สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีนในแครอทระหว่างการอบแห้งแบบต่าง
บุษวรรณ หิรัญวรชาติ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีนในแครอทระหว่างการอบแห้งแบบต่าง
ชื่อเรื่อง (EN): Determination of Isomerization Kinetics and Antioxidant Activities of B-Carotene in Carrots Undergoing Different Drying Techniques and Conditions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บุษวรรณ หิรัญวรชาติ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Bhudsawan Hiranvarachat
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีน (?-carotene) ในแครอทระหว่างการอบแห้งโดยวิธีการและที่สภาวะต่างๆ โดยในส่วนแรกของงานวิจัยเป็นการศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันของเบต้าแคโรทีนในแครอทซึ่งผ่านการอบแห้งแบบลมร้อน แบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะ ความดันต่ำ ที่อุณหภูมิ 60 70 และ 80 องศาเซลเซียส และที่ความดันสัมบูรณ์ 7 กิโลปาสคาล (ในกรณีการอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำ) โดยใช้วิธี High-Performance Liquid Chromatography (HPLC) จากการศึกษาปริมาณเบต้าแคโรทีนและจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรโซชัน พบว่าแครอทซึ่งผ่านการอบแห้งแบบลมร้อน แบบ สุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำสูญเสียปริมาณเบต้าแคโรทีนไปร้อยละ 72 68 และ 65 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า 13-cis เบต้าแคโรทีนซึ่งเป็น cis ไอโซเมอร์เด่นของเบต้า แคโรทีนเพียงชนิดเดียวที่พบในงานวิจัยนี้ เริ่มเกิดที่ปริมาณความชื้นของแครอทเท่ากับ 0.5 2.2 และ 6.3 กิโลกรัมน้ำต่อกิโลกรัมน้ำหนักแห้ง ในกรณีการอบแห้งแบบลมร้อน แบบสุญญากาศและแบบ ไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำตามลำดับ อย่างไรก็ตามปริมาณการเกิด 13-cis เบต้าแคโรทีนในแต่ละกรณีไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนที่สองเป็นการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีนซึ่งประกอบไปด้วยไอโซเมอร์ต่างๆ ได้แก่ all-trans เบต้าแคโรทีนและ 13-cis เบต้าแคโรทีน โดยทำการวัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี TEAC (Trolox Equivalent Antioxidant Capacity) จากผลการทดลองพบว่าที่ความชื้นสุดท้ายของแครอทเท่ากับ 0.1 กิโลกรัมน้ำต่อกิโลกรัมน้ำหนักแห้ง การอบแห้งแบบลมร้อนส่งผลให้แครอทมีฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระน้อยกว่ากรณีการอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำ โดยมีการสูญเสียฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระประมาณร้อยละ 70 ในขณะที่การอบแห้งแบบสุญญากาศและ แบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำทำให้เกิดการสูญเสียฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพียงร้อยละ 60 และ 55 ตามลำดับ ซึ่งผลที่ได้นี้เป็นเพราะการอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะ ความดันต่ำทำให้เกิดการสูญเสียปริมาณเบต้าแคโรทีนรวมต่ำกว่ากรณีการอบแห้งแบบลมร้อนเนื่องจาก all-trans เบต้าแคโรทีนส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนรูปไปเป็น 13-cis เบต้าแคโรทีนในระหว่างการอบแห้ง
บทคัดย่อ (EN): the losses of B-carotene at the final moisture content of 0.1 kg/kg (d.b.) were 72, 68 and 65% in the cases of hot air drying, vacuum drying and LPSSD, respectively. Furthermore, 13-cis-B-carotene was found to be a predominant cis isomer in all cases. 13-cis-B-carotene started to form at the moisture contents lower than 0.5, 2.2 and 6.3 kg/kg (d.b.) in the cases of vacuum drying, hot air drying and LPSSD, respectively. However, the total amounts of 13-cis-B-carotene at various conditions were not much different. In the second part of the study the antioxidant activities of various combinations (or proportions) of all-trans and cis forms of B-carotene in carrots were evaluated using the TEAC (Trolox Equivalent Antioxidant Capacity) assay. The antioxidant activities were reported in terms of % relative inhibition. Hot air drying led to products with lower antioxidant activities at the final moisture content of 0.1 kg/kg (d.b.) than in the cases of vacuum drying and LPSSD. At the final moisture content of 0.1 kg/kg (d.b.), the losses in the % relative inhibition were about 70, 60 and 55% in the cases of hot air dying, vacuum drying and LPSSD, respectively. These results corresponded to the results of the isomerization kinetics of ?-carotene, in which LPSSD and vacuum drying were shown to better preserve B-carotene than did hot air drying by partially converting all-trans-B-carotene into 13-cis-B-carotene.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=54&RecId=9680&obj_id=28193
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
คำสำคัญ (EN): Degradation
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีน (?-carotene) ในแครอทระหว่างการอบแห้งโดยวิธีการและที่สภาวะต่างๆ โดยในส่วนแรกของงานวิจัยเป็นการศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันของเบต้าแคโรทีนในแครอทซึ่งผ่านการอบแห้งแบบลมร้อน แบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะ ความดันต่ำ ที่อุณหภูมิ 60 70 และ 80 องศาเซลเซียส และที่ความดันสัมบูรณ์ 7 กิโลปาสคาล (ในกรณีการอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำ) โดยใช้วิธี High-Performance Liquid Chromatography (HPLC) จากการศึกษาปริมาณเบต้าแคโรทีนและจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรโซชัน พบว่าแครอทซึ่งผ่านการอบแห้งแบบลมร้อน แบบ สุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำสูญเสียปริมาณเบต้าแคโรทีนไปร้อยละ 72 68 และ 65 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า 13-cis เบต้าแคโรทีนซึ่งเป็น cis ไอโซเมอร์เด่นของเบต้า แคโรทีนเพียงชนิดเดียวที่พบในงานวิจัยนี้ เริ่มเกิดที่ปริมาณความชื้นของแครอทเท่ากับ 0.5 2.2 และ 6.3 กิโลกรัมน้ำต่อกิโลกรัมน้ำหนักแห้ง ในกรณีการอบแห้งแบบลมร้อน แบบสุญญากาศและแบบ ไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำตามลำดับ อย่างไรก็ตามปริมาณการเกิด 13-cis เบต้าแคโรทีนในแต่ละกรณีไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนที่สองเป็นการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีนซึ่งประกอบไปด้วยไอโซเมอร์ต่างๆ ได้แก่ all-trans เบต้าแคโรทีนและ 13-cis เบต้าแคโรทีน โดยทำการวัดฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี TEAC (Trolox Equivalent Antioxidant Capacity) จากผลการทดลองพบว่าที่ความชื้นสุดท้ายของแครอทเท่ากับ 0.1 กิโลกรัมน้ำต่อกิโลกรัมน้ำหนักแห้ง การอบแห้งแบบลมร้อนส่งผลให้แครอทมีฤทธิ์ต้าน อนุมูลอิสระน้อยกว่ากรณีการอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำ โดยมีการสูญเสียฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระประมาณร้อยละ 70 ในขณะที่การอบแห้งแบบสุญญากาศและ แบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำทำให้เกิดการสูญเสียฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเพียงร้อยละ 60 และ 55 ตามลำดับ ซึ่งผลที่ได้นี้เป็นเพราะการอบแห้งแบบสุญญากาศและแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะ ความดันต่ำทำให้เกิดการสูญเสียปริมาณเบต้าแคโรทีนรวมต่ำกว่ากรณีการอบแห้งแบบลมร้อนเนื่องจาก all-trans เบต้าแคโรทีนส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนรูปไปเป็น 13-cis เบต้าแคโรทีนในระหว่างการอบแห้ง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาจลนพลศาสตร์การเกิดไอโซเมอไรเซชันและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของเบต้าแคโรทีนในแครอทระหว่างการอบแห้งแบบต่าง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2549
การอบแห้งเมล็ดข้าวโพคแบบในถังเก็บภายใต้สภาวะอากาศร้อนชื้น จลนศาสตร์การหดตัวของแครอทที่ผ่านการอบแห้งแบบไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำและแบบสุญญากาศ ผลของสภาวะไอน้ำร้อนยวดยิ่งต่อจลนพลศาสตร์และผลิตภัณฑ์ของการอบแห้งแครอทแผ่น การศึกษาผลของการลวกและอุณหภูมิอบแห้งต่อฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของใยอาหารผงผลิตจากเปลือกแครอท การศึกษาการอบแห้งกล้วยภายใต้สภาวะไม่คงที่โดยวิธีไอน้ำร้อนยวดยิ่งที่สภาวะความดันต่ำและวิธีสุญญากาศ แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของระบบอัดไอสำหรับการอบแห้งและการเก็บรักษาผลผลิตทางการเกษตร การศึกษาอิทธิพลของการลวกและอุณหภูมิในการอบแห้งต่อการ เปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีกายภาพของผงใยอาหารสูงผลิตจากเศษกะหล่ำปลี กระบวนการดูดซับและการคืนรูปของซิลิกาเจล สำหรับเครื่องอบแห้งพลังงานแสงอาทิตย์ การอบแห้งลำไยทั้งเปลือกด้วยวิธีปั๊มความร้อนร่วมกับอินฟราเรด การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของการอบเครื่องปลูกด้วยอากาศร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก