สืบค้นงานวิจัย
โครงการศึกษาสถานภาพการประมงและสมรรถนะขององค์กรท้องถิ่น เพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณาการ อ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง
อุไรรัฒท์ เนตรหาญ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: โครงการศึกษาสถานภาพการประมงและสมรรถนะขององค์กรท้องถิ่น เพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณาการ อ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง
ชื่อเรื่อง (EN): Research on fishery status and competency local organization for integrated coastal management around Kapor area, Ranong Province
บทคัดย่อ: การศึกษาสถานภาพการประมงและสมรรถนะขององค์กรท้องถิ่น เพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาวะการประมง รูปแบบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อ่าวกะเปอร์ และทัศนคติของชาวประมงต่อการจัดการทรัพยากรประมง ระหว่างเดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ถึงสิงหาคม พ.ศ. 2554 โดยศึกษาชุมชน 13 แห่ง รอบอ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง โดยศึกษาโครงสร้างของชุมชน และรูปแบบการทำประมง สำหรับการศึกษาต้นทุนผลตอบแทนด้านการประมงและเพาะเลี้ยง จำนวน 100 ราย ทัศนคติของชาวประมงต่อการจัดการทรัพยากรประมง การมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรประมง และประเมินสมรรถนะของชุมชนในการจัดการทรัพยากรประมง จำนวน 100 ราย ศึกษาสมรรถนะของผู้นำชุมชนในการจัดการทรัพยากรประมง จำนวน 58 ราย ศึกษาสถานการณ์และปัญหาในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรประมงและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลและอ่าวกะเปอร์ จำนวน 100 ราย จัดประชุมเพื่อวิเคราะห์แนวทางการจัดการทรัพยากรประมง 2 พื้นที่ ผลการศึกษาชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง อาชีพเกษตรกรรม และรับจ้าง สำหรับกลุ่มชาวประมงใช้เครื่องมือ ลอบปูม้า อวนจมปูม้า ลอบปูดำ แร้วปูดำ ลอบหมึก ลอบปลาเก๋า แหทอดกุ้ง ตักแมงกะพรุน คราดหอยตลับและหอยหวาน หาหอยนางรมปากจีบ โพงพางปากเสือ อวนลอยปลา และอวนรุน รวมทั้งการเลี้ยงปูนิ่ม การเลี้ยงปลาในกระชัง ปัญหาส่วนใหญ่ของชาวประมง คือ การพึ่งพิงเงินทุนจากแพปลา และหนี้สินจากกองทุนต่าง ๆ ได้แก่ กองทุนหมู่บ้าน กองทุนประมง มูลนิธิ และธกส. ส่วนใหญ่มีปัญหาด้านการขาดการส่งเสริมจากรัฐ ต้นทุนการทำประมงสูง ผลผลิตสัตว์น้ำลดลง และราคาผลผลิตต่ำ ไม่มีตลาดกลาง ราคาสัตว์น้ำขึ้นอยู่กับคนกลางในพื้นที่ ผลการพัฒนาที่ผ่านมาและการช่วยเหลือจากสึนามิ ยังคงเป็นความแตกแยกที่เกิดขึ้นระหว่างชาวประมงซึ่งได้รับความช่วยเหลือที่ไม่เท่าเทียมกัน รวมทั้งปัญหาแรงงานต่างถิ่นที่เพิ่มจำนวนขึ้นในแต่ละชุมชน การทำประมงของชาวประมงมีรายได้เฉลี่ย 9,875 บาทต่อเดือน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 7,832 บาทต่อเดือน รายได้น้อยที่สุด 1,500 บาทต่อเดือน และรายได้มากที่สุด 50,000 บาทต่อเดือน ราคาสินค้าสัตว์น้ำแตกต่างตามช่วงฤดูกาล การเลี้ยงปูนิ่มในกระชังกลุ่มตัวอย่างส่วนมากได้กำไรมากกว่าร้อยละ 50 การซื้อขายจะเป็นการผูกขาดกับคนกลาง ต้นทุนการเลี้ยงปลาในกระชังส่วนใหญ่ คือ ค่ากระชัง ค่าพันธุ์ปลากะพงขาวบางส่วน สำหรับปลากะรัง กะพงแดงทำประมงลอบลูกปลา ค่าอาหารส่วนใหญ่ใช้เหยื่อจากการทำโพงพางปากเสือ การขายปลาขึ้นกับการหาตลาดของเกษตรกร และผ่านพ่อค้าคนกลาง ปัญหาของการเลี้ยงสัตว์น้ำ คือ น้ำทิ้งจากบ่อกุ้ง และขาดแคลนเหยื่อ ด้านการจัดการทรัพยากรประมง ชาวประมงเห็นว่าผลจับสัตว์น้ำลดลงแต่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ การทำประมงที่ไม่เหมาะสมและสร้างปัญหา คือ อวนรุน การดูแลจัดการทรัพยากรชายฝั่งยังไม่เหมาะสม เนื่องจาก การดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทั่วถึง ไม่มีการจัดการที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งขาดความร่วมมือจากชาวประมงบางกลุ่มที่ลักลอบใช้เครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย เช่น อวนรุน อวนลาก โพงพางปากเสือ และการใช้ยาเบื่อปลา การจับสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น การจับปูดำขนาดเล็กเพื่อนำไปเลี้ยงเป็นปูนิ่ม การทิ้งน้ำจากบ่อกุ้งที่อยู่บริเวณรอบอ่าวกะเปอร์โดยไม่มีการบำบัดซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ชาวประมงมีความสนใจและต้องการรับรู้ข่าวสารด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ขาดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ระดับของการรับรู้ข่าวสารและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของชาวประมงมีความสัมพันธ์กับทัศนคติของชาวประมงต่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณการระดับปานกลาง ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ร้อยละ 45.9 (p = 0.000) การมีส่วนร่วมของชุมชนอยู่ในระดับต่ำกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นการร่วมปลูกป่าชายเลน การวางแผนแลกเปลี่ยนพูดคุยปัญหาการทำประมงเฉพาะกลุ่มชาวประมงเพื่อนบ้านใกล้เคียง เกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างทำประมงตามกฎระเบียบที่กำหนด มาตรการที่กำหนดในการปลูกป่าชายเลน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 67 ได้รับประโยชน์มาก สำหรับการประกาศพื้นที่อนุรักษ์ปู กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62 ได้รับประโยชน์มากและค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าร่วมตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ อบต. และผู้นำชุมชน การประเมินคุณลักษณะของผู้นำ พบว่า ผู้นำควรปรับปรุงตนเองในด้านความกระตือรือร้นในการทำงานด้านประมง ความมุ่งมั่นและความซื่อตรงในการทำหน้าที่ ด้านความรอบรู้ด้านการประมง มุ่งมั่นในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน และการกล้าตัดสินใจรวมทั้งความเสียสละ และนำจุดเด่นของผู้นำด้านความสามารถในการสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนกับชาวประมง สนับสนุนให้ชาวประมงได้ทำงานกลุ่ม การร่วมรับฟังผู้อื่น การรู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์และเป็นอิสระ ดังนั้นในการปรับเปลี่ยนทัศคติของชาวประมงควรกำหนดให้มีกิจกรรมด้านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมตัดสินใจโดยยึดหลักเหตุผลในการตัดส
บทคัดย่อ (EN): The objectives of the research on fishery status and competency of local organization for integrated coastal management around Kapor Bay, Ranong province were to study the status of fishery, utilization of fishery resources, and attitude of fishermen about fishery management. Community structure and fishery were studied in 13 communities around Kapor bay from January 2008 to January 2009. A hundred of fishermen were interviewed about cost-benefit of fishery, capture and culture, and attitude about fishery management. The result showed that main occupations were fishery, agriculture and labor. The fishermen used several fishing gears such as swimming crab trap, swimming crab net, mud crab trap, squid trap, fish trap, shrimp net, jelly fish dip net, mussel dredge, bottom set bag net, gill net, push net, soft mud crab culture, and fish cage culture. Main problems of fishermen were lacking of capital for fishery and having debt from many funding sources such as community capital group, fishery capital group, foundations, and bank of agriculture and agriculture co-operatives, lacking of extension from the government, high cost of fishing, decreasing of fish yield and fish price, lacking of common market and price of fish product was depend on middleman. The inequality support from government in the past for tsunami disaster to the fishermen also created problem of conflict and increasing of alien labors in the communities. Average income from fishery was 9,875 baht/month with 7,832 baht/month of S.D. Minimum and maximum income were 1,500 and 50,000 baht /month, respectively. Price of fish was varied with seasons. More than half of soft mud crab culture fishermen got profit from the culture and trading was done via the middleman. Main costs of fish cage culture were fish cage construction and some were for fish seed. Main feed for caged fish was trash fish from bottom set bag net. Fish product from cage culture was sold at the market and via the middleman. Problems of aquaculture were lacking of trash fish and untreated waste water from shrimp farm. For fishery management, the fishermen thought that fishery resource was still abundant though the yield was decreasing. Push net was illegal fishing gear and still caused some problems. Inappropriate coastal resource management caused by lacking of attendance from government officers, lacking of concrete management, and lacking of cooperation from some fisherman who operated fishing with push net, trawl net, bottom set bag net, and poison fishery. There were also problem of capturing small size of aquatic animal, i.e. small mud crap was captured for soft mud crap culture, increasing of untreated waste water from shrimp farms around the bay, and lacking of news and information exchange between fishermen and governors. The fishermen were interested to get news and information about resources and the environment. The level of news receiving of fishermen had relationship with attitude of fishermen about integrated coastal resource management at moderate level (correlation coefficient 45.9%, p value =0.000). In conclusion, activities of news and information exchange, especially from the governors who had role in supporting and advising the fishermen and community leader, could affect the attitude of the fishermen in understanding the principle of resource management. Besides, the finding from research studies could be used in co-decision making for efficient resource management in Kapor Bay.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: สมรรถนะขององค์กรท้องถิ่น
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการศึกษาสถานภาพการประมงและสมรรถนะขององค์กรท้องถิ่น เพื่อการจัดการทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณาการ อ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2553
แผนวิจัยการพัฒนาสมรรถนะขององค์กรท้องถิ่นเพื่อการจัดการ ทรัพยากรชายฝั่งแบบบูรณาการพื้นที่อ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง ระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรผู้ปลูกยางพารารายย่อย ด้วยการจัดการแบบบูรณาการในระบบเกษตรผสมผสานในจังหวัดน่าน การบูรณาการองค์ความรู้ด้านทรัพยากรทางน้ำเพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านการประมงในพื้นที่โครงการลุ่มน้ำก่ำที่มีชีวิต โครงการศึกษาสถานภาพสิ่งแวดล้อมทางน้ำบริเวณอ่าวกะเปอร์ จังหวัดระนอง การประเมินสถานภาพทรัพยากรประมง เศรษฐกิจสังคมและการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรประมงแบบมีส่วนร่วมในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยา (เปลี่ยนชื่อโครงการเป็น ชุดโครงการระบบนิเวศ ทรัพยากรประมง แล ศึกษาบทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการทรัพยากรประมงในบึงบอระเพ็ด บทบาทของชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อการจัดการทรัพยากรประมงในคลองอู่ตะเภา จังหวัดสงขลา สถานภาพการจัดการทรัพยากรประมงแบบมีส่วนร่วมในแม่น้ำน่าน การศึกษาอนุกรมวิธานของปลาน้ำจืดในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ภาคใต้ของประเทศไทย บทบาทของชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการประมงที่ส่งผลต่อ ประสิทธิภาพการใช้มาตรการในการจัดการทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำ เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก