สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟคลินในส่วนประกอบของเลือด
Nongluk Seethorn - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟคลินในส่วนประกอบของเลือด
ชื่อเรื่อง (EN): Study on gender-specific distribution of Mefloquine in blood components
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nongluk Seethorn
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือตรวจสอบผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟควิน ในส่วนประกอบของเลือด (เซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เกร็ดเลือด, เลือดทั้งส่วน, น้ำเลือด และเซรัม) ในผู้ป่วยชาวไทยที่มีการติดเชื้อพลาสโมเดียมฟัลซิพารัมชนิดไม่รุนแรง และศึกษาผล ของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในส่วนประกอบของเลือด (เซลล์เม็ดเลือดแดงและน้ำเลือด) ในอาสาสมัครเพศหญิงและเพศชาย โดยทดสอบเพาะเลี้ยงเชื้อพลาสโมเดียมฟัลซิพารัม ในห้องปฏิบัติการ ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่า การกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในน้ำเลือดมีความ แตกต่างกันระหว่างเพศหญิงและชายอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ แต่ไม่พบความแตกต่าง ทางเภสัชจลนศาสตร์ระหว่างเพศในการศึกษาในผู้ป่วยมาลาเรียฟัลซิพารัมชนิดไม่รุนแรง ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ในอาสาสมัครสุขภาพสมบูรณ์ชาว Caucasians (ออสเตรีย) ส่วนผลการศึกษาการกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในเซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เกร็ดเลือด, เลือดทั้งส่วน, น้ำเลือด และเซรัม พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในเพศหญิงและชาย ดังนั้น จึงอาจจะอธิบายได้ว่าปัจจัยของการติดเชื้อมาลาเรียอาจมีผลต่อการกระจายยาเมฟโฟควินในน้ำเลือด กล่าวคือ การจับของยาเมฟโฟควินกับโปรตีนในน้ำเลือดในผู้ป่วยที่เป็นมาลาเรียมีความแตกต่าง จากน้ำเลือดของคนปกติที่ไม่ได้เป็นมาลาเรีย ทั้งนี้มีหลักฐานสนับสนุนจากข้อมูลจากการศึกษา ที่ผ่านมาซึ่งพบว่ายาเมฟโฟควินจะสะสมในเม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อมาลาเรียมากกว่าเม็ดเลือดแดง ปกติอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติร่วมด้วย
บทคัดย่อ (EN): The aim of this study was to investigate the gender-specific differences in partitioning of mefloquine to various blood and fluid components (RBCs, WBCs, platelets, whole blood, plasma, serum) in Thai patients with acute uncomplicated falciparum malaria through an in vivo study and to conduct an in vitro study of mefloquine in blood components (RBCs, plasma) obtained from female and male subjects, employing P. falciparum culture. This in vivo study showed no significant gender-specific differences in the plasma concentration of mefloquine. The in vitro model of P. falciparum showed significant gender-specific differences in the plasma concentrations of mefloquine, which can probably be explained by gender-related pharmacokinetic differences and extensive plasma protein binding of mefloquine. A study healthy Caucasians showed significant gender-specific differences using the in vivo model. Presumably the contrast between that study and the present study is explained by pharmacokinetic differences between persons of ethnic backgrounds and in patients with malaria, where parasitaemia may affect the distribution of mefloquine. Similarly, other fluid components in the present study showed no significant gender-specific differences in the whole blood and serum concentration of mefloquine in Thai patients with acute uncomplicated falciparum malaria. The same applied to the whole blood (RBCs+plasma) mefloquine concentration observed in the in vitro study. In cellular compartments (RBCs, WBCs, platelets), the concentrations of mefloquine were not significantly different between female and male Thai patients with acute uncomplicated P. falciparum malaria and the RBCs concentration of mefloquine in the in vitro study. Presumably this is explained by extensive plasma protein binding of mefloquine. In conclusion, no significant differences between the gender-specific distribution of mefloquine in cellular (RBCs, WBCs, platelets) and fluid (whole blood, plasma, serum) blood compartments were observed in the in vivo study. Significant gender-specific differences were observed in the plasma concentrations of mefloquine whereas in whole blood and RBCs no significant gender-specific differences were seen in female and male subjects using P. falciparum culture in vitro. In female and male blood the mefloquine concentrations in the RBCs were significantly higher than those in the plasma, suggesting an intensive uptake by the RBCs. There was evidence of marked selective uptake of mefloquine by P. falciparum infected RBCs as compared to non-infected RBCs.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=5389&obj_id=4090
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Blood Component Transfusion
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือตรวจสอบผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟควิน ในส่วนประกอบของเลือด (เซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เกร็ดเลือด, เลือดทั้งส่วน, น้ำเลือด และเซรัม) ในผู้ป่วยชาวไทยที่มีการติดเชื้อพลาสโมเดียมฟัลซิพารัมชนิดไม่รุนแรง และศึกษาผล ของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในส่วนประกอบของเลือด (เซลล์เม็ดเลือดแดงและน้ำเลือด) ในอาสาสมัครเพศหญิงและเพศชาย โดยทดสอบเพาะเลี้ยงเชื้อพลาสโมเดียมฟัลซิพารัม ในห้องปฏิบัติการ ผลการศึกษาในห้องปฏิบัติการพบว่า การกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในน้ำเลือดมีความ แตกต่างกันระหว่างเพศหญิงและชายอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ แต่ไม่พบความแตกต่าง ทางเภสัชจลนศาสตร์ระหว่างเพศในการศึกษาในผู้ป่วยมาลาเรียฟัลซิพารัมชนิดไม่รุนแรง ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ในอาสาสมัครสุขภาพสมบูรณ์ชาว Caucasians (ออสเตรีย) ส่วนผลการศึกษาการกระจายตัวของยาเมฟโฟควินในเซลล์เม็ดเลือดแดง, เซลล์เม็ดเลือดขาว, เกร็ดเลือด, เลือดทั้งส่วน, น้ำเลือด และเซรัม พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในเพศหญิงและชาย ดังนั้น จึงอาจจะอธิบายได้ว่าปัจจัยของการติดเชื้อมาลาเรียอาจมีผลต่อการกระจายยาเมฟโฟควินในน้ำเลือด กล่าวคือ การจับของยาเมฟโฟควินกับโปรตีนในน้ำเลือดในผู้ป่วยที่เป็นมาลาเรียมีความแตกต่าง จากน้ำเลือดของคนปกติที่ไม่ได้เป็นมาลาเรีย ทั้งนี้มีหลักฐานสนับสนุนจากข้อมูลจากการศึกษา ที่ผ่านมาซึ่งพบว่ายาเมฟโฟควินจะสะสมในเม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อมาลาเรียมากกว่าเม็ดเลือดแดง ปกติอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยของความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติร่วมด้วย
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาผลของเพศต่อการกระจายตัวของยาเมฟโฟคลินในส่วนประกอบของเลือด
Nongluk Seethorn
มหาวิทยาลัยมหิดล
2552
ผลของยาทีพอกซาลินในการลดปวดในกระต่ายภายหลังการศัลยกรรมทำหมันเพศเมีย การศึกษาคุณสมบัติของดินกระจายตัวผสมยิปซัม การศึกษาผลของยาซัลปานิลาไมต์ร่วมกับยาไพริเมทธามีนต่อการลดความ สมบูรณ์พันธุ์ในหนูวิสตาร์แรทเพศผู้ อิทธิพลของอันตรกิริยาระหว่างยากับโพลิเมอร์ต่อคุณสมบัติทางเคมีกายภาพและการปลดปล่อยตัวยาจากยาเม็ดมาทริกซ์ การกระจายตัวและสหสัมพันธ์ระหว่างลักษณะของพิทูเนีย ในลูกชั่วที่ 2 และ 3 ตัวนำเนินการ Lk ที่สัมพันธ์กับตัวดำเนินการลาปลาซ คุณลักษณะของถ่านกัมมันต์ที่ได้จากกากของรำข้าวและการประยุกต์ใช้เป็นตัวรองรับของตัวเร่งปฏิกิริยา ความเสถียรของพันธุกรรมรักษาเพศผู้เป็นหมันและความสามารถในการรวมตัวของลักษณะผลผลิตในพริกหนุ่ม การดูดซับโซเดียมพอลิอะคริเลตและเสถียรภาพการ กระจายตัวในเคลือบเซรามิก การศึกษาเปรียบเทียบการกระจายตัวของเชื้อราที่พบบนบกกับที่จมอยู่ในน้ำของปาล์มกระพ้อแดงและการผลิ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก