สืบค้นงานวิจัย
ผลของการทำประมงด้วยลอบยืน และข่ายต่อปลาชนิดเด่นในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง
ร่วมฤดี พานจันทร์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: ผลของการทำประมงด้วยลอบยืน และข่ายต่อปลาชนิดเด่นในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of bamboo trap and gillnet fisheries to dominant fish in the Lower Songkhram basin.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ร่วมฤดี พานจันทร์
บทคัดย่อ: ศึกษาผลของการทำประมงด้วยลอบยืน และข่ายต่อปลาชนิดเด่นในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง ดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2554- กรกฎาคม 2555 เก็บตัวอย่างปลาจากจำนวน 3 สถานี ในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง โดยใช้ข่าย และลอบยืนขนาดช่องตา 35-55 มิลลิเมตร พบชนิดปลาที่จับได้ด้วยข่ายจำนวน 16 วงศ์ 34 สกุล 42 ชนิด จากลอบยืน 19 วงศ์ 54 สกุล 74 ชนิด พบปลา ปลาสร้อยเกล็ดถี่ (Thynnichthys thynnoides) ปลาซ่า (Labiobarbus leptocheilus) ปลาตะเพียนทอง (Barbonymus altus) ปลาสร้อยขาว (Henicorhynchus siamensis) ปลาสร้อยนกเขา (Osteochilus hasselti) เป็นปลาชนิดเด่นที่ถูกจับได้ด้วยข่าย พบปลา ปลากระมังครีบสูง (Puntioplites falcifer) ปลาเนื้ออ่อน (Micronema bleekeri) เพี้ย (Morulius chrysophekadian) ปลาโจกเขียว (Cosmocheilus harmandi) และ ปลาตะเพียนทอง (Barbodes altus) เป็นปลาชนิดเด่นถูกจับได้ด้วยลอบยืน เมื่อพิจารณาค่าความยาวที่เหมาะสมของปลาที่ถูกจับจากข่าย และลอบยืน แต่ละขนาดช่องตา และขนาดเริ่มสืบพันธุ์วางไข่ของปลาที่เป็นชนิดเด่น พบว่าช่องตาขนาด 35 มิลลิเมตร เป็นขนาดช่องตาที่เล็กที่สุดที่เหมาะสมสำหรับการทำประมงด้วยลอบยืน และข่ายในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง เพื่อเปิดโอกาสให้สัตว์น้ำเจริญเติบโตถึงขนาดแรกเริ่มสืบพันธุ์ได้ และได้แพร่พันธุ์อย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนที่จะถูกจับไปใช้ประโยชน์
บทคัดย่อ (EN): The study of effect of bamboo traps and gillnets fisheries to dominant fish in the lower Songkhram basin were investigated during February 20011 – July 2012 using gillnets and vertical traps with mesh sizes of 35-55 mm. There were three sampling stations along the Songkhram river. The result showed that 42 fish species were found within 34 genera 16 families from gillnets and 74 fish species within 54 genera 19 families from vertical trap. The dominant species from gillnets were Thynnichthys thynnoides, Labiobarbus leptocheilus, Barbonymus altus, Henicorhynchus siamensis and Osteochilus hasselti. In addition, Puntioplites falcifer, Micronema bleekeri, Morulius chrysophekadian, Cosmocheilus harmandi, and Barbodes altus were the dominant species from vertical trap. Then, studied the optimum length of dominant fish species in each mesh size compare with the length at first maturity were found the appropriate minimum mesh size of gillnet and vertical trap was recommended at 35 mm which fishes have the opportunity to reach the length at first maturity and reproductive at least once before being catch to exploited.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: องค์ประกอบผลจับ
คำสำคัญ (EN): Lower Songkram Basin
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการทำประมงด้วยลอบยืน และข่ายต่อปลาชนิดเด่นในลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2555
เครื่องมือของพรานปลาในแม่นํ้าสงครามตอนล่าง บ้านปากยามและบ้านตาลปากนํ้า จังหวัดนครพนม รูปแบบการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การศึกษาโรคไวรัส 5 ชนิด ในฟาร์มเลี้ยงกู้งทะเลที่มีการจัดการที่ต่างกัน 2 ระบบ ผลของสารสกัดหยาบจากข่าต่อการงอกและการเจริญเติบโต ของพืชปลูกและวัชพืชบางชนิด การศึกษาชนิดและการกระจายพันธุ์ของพรรณไม้น้ำ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย แนวทางการจัดการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ ของทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืนในแม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่ แนวทางการจัดการแบบมีส่วนร่วมเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพของทรัพยากรประมงอย่างยั่งยืนในแม่น้ำปิงจังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาระบบโลจิสติกส์และศูนย์กระจายสินค้าประมงเชื่อมโยงภาคเหนือตอนล่างกับประเทศเพื่อนบ้าน ศักยภาพของชุมชนตำบลแม่ทาในการจัดการทรัพยากรเกษตรที่ระดับลุ่มน้ำ ความจำเพาะของปรสิตจากปลากะรังสกุล Epinephelus spp. จากอ่าวไทยตอนล่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก