สืบค้นงานวิจัย
การสกัดคอนเด็นส์แทนนินเพื่อศึกษาคุณสมบัติทางชีวภาพ ขนาดโมเลกุลและโครงสร้างทางเคมี
โอภาส พิมพา - มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ชื่อเรื่อง: การสกัดคอนเด็นส์แทนนินเพื่อศึกษาคุณสมบัติทางชีวภาพ ขนาดโมเลกุลและโครงสร้างทางเคมี
ชื่อเรื่อง (EN): Purification of Condensed Tannins for the Study of Biological Activity Molecular Size and Chemical Structure
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ การศึกษาวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ประการแรกเพื่อศึกษาคุณลักษณะคอนเด็นส์แทนนินของกระถิน กระถินเทพาและทางปาล์มน้ำมันที่มีผลต่อศักยภาพการผลิตแก๊ส และการย่อยได้ในหลอดทดลอง วัตถุประสงค์ประการที่สอง เพื่อเปรียบเทียบวิธีการการอบแห้งที่แตกต่างกันต่อคุณลักษณะของคอนเด็นส์แทนนินโดยวัดค่าศักยภาพการผลิตแก๊สและการย่อยได้ในหลอดทดลอง ส่วนวัตถุประสงค์ประการสุดท้ายเพื่อศึกษาความ สามารถในการจับโปรตีนและขนาดโมเลกุลของคอนเด็นส์แทนนินส์ที่สกัดจากพืชตัวอย่าง จากผลการทดลองที่ 1 เกี่ยวกับข้อมูลจากพืชตัวอย่างจำนวน 15 ชนิด พบว่าปริมาณโปรตีนหยาบพบมากที่สุดในตัวอย่างกระถินและพบน้อยที่สุดในทางปาล์มน้ำมัน เท่ากับ 21.1 และ 4.3 กรัมต่อ 100 กรัม DM ตามลำดับ ปริมาณคอนเด็นส์แทนนินพบมากที่สุดในตัวอย่างยอดของสะเดา ตามด้วย กระโดนและกระถินณรงค์ มีค่าเท่ากับ 15.5 14.3 และ 13.1 กรัมต่อ 100 กรัม DM ตามลำดับ ศักยภาพการผลิตแก๊ส (potential gas production) ของตัวอย่างทางปาล์มน้ำมัน (19.8 มิลลิลิตรต่อกรัม DM) มีค่าน้อยกว่ากระถิน (26.4 มล. ต่อกรัม DM) และกระถินเทพา (28.7 มิลลิลิตรต่อกรัม DM) หลังการบ่มแช่ในหลอดทดลอง 24 ชั่วโมง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p0.05) ต่อค่าเฉลี่ยแอมโมเนียไนโตรเจนและกรดไขมันสายสั้น ของตัวอย่างกระถิน กระถินเทพาและทางปาล์มน้ำมัน จากการศึกษานี้พอจะกล่าวได้ว่าสำหรับการวิเคราะห์และการสกัดคอนเด็นส์แทนนิน ในกรณีที่ไม่มีเครื่องอบแห้งฟริซดราย ผู้วิจัยสามารถประยุกต์ใช้การอบแห้งแบบตู้อบที่อุณหภูมิไม่เกิน 50 องศาเซลเซียสได้ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในส่วนสุดท้าย พบว่าค่าเฉลี่ยปริมาณโปรตีนที่จับกับพีนอลิกส์ของกระถิน (0.151) มีค่าสูงกว่ากระถินเทพา (0.178) และทางปาล์มน้ำมัน (0.076 มก.ต่อ มก. DM) ตามลำดับ คอนเด็นส์แทนนินที่สกัดได้จากกระถินมีความสามารถในการจับโปรตีนได้สูงที่สุด กล่าวคือเพื่อที่จะจับโปรตีน BSA ให้ได้ 10 ส่วน ต้องใช้คอนเด็นส์แทนนินจากกระถิน คิวแบรกโคแทนนิน กระถินเทพาและทางปาล์มน้ำมัน เท่ากับ 7.7 8.9 9.7 และ 13.6 ส่วนตามลำดับ ในการศึกษาขนาดโมเลกุลของคอนเด็นส์แทนนิน พบว่ามีโมเลกุลขนาดที่แตกต่างกันระหว่าง 3-5 ขนาด ผสมรวมอยู่ด้วยกันในคอนเด็นส์แทนนินของพืชตัวอย่างหนึ่งชนิด ดังนั้นจึงพอสันนิฐานได้ว่าทางปาล์มน้ำมันมีโมเลกุลของคอนเด็นส์แทนนินขนาดใหญ่อยู่มากที่สุด ในขณะที่กระถินมีโมเลกุลของคอนเด็นส์แทนนินขนาดเล็ก กลาง และใหญ่กระจายอยู่ทั่วไป ส่วนกระถินเทพามีโมเลกุลคอนเด็นส์แทนนินขนาดกลางอยู่มากที่สุด
บทคัดย่อ (EN): The objectives of this experiment were carried out to (i) determine effects of existed condensed tannin (CT) in Leucaena leucocephala (LL), Acacia mangium Willd (AM) and oil palm frond (OPF) on potential gas production and in vitro degradability (ii) comparing various drying methods on the CT characteristics and (iii) determine the protein-tannins binding affinity and evaluate the size of CT molecule purified from the above three tested plants. The result in the first experiment showed that among the 15 plant samples, the amounts of crude protein were highest in LL (21.1), and the lowest value obtained in OPF (4.3 g 100 g-1 DM). The levels of CT were observed highest in Azadirachta indica (15.5) followed by Barringtonia acutangula (14.3) and Acacia auriculiformis (13.1 g 100 g-1 DM) respectively. Potential in vitro gas production of OPF (19.8) was significantly (p0.05) on the contents of ammonia nitrogen and short chain fatty acids. Based on the current result, it can be suggested that OD50 is applicable method where freeze drier not available for the analysis of CT concentration and its purification propose. The result in the last experiment showed that protein-phenolics precipitation (PPP) as purified from LL (0.151) had bond stronger than that of AA (0.178) and OPF (0.076 mg 100 mg-1 DM) respectively. Of the tested plant, Leucaena-condensed tannins (LL-CT) had the highest binding affinity to protein. As for to bind 10 g bovine serum albumin (BSA) protein, it required 7.7, 8.9, 9.7 and 13.6 g of CT obtained from LL, quebracho, AA and OPF respectively. The result in CT size of molecular showed that there were 3-5 differences of molecular size mixed in single tested plant. This can be assumed that molecular size of OPF-CT contained the larger size, whilst the most of smallest size was found in AM-CT. LL-CT was demonstrated more diverse size of molecular.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คำสำคัญ: โครงสร้างทางเคมี
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การสกัดคอนเด็นส์แทนนินเพื่อศึกษาคุณสมบัติทางชีวภาพ ขนาดโมเลกุลและโครงสร้างทางเคมี
โอภาส พิมพา
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
30 ธันวาคม 2551
การศึกษาคุณลักษณะคอนเด็นส์แทนนินจากกระถิน กระถินเทพาและทางปาล์มน้ำมันต่อศักยภาพการผลิตแก๊ส การย่อยได้ คุณสมบัติการจับโปรตีน และขนาดโมเลกุล สมบัติทางฟิสิกส์ เคมี และเคมีเชิงฟิสิกส์ของแป้งลูกเดือย ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โครงสร้างและการแพร่กระจายของประชาคมปลา ในแม่น้ำน่าน การศึกษาน้ำยางพาราในระดับโมเลกุล สำหรับไบโอเทคศักยภาพสูง แคโรทีนอยด์: ความสัมพันธ์ของโครงสร้างทางเคมีกับฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ รายงานความก้าวหน้าการสำรวจขนาดของรังไหมที่ใช้ในการผลิตเส้นไหมพุ่ง รายงานความก้าวหน้าการสำรวจขนาดของรังไหมที่ใช้ในการผลิตเส้นไหมยืน ผลของไคโตซานต่อระดับของโมเลกุลส่งสัญญาณ (SA; JA และ ABA) และการแสดงออกของ marker genes ในระบบป้องกันตนเองของยางพารา ศึกษาคุณสมบัติทางเคมีกายภาพและฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดยางพาราด้วยวิธีการสกัดที่แตกต่างกัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก