สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ สารละลายกรด lauric สาร monolaurin และกรด lactic ต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Listeria monocytogenes บนเนื้อสุกรสด
ผุสดี ตังวัชรินทร์ - มหาวิทยาลัยทักษิณ
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ สารละลายกรด lauric สาร monolaurin และกรด lactic ต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Listeria monocytogenes บนเนื้อสุกรสด
ชื่อเรื่อง (EN): Efficacy of Virgin Coconut Oil, Lauric Acid, Monolaurin and Lactic Acid Solution for Inhibition of Listeria monocytogenes on Fresh Pork
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์การต้านจุลินทรีย์ของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ กรดลอริก สารโมโนลอริน ร่วมกับกรดแลกติก ต่อเชื้อ Listeria monocytogenes ที่แยกได้จากซากสุกรด้วยการวิเคราะห์หาค่า Fractional bactericidal concentration index (FBCI) และระยะเวลาที่ใช้ในทำลายแบคทีเรียร่วมกับ Sodium dodecyl sulfate polyacrylamide gel electrophoresis (SDS-PAGE) และ Scanning and Transmission Electron Microscopy จากการศึกษาพบว่า ความเข้มข้นต่ำที่สุดที่สามารถทำลายเชื้อ L. monocytogenes (Minimum bactericidal concentrations, MBC) ของกรดลอริก สารโมโนลอริน และกรดแลกติก มีค่าเท่ากับ 1,000 mg/ml 0.31 mg/ml และ 4% (v/v) ตามลำดับ การใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ กรดลอริก และสารโมโนลอริน ร่วมกับกรดแลกติก มีฤทธิ์เสริมกัน โดยมีค่า FBCI เท่ากับ 0.1875 0.7500 และ 0.6250 ตามลำดับ และการใช้สารร่วมกันที่ความเข้มข้นต่ำที่สุดสามารถออกฤทธิ์ในการทำลายแบคทีเรีย โดยการเหนี่ยวนำเซลล์แบคทีเรียจากสภาวะปกติเข้าสู่สภาวะเครียดขึ้นอยู่กับชนิดและระดับความเข้มข้นของสาร และยังส่งผลให้ไซโตรพลาสม เมมเบรน และการสังเคราะห์โปรตีนของแบคทีเรียเกิดการสูญเสียและเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ความเข้มข้น 10% ไม่สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ L. monocytogenes ได้ สำหรับการศึกษาผลของสารดังกล่าวในเนื้อสุกรสด โดยแบ่งเนื้อสันนอกสุกรสดออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่ง 2 กลุ่ม ทำการศึกษาผลของสารต่อจุลินทรีย์ทั้งหมดในเนื้อสุกร และทดสอบทางประสาทสัมผัส และอีกหนึ่งกลุ่มทำการศึกษาผลของสารต่อเชื้อ L. monocytogenes โดยการเติมเชื้อ L. monocytogenes เพื่อให้ตัวอย่างมีปริมาณเชื้อเริ่มต้น 4 log cfu/g จากนั้นนำตัวอย่างเนื้อสุกรแต่ละกลุ่มมาแบ่งเป็น 4 treatments ได้แก่ 1) ตัวอย่างที่ไม่จุ่มสารละลายใด ๆ 2)ตัวอย่างจุ่มน้ำ (กลุ่มควบคุม) 3) จุ่มสารละลายน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ร่วมกับกรดแลกติก (6.25% (v/v) + 0.5% (v/v)) 4) จุ่มสารละลายโมโนลอริน ร่วมกับกรดแลกติก (0.16 mg/ml + 0.5% (v/v)) เป็นเวลา 10 นาที แล้วนำเนื้อสุกรบรรจุแบบสุญญากาศในถุงพลาสติกชนิด PE จากนั้นทำการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 และ 15 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 0 1 2 4 และ 8 วัน จากผลการทดลองพบว่า การใช้สารละลายไขมันทั้งสองชนิดร่วมกับกรดแลกติก มีประสิทธิภาพในการควบคุมการเจริญของเชื้อ L. monocytogenes และจุลินทรีย์ทั้งหมดมากที่สุดทั้งที่อุณหภูมิการเก็บรักษา 4 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8 และ 2 วัน ตามลำดับ (P < 0.05) แต่ค่าความเป็นกรด-ด่างของสารละลายเหล่านี้มีผลทำให้เนื้อสุกรมีการสูญเสียน้ำหนักมากขึ้นลดลง โดยมีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียน้ำหนักระหว่างการเก็บรักษาและภายหลังทำให้เนื้อสุกอยู่ในช่วง 7.07-7.64% และ 22.88-23.78% ตามลำดับ และเนื้อมีสีซีดมากขึ้น ในขณะที่การไม่จุ่มและจุ่มน้ำสามารถควบคุมการเจริญของเชื้อ L. monocytogenes และจุลินทรีย์ทั้งหมดในเนื้อสุกรที่การเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ได้เพียง 1 และ 2 วัน ตามลำดับ และที่อุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส ไม่สามารถควบคุมแบคทีเรียได้ และยิ่งไปกว่านั้นยังพบการสูญเสียน้ำหนักของเนื้อสุกรกลุ่มควบคุม โดยมีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียน้ำหนักระหว่างการเก็บรักษาและภายหลังทำให้เนื้อสุกอยู่ในช่วง 5.22-6.79% และ 22.03-24.44% ตามลำดับ สำหรับการเก็บรักษาทั้งที่อุณหภูมิ 4 และ 15 องศาเซลเซียส เนื้อสุกรทุกกลุ่มมีเปอร์เซ็นต์การสูญเสียน้ำหนักระหว่างการเก็บรักษาและภายหลังทำให้เนื้อสุก ค่า L* ค่า PV ค่า TBARs และคะแนนทดสอบทางประสาทสัมผัสความแตกต่างจากเนื้อสุกรปกติมีค่าเพิ่มขึ้น แต่มีค่า shear force ค่า a* และค่า C* ลดลงตามระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น (P < 0.05) ดังนั้นจากผลศึกษาในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือสารโมโนลอริกร่วมกับกรดแลกติกสามารถยืดอายุการเก็บรักษาเนื้อสุกรสดได้ทั้งที่อุณหภูมิการเก็บรักษา 4 และ 15 องศาเซลเซียส
บทคัดย่อ (EN): The objective of this study was to investigate the in vitro antimicrobial activities of virgin coconut oil, lauric acid and monolaurin in combination with lactic acid against Listeria monocytogenes, isolated from a pig carcass, by determination of Fractional Bactericidal Concentration Index (FBCI), time-kill method, as well as Sodium dodecyl sulfate polyacrylamide gel electrophoresis (SDS-PAGE), scanning and transmission electron microscopy. Minimum bactericidal concentrations (MBC) of lauric acid, monolaurin and lactic acid were 1,000 mg/ml, 0.31 mg/ml and 4% (v/v), respectively. The effects of virgin coconut oil + lactic acid, lauric acid + lactic acid and monolaurin + lactic acid combinations were synergistic against both strains, exhibiting FBCIs of 0.1875, 0.7500 and 0.6250, respectively. In time-kill studies, lauric acid and monolaurin + lactic acid combinations added at their minimum inhibitory concentrations produced a bactericidal effect. The induction of stress in non-stressed cells was dependent on the type and concentration of antimicrobial. This resulted in a loss and change of the cytoplasm, membrane and protein synthesis in cells of the bacterium. In contrast, virgin coconut oil (10%) was not active against L. monocytogenes. Fresh pork loins were divided into 3 groups. Two groups were used to determine the effects of antimicrobials on total plate count (TPC) and sensory evaluation, for which the pieces were not inoculated with the bacterial suspension. The another group was used to determine the effect of antimicrobials on L. monocytogenes, for which the pieces were inoculated with approximately 4 log cfu/g of initial number of L. monocytogenes and then, divided into 4 treatments; 1) non-dipped and 2) dipped in water (control) and each solution of 3) 6.25% (v/v) virgin coconut oil + 0.5% (v/v) lactic acid and 4) 0.16 mg/ml monolaurin + 0.5% (v/v) lactic acid for 10 minutes. The meat samples were vacuum packed in the PE plastic bags and stored at 4 and 15oC for 0, 1, 2, 4 and 8 days. Both lipids in combination with lactic acid solution were the most effective in control of L. monocytogenes and TPC at 4oC after 8 and 2 days of storage, respectively, (P < 0.05). The low pH of their solutions caused the highest weight loss of range 7.07-7.64% drip loss, 22.88-23.78% cooking loss and discoloration. In contrast, non-dipped and dipped in water controlled growth of L. monocytogenes and TPC for 2 days and 1 day of storage, respectively, at 4oC and uncontrolled growth of bacteria at 15oC. Furthermore, control samples were lost weight in ranges of 5.22-6.79% drip loss and 22.03-24.44% cooking loss. Stored at 4 and 15oC, drip and cooking loss, L*, PV TBARs and sensory score of different-from-control were increased but shear force, a* and C* were decreased as storage was longer in all solution types (P < 0.05). Results of this study indicate that virgin coconut oil or monolaurin in combination with lactic acid can be incorporated in fresh pork to effectively extend shelf-life at 4 and 15oC of storage.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยทักษิณ
คำสำคัญ: ความปลอดภัยในอาหาร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ สารละลายกรด lauric สาร monolaurin และกรด lactic ต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Listeria monocytogenes บนเนื้อสุกรสด
มหาวิทยาลัยทักษิณ
30 กันยายน 2553
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ประสิทธิภาพของกรดไขมันจากน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ในการยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรค การใช้สารสกัดสมุนไพรในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อเส้นดำในยางพารา การพัฒนาฟิล์มต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์จากคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสที่มีการเติมสารสกัดกรดฟีนอลิกและนาโนเซลลูโลสจากชานอ้อยสำหรับการประยุกต์ใช้ทางเวชสำอาง การประยุกต์ใช้เทคนิควิวัฒนาการเมทาบอลิกในเชื้อ Escherichia coli ที่ผ่านการดัดแปลงวิถีเมทาบอลิกสายพันธุ์ KJ122 เพื่อความทนทานต่อสารพิษในสารย่อยชานอ้อยและการผลิตกรดซักซินิกจากสารย่อยชานอ้อย อิทธิพลของซิริซินที่สกัดด้วยสารสกัดด่างและกรดต่อการเจริญเติบโตของเซลล์สัตว์ วิจัยคัดเลือกจุลินทรีย์ผลิตสารเสริมการเจริญเติบโตของพืช กรด 5-อะมิโนลีวูลินิก ผลของสารเร่งการเจริญเติบโตต่อความไวรัสของเชื้ออี.โคไลในอุจจาระสุกรอนุบาลต่อยาต้านจุลชีพ ประสิทธิภาพของกรดซิตริกต่อการลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ในผลไม้สดตัดแต่ง การเพิ่มการเจริญเติบโตของต้นกล้ายางพาราในดินกรดโดยเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา ที่มีประสิทธิภาพ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก