สืบค้นงานวิจัย
เกลือแร่ชนิดต่างๆ ไฟเตทและแทนนินในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางด้านโภชนาการ
Chaninneat Torsahakul - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เกลือแร่ชนิดต่างๆ ไฟเตทและแทนนินในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางด้านโภชนาการ
ชื่อเรื่อง (EN): Minerals, phytate and tannin contents in selected thai fruits for health and diseases guildlines
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chaninneat Torsahakul
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ คือ การหาปริมาณแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ (โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ทองแดง และสังกะสี) โพลีฟีนอล แทนนิน คาเตชิน และไฟเตท และหาค่าสัดส่วนโมลาร์ของไฟเตทกับเหล็กและสังกะสี รวมถึงคำนวณปริมาณสารอาหารต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของผลไม้สดและผลไม้กระป๋องที่นิยมรับประทานในประเทศไทย โดยผลไม้สด 37 ชนิดและ ผลไม้กระป๋อง 4 ชนิดซื้อมาจากตลาดสดและซุปเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 จากการวิเคราะห์หาปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมด้วยเครื่อง Flame atomic absorption spectrophotometer และปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ทองแดงและสังกะสีด้วยเครื่อง Inductively coupled plasma-optical emission spectrometry (ICP-OES) พบว่า ผลไม้เป็นแหล่งที่ดีของโพแทสเซียม โดยมีปริมาณโพแทสเซียมระหว่าง 28.30 ถึง 405.60 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้โดยผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูง ได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยหอม และทุเรียนชะนี ส่วนแร่ธาตุอื่น ๆ ในผลไม้ พบว่ามีอยู่ปริมาณน้อย โดยในผลไม้ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้มีโซเดียม 0.59 ถึง 16.32 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 3.08 ถึง 25.21 มิลลิกรัม แคลเซียม 1.17 ถึง 22.09 มิลลิกรัม เหล็ก 0.08 ถึง 0.33 มิลลิกรัม ทองแดง 0.04 ถึง 0.27 มิลลิกรัม และสังกะสี 0.04 ถึง 0.28 มิลลิกรัม สำหรับปริมาณโพลีฟีนอล แทนนิน และคาเตชินในผลไม้ ซึ่งวิเคราะห์ด้วยเครื่อง Spectrophotometer พบว่ามีปริมาณอยู่ระหว่าง 4.67 ถึง 322.63 ถึง 43.37 และ 0.01 ถึง 21.44 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ตามลำดับ ผลไม้ที่มีโพลีฟีนอล แทนนิน และคาเตวินสูง คือ น้อยหน่าหนัง ส่วนการวิเคราะห์หาปริมาณไฟเตทในผลไม้โดยวิธี ion-pair reverse-phase chromatography พบว่ามีค่าระหว่าง 0.01 ถึง 6.02 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ส่วนที่บริโภคได้ และผลไม้ที่มีไฟเตทสูงที่สุด คือ แก้วมังกร เมื่อคำนวณหาปริมาณแร่ธาตุต่าง ๆ โพลีฟีนอล แทนนิน คาเตชิน และไฟเตท ในผลไม้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค พบว่า ผลไม้มีโพแทสเซียมอยู่ระหว่าง 18 ถึง 325 มิลลิกรัม โดยแก้วมังกรมีปริมาณโพแทสเซียมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณโพแทสเซียมที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน และทองแดง 0 ถึง 0.3 มิลลิกรัม โดยลิ้นจี่ฮงอวยและองุ่นเขียว เป็นแหล่งที่ดีของทองแดง โดยหนึ่งหน่วยบริโภคให้ทองแดงคิดเป็นร้อยละ 10 และ 13 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส่วนปริมาณแร่ธาตุอื่น ๆ ในผลไม้ เมื่อคิดต่อหนึ่งหน่วยบริโภคมีปริมาณน้อย โดยมีโซเดียม 0 ถึง 11 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 2 ถึง 27 มิลลิกรัม แคลเซียม 1 ถึง 21 มิลลิกรัม เหล็ก 0.1 ถึง 0.6 มิลลิกรัม และสังกะสี 0 ถึง 0.3 มิลลิกรัม ส่วนสตรอเบอรี่จัดว่าเป็นแหล่งของโพลีฟีนอลและแทนนิน (397.13 และ 28.49 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) ในขณะที่มะเฟืองเป็นแหล่งของคาเตชิน (12.79 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) ส่วนปริมาณไฟเตทในผลไม้หนึ่งหน่วยบริโภค อยู่ระหว่าง 0.02 ถึง 7.22 มิลลิกรัม โดยผลไม้ที่มีปริมาณไฟเตทต่อหนึ่งหน่วยบริโภคสูงสุด คือ แก้วมังกร และเมื่อคำนวณค่าสัดส่วนโมลาร์ของไฟเตทกับธาตุเหล็กและสังกะสี พบว่าค่าสัดส่วนของ Phy/Fe มีค่าน้อยกว่า 2.06 Phy/Zn มีค่าน้อยกว่า 4.20 และ Ca x phy/Zn มีค่าน้อยกว่า 39
บทคัดย่อ (EN): Phy/Zn.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4183&obj_id=4342
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Fruit
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ คือ การหาปริมาณแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ (โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ทองแดง และสังกะสี) โพลีฟีนอล แทนนิน คาเตชิน และไฟเตท และหาค่าสัดส่วนโมลาร์ของไฟเตทกับเหล็กและสังกะสี รวมถึงคำนวณปริมาณสารอาหารต่อหนึ่งหน่วยบริโภคของผลไม้สดและผลไม้กระป๋องที่นิยมรับประทานในประเทศไทย โดยผลไม้สด 37 ชนิดและ ผลไม้กระป๋อง 4 ชนิดซื้อมาจากตลาดสดและซุปเปอร์มาร์เก็ต 6 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 จากการวิเคราะห์หาปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมด้วยเครื่อง Flame atomic absorption spectrophotometer และปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ทองแดงและสังกะสีด้วยเครื่อง Inductively coupled plasma-optical emission spectrometry (ICP-OES) พบว่า ผลไม้เป็นแหล่งที่ดีของโพแทสเซียม โดยมีปริมาณโพแทสเซียมระหว่าง 28.30 ถึง 405.60 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้โดยผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูง ได้แก่ กล้วยไข่ กล้วยหอม และทุเรียนชะนี ส่วนแร่ธาตุอื่น ๆ ในผลไม้ พบว่ามีอยู่ปริมาณน้อย โดยในผลไม้ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้มีโซเดียม 0.59 ถึง 16.32 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 3.08 ถึง 25.21 มิลลิกรัม แคลเซียม 1.17 ถึง 22.09 มิลลิกรัม เหล็ก 0.08 ถึง 0.33 มิลลิกรัม ทองแดง 0.04 ถึง 0.27 มิลลิกรัม และสังกะสี 0.04 ถึง 0.28 มิลลิกรัม สำหรับปริมาณโพลีฟีนอล แทนนิน และคาเตชินในผลไม้ ซึ่งวิเคราะห์ด้วยเครื่อง Spectrophotometer พบว่ามีปริมาณอยู่ระหว่าง 4.67 ถึง 322.63 ถึง 43.37 และ 0.01 ถึง 21.44 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมส่วนที่บริโภคได้ตามลำดับ ผลไม้ที่มีโพลีฟีนอล แทนนิน และคาเตวินสูง คือ น้อยหน่าหนัง ส่วนการวิเคราะห์หาปริมาณไฟเตทในผลไม้โดยวิธี ion-pair reverse-phase chromatography พบว่ามีค่าระหว่าง 0.01 ถึง 6.02 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ส่วนที่บริโภคได้ และผลไม้ที่มีไฟเตทสูงที่สุด คือ แก้วมังกร เมื่อคำนวณหาปริมาณแร่ธาตุต่าง ๆ โพลีฟีนอล แทนนิน คาเตชิน และไฟเตท ในผลไม้ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค พบว่า ผลไม้มีโพแทสเซียมอยู่ระหว่าง 18 ถึง 325 มิลลิกรัม โดยแก้วมังกรมีปริมาณโพแทสเซียมต่อหนึ่งหน่วยบริโภคมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 9 ของปริมาณโพแทสเซียมที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน และทองแดง 0 ถึง 0.3 มิลลิกรัม โดยลิ้นจี่ฮงอวยและองุ่นเขียว เป็นแหล่งที่ดีของทองแดง โดยหนึ่งหน่วยบริโภคให้ทองแดงคิดเป็นร้อยละ 10 และ 13 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน ส่วนปริมาณแร่ธาตุอื่น ๆ ในผลไม้ เมื่อคิดต่อหนึ่งหน่วยบริโภคมีปริมาณน้อย โดยมีโซเดียม 0 ถึง 11 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 2 ถึง 27 มิลลิกรัม แคลเซียม 1 ถึง 21 มิลลิกรัม เหล็ก 0.1 ถึง 0.6 มิลลิกรัม และสังกะสี 0 ถึง 0.3 มิลลิกรัม ส่วนสตรอเบอรี่จัดว่าเป็นแหล่งของโพลีฟีนอลและแทนนิน (397.13 และ 28.49 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) ในขณะที่มะเฟืองเป็นแหล่งของคาเตชิน (12.79 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค) ส่วนปริมาณไฟเตทในผลไม้หนึ่งหน่วยบริโภค อยู่ระหว่าง 0.02 ถึง 7.22 มิลลิกรัม โดยผลไม้ที่มีปริมาณไฟเตทต่อหนึ่งหน่วยบริโภคสูงสุด คือ แก้วมังกร และเมื่อคำนวณค่าสัดส่วนโมลาร์ของไฟเตทกับธาตุเหล็กและสังกะสี พบว่าค่าสัดส่วนของ Phy/Fe มีค่าน้อยกว่า 2.06 Phy/Zn มีค่าน้อยกว่า 4.20 และ Ca x phy/Zn มีค่าน้อยกว่า 39
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เกลือแร่ชนิดต่างๆ ไฟเตทและแทนนินในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางด้านโภชนาการ
Chaninneat Torsahakul
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
เบต้าคาโรทีน ไลโคปีน วิตามินอี น้ำตาล ใยอาหารชนิดที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำในผลไม้ไทยเพื่อการแนะนำทางโภชนากา การผลิตสารประกอบทุติยภูมิจากการเพาะเลี้ยงรากของหนอนตายหยากชนิดต่างๆ คุณค่าทางโภชนาการในขนมไทยบางชนิด ผลของปุ๋ยอินทรีย์ชนิดต่างๆและแหนแดงต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตอง 1 สมบัติการย่อยในหลอดทดลองของแป้งจากพืชชนิดต่างๆ และการดัดแปรฟลาวร์ข้าวโดยเอนไซม์ การศึกษาการนำธาตุเหล็กชนิดต่างๆที่เสริมลงในบะหมี่สดไปใช้ประโยชน์ได้โดยวิธีการเลียนแบบระบบการย่อยและการดูดซึมในหลอดทดลอง การจำแนกสายพันธุ์และความสามารถให้ผลผลิตของฮ่อมจากแหล่งต่างๆ ในภาคเหนือของประเทศไทย อิทธิพลของสภาวะการแช่ในสารละลายสมุนไพรไทย 4 ชนิด ต่อคุณค่าทางโภชนาการของข้าวกล้องงอก 4 พันธุ์ จลนพลศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสีของเนื้อมะละกอตีป่นที่ผ่านวิธีการให้ความร้อนแบบต่างๆ การแผ่ขยายของคลื่นน้ำแบบไม่เชิงเส้นที่มีความลึกต่างๆ ด้วยการไหลแบบเอกรูป
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก