรีด และ กิโลกรัมต่อต้นต่อปี ไม่แตกต่างกันทางสถิติ กิจกรรมย่อยที่ 3 ศึกษาระบบกรีดยางที่เหมาะสมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่ศูนย์วิจัยยางหนองคาย วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 4 ซ้ำ วิธีการกรีดยาง 8 วิธีการ 1) 1/2S d/2 กรีดต้นยางให้หมดทีละหน้ากรีด 2) 1/2S d/2 กรีดต้นยาง 2 ปีแรก ในหน้ากรีดที่ 1 ปีที่ 3 กรีดหน้ากรีดที่ 2 1/3S 3d/4 ผลการทดลอง 3 ปี พบว่า ระบบกรีดที่มีความถี่ในการกรีด สองวันเว้นวันและกรีดสามวันเว้นวัน มีจำนวนวันกรีด เฉลี่ย 115 – 127 วัน/ปี และความสิ้นเปลืองเปลือกมากที่สุด 14.5 – 16.6 ซม./ปี ผลผลิตเฉลี่ยเป็นกรัมต่อต้นต่อครั้งกรีด ไม่แตกต่างทางสถิติ แต่ผลผลิตรวมมากกว่าวิธีการกรีดปกติ ระบบกรีดครึ่งลำต้นกรีดวันเว้นวัน เนื่องจากจำนวนวันกรีดยางต่างกัน ระบบกรีดที่เหมาะสมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ ระบบกรีดครึ่งลำต้นกรีดสองวันเว้นวัน และระบบกรีดหนึ่งในสามของลำต้นกรีดสองวันเว้นวัน กิจกรรมย่อยที่ 4 ระบบกรีดที่เหมาะสมสำหรับยางพันธุ์ RRIT 225, 226 และ 218 ที่ปลูกในชุดดินฝั่งแดง ต้นยางพันธุ์ RRIT 225, 226 และ 218 วางแผนการทดลอง แบบ RCB จำนวน 3 ซ้ำ แบ่งเป็น 3 การทดลอง โดยให้ยางแต่ละพันธุ์เป็น 1 การทดลอง วิธีการกรีดยาง 7 วิธีการ 1) 1/2S d/2 2) 1/2S d/2 + ET. 2.5 % 3) 1/3S d/2 4) 1/3S 2d/3 5) 1/3S 3d/4 6) 1/8S d/3 + GAS 7) 1Pc d/3 + GAS พบว่า ระบบกรีด ระบบเจาะวันเว้นสองวัน ร่วมกับการใช้แก๊ส ethylene 68 % ให้ผลผลิตต่อครั้งกรีดสูงสุดทั้งสามพันธุ์ รองลงมาคือ ระบบกรีดครึ่งลำต้น กรีดวันเว้นวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5 เปอร์เซ็นต์ กิจกรรมย่อยที่ 5 การเพิ่มผลผลิตของสวนยางขนาดเล็กในท้องที่แห้งแล้ง ที่ศูนย์วิจัยฉะเชิงเทรา วางแผนการทดลอง แบบ RCB จำนวน 4 ซ้ำ วิธีการกรีดยาง 6 วิธีการ A) ½ S d/2 B) ½S d/2 5m/9  ½S 2d/3 4m/9 C) ½S d/2 5m/9  ½S 3d/4 4m/9 D) ½S d/3 ET 2.5% 5m/9  ½S 2d/3 4m/9 E) ½S d/3 ET 2.5% 5m/9  ½S 3d/4 4m/9 และ F) ½S d/3 ET 2.5% . 4/y การทดลองพบว่า การจัดการระบบกรีดในสวนยางขนาดเล็กเป็นทางเลือกใหม่นอกเหนือจากวิธีการกรีดปกติ (1/2S d/2) มีแนวทางในการดำเนินงาน ดังนี้ 1. การเพิ่มจำนวนวันกรีดเพื่อชดเชยในช่วงฤดูแล้ง ( ฤดูหนาว ) สามารถเพิ่มจำนวนวันกรีด 8 – 15 วัน ( วันกรีด 130 - 137 วัน/ปี ) วิธีการ B ( 1/2S d/2 5m/9  1/2S 2d/3 4m/9 ) และวิธีการ E ( 1/2S d/3 ET 2.5% 5m/9  1/2S 3d/4 4m/9 ) สามารถเพิ่มผลผลิตได้มากที่สุดเฉลี่ย 406 และ 457 กิโลกรัม/ไร่/ปี และมีรายได้สุทธิมากกว่าวิธีการกรีดปกติ ( วิธีการ A ) 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ การเพิ่มจำนวนวันกรีดไม่มีผลต่อการแสดงอาการเปลือกแห้งของต้นยาง 2. จำนวนวันกรีดเท่าเดิม วิธีการ D ( 1/2S d/3 ET 2.5% 5m/9  1/2S 2d/3 4m/9 ) เพิ่มผลผลิตได้เฉลี่ย 402 กิโลกรัม/ไร่/ปี โดยใช้วิธีการจัดการลดจำนวนวันกรีดยางในฤดูฝน ( พ.ค. – ก.ย. ) และเพิ่มจำนวนวันกรีดเพื่อชดเชยในช่วงฤดูแล้ง ( ฤดูหนาว ) แต่โดยรวมแล้วไม่ได้เพิ่มจำนวนวันกรีดต่อปี ( วันกรีด 118 วัน/ปี ) และมีรายได้สุทธิมากกว่าวิธีการกรีดปกติ 5 เปอร์เซ็นต์ และ 3. การลดจำนวนวันกรีด วิธีการ F ( 1/2S d/3 ET 2.5% . 4/y ) ผลผลิตได้เฉลี่ยลดลงเหลือ 342 กิโลกรัม/ไร่/ปี แต่ไม่แตกต่างทางสถิติกับวิธีการกรีดปกติ โดยลดจำนวนวันกรีดยางลงเหลือ 90 วัน/ปี แต่เนื่องจากผลผลิตเฉลี่ยมากที่สุด 50.98 กรัม/ต้น/ครั้งกรีด มีรายได้เพียง 84 % เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการกรีดปกติ อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถนำไปใช้แนะนำระบบกรีดเมื่อเกิดภาวะขาดแคลนแรงงานกรีดยาง กิจกรรมย่อยที่ 6 ระบบกรีดที่เหมาะสมกับพันธุ์ยางในเขตแห้งแล้ง ( จ.อุดรธานี ) ในยาง 6 พันธุ์ RRIC 110, PB260 , PB 235, RRIM 600, PR 261 และ PR 255 ให้แต่ละพันธุ์เป็น 1 การทดลอง วางแผนการทดลองแบบ RCB จำนวน 4 ซ้ำ 6 วิธีการ 1) 1/2S d/3 + E.T. 2.5 % 2) 1/2S d/2 3) 1/2S 2d/3 4)1/2S d2  1/2S 2d/3 ( ต.ค. – ม.ค. ) 5) 1/3 S d/3 + E.T. 2.5 % 6)1/3S 2d/3 ผลการทดลอง พบว่า พันธุ์ RRIC 110 , PB 260, RRIM 600, PR 261 และ GT 1 ตอบสนองต่อความถี่ในการกรีดวันเว้นสองวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5 % จำนวน 4 ครั้งต่อปี ได้ผลผลิตเฉลี่ยมากที่สุด แต่ผลผลิตเป็นกิโลกรัม/ต้นต่อปี ไม่แตกต่างกันทางสถิติ พันธุ์ PB 235 ระบบกรีดครึ่งลำต้น กรีดวันเว้นสองวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5 % จำนวน 4 ครั้งต่อปี ได้ผลผลิตเฉลี่ยมากที่สุด แต่ระบบกรีดครึ่งลำต้นกรีดวันเว้นวัน จำนวน 5 เดือน เปลี่ยนความถี่ในการกรีดเป็นกรีดสองวันเว้นวัน จำนวน 4 เดือน และระบบกรีดหนึ่งในสามของลำต้น กรีดสองวันเว้นวัน ให้ผลผลิต 7.03 และ 6.30 กิโลกรัม/ต้น/ปี ตามลำดับ และพันธุ์ PR 255 ระบบกรีดหนึ่งในสามของลำต้น กรีดวันเว้นสองวันร่วมกับการใช้สารเคมีเร่งน้ำยาง 2.5 % จำนวน 4 ครั้งต่อปี ผลผลิต 88.90 กรัม/ต้น/ครั้งกรีด และ 4.18 กิโลกรัม/ต้น/ปี
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: การยางแห่งประเทศไทย
คำสำคัญ: ขนาดเล็ก
คำสำคัญ (EN): Development of Small- holding
เจ้าของลิขสิทธิ์: การยางแห่งประเทศไทย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาระบบกรีดที่เหมาะสมกับเจ้าของสวนยางขนาดเล็ก
การยางแห่งประเทศไทย
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
ทดสอบการกรีดยางสำหรับสวนยางขนาดเล็ก สำรวจการเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมของสวนยางขนาดเล็กในภาคใต้ ต้นทุนการผลิตยางของสวนยางขนาดเล็ก การศึกษารูปแบบและเทคโนโลยีการทำสวนยางพาราของชาวสวนยางพาราขนาดเล็ก เพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน จังหวัดสตูล เศรษฐกิจการปลูกพืชแซมยางในสวนยางปลูกแทนขนาดเล็กในเขตภาคใต้ตอนบน การวิจัยและพัฒนาระบบกรีดและสรีระที่เหมาะสมกับการเพิ่มผลผลิตสวนยาง ศึกษาระบบกรีดที่เหมาะสมกับยางพันธุ์ GT 1 การศึกษาลักษณะและคุณสมบัติของยางพาราบางพันธุ์หลังเปิดกรีดที่ปลูกในสวนยางขนาดใหญ่ ศักยภาพการผลิตยางของสวนยางก่อนเปิดกรีดในภาคตะวันออก การพัฒนากระบวนการออกแบบแม่พิมพ์ฉีดขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ยางที่มีขนาดเล็ก (ระยะที่ 2)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก