สืบค้นงานวิจัย
การตรวจนับปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียน
ว่าที่ร้อยตรีนันทภพ ชลเขตต์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การตรวจนับปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียน
ชื่อเรื่อง (EN): Counting numbers of Phytophthora palmivora in the compost for evaluate the root rot stem rot disease of durian
บทคัดย่อ: จากการศึกษาการตรวจนับปริมาณเชื้อไฟทอปธอร่าในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียน ดำเนินการที่สถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี พ.ศ. 2557 วางแผนการทดลองแบบ randomized complete block design มี 3 ซ้ำ 4 ตำรับการทดลอง ประกอบด้วยตำรับที่ 1 เปลือกทุเรียนอย่างเดียว ตำรับที่ 2 เปลือกทุเรียนร่วมกับเชื้อราไฟทอปธอร่า ตำรับที่ 3 เปลือกทุเรียนร่วมกับเชื้อราไฟทอปธอร่าและโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ ตำรับที่ 4 เปลือกทุเรียนร่วมกับเชื้อราไฟทอปธอร่า และโดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์และไตรโคเดอร์มา ผลการทดลองพบว่าปริมาณเชื้อไฟทอปธอร่าในปุ๋ยหมัก มีความแตกต่างกันทางสถิติ หลังจากหมักปุ๋ยเปลือกทุเรียนที่ระยะเวลา 30 และ 60 วัน ของตำรับที่ใส่โดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับ ราไตรโคเดอร์มา มีผลต่อปริมาณเชื้อราไฟทอปธอร่าลดลงเหลือน้อยที่สุดจาก 0.83 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะเวลา 30 วัน เป็น 0.33 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะเวลา 60 วัน มีปริมาณราไตรโคเดอร์มาจำนวนเพิ่มขึ้นมากที่สุดจาก 5.60 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะเวลา 30 วัน เป็น 6.17 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะ 60 วัน และมีปริมาณแบคทีเรียทั้งหมดเพิ่มขึ้นมากที่สุดจาก 11.07 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะเวลา 30 วัน เป็น 11.63 log no. /กรัมวัสดุ ที่ระยะเวลา 60 วัน ส่วนน้ำหมักชีวภาพในของปุ๋ยหมักเปลือกทุเรียนที่ระยะเวลา 60 วัน ของตำรับที่ใส่โดโลไมท์ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่พบปริมาณเชื้อราไฟทอปธอร่า พบปริมาณราไตรโคเดอร์มาในน้ำหมักชีวภาพของปุ๋ยหมักมากที่สุด 4.87 log no. / กรัมวัสดุ และมีปริมาณแบคทีเรียทั้งหมดมากที่สุดจาก 8.83 log no. /กรัมวัสดุ ของน้ำหมักชีวภาพ ส่วนมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของปุ๋ยหมักมีความแตกต่างกันทางสถิติ ตั้งแต่ระยะเวลาเริ่มต้นหมักถึงระยะเวลา 15 วัน มีอุณหภูมิสูงขึ้นและอุณหภูมิลดลงจนถึงที่ระยะเวลา 60 วัน อุณหภูมิของตำรับที่ใส่เชื้อไฟทอปธอร่าและโดโลไมท์มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูงที่สุด 37.00 องศาเซลเซียส ที่ระยะเวลาเริ่มต้นหมักปุ๋ย และอุณหภูมิต่ำที่สุด 30.45 องศาเซลเซียส ที่ระยะเวลา 60 วัน ส่วนปุ๋ยหมักของตำรับที่หมักจากทุเรียนอย่างเดียว มีอุณหภูมิสูงที่สุด 43.22 องศาเซลเซียส ที่ระยะเวลา 15 วัน ค่า pH ของปุ๋ยหมักเพิ่มขึ้นสูงสุดจาก 8.2 ที่ระยะเวลา 30 วัน เป็น 9.74 ที่ระยะเวลา 60 วัน มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณแมกนีเซียมเพิ่มขึ้นสูงที่สุดจาก 0.79 เปอร์เซ็นต์ ที่ระยะเวลา 30 วัน เป็น 5.73 เปอร์เซ็นต์ ที่ระยะเวลา 60 วัน และมีการเปลี่ยนแปลงปริมาณกรดฮิวมิกสูงที่สุด 0.70 เปอร์เซ็นต์ ที่ระยะเวลา 30 วัน
บทคัดย่อ (EN): Study on Phytopthora palmivora population in durian peel compost to assess the root and stem rot disease in durian was conduct at Chantaburi Land Development Station, Na yai arm sub-district,Na yai arm district, Chantaburi province. 3 replications 4 Treatments, were set; T1 Durian,s peel , T2 Durian,s peel with Phytopthora palmivora, T3 Durian,s peel with Phytopthora palmivora plus 2% of dolomite limestone and T4 Durian,s peel with Phytopthora palmivora plus 2% of dolomite limestone including with Trichoderma virens.The result shown that Phytopthora palmivora population in compost were significantly differences at 30 and 60 days after composting. 2% dolomite and Trichoderma virens was reduce to the minimum from 0.83 log no./grammaterial at 30 days to 0.33 log no./grammaterial at 60 days. Trichoderma virens population maximum increase from 5.60 log no./grammaterial at 30 days to 6.17 log no./grammaterial at 60 days and total bacteria maximum increase from 11.07 log no./grammaterial at 30 days to 11.63 log no./grammaterial 60 days. Durian,s peel bio-extract at 60 days, T3 (2% dolomite) Phytopthora palmivora was not detected and population was maximum Trichoderma viren 4.87 log no./grammaterial, total bacteria 8.83 log no./grammaterial. Difference in compost temperature were significantly. From initial up to 15 days, the temperature was increased and reduced to 60 days. The temperature of the Phytopthora palmivora and dolomite treatment had the maximum temperature change of 37 oC (at the initial) the lowest temperature was 30.45 oC (60 days). T1 Durian,s peel, the maximum temperature was 43.22 oC at 15 days, pH of compost increased from 8.2 at 30 days to 9.74 at 60 days. The magnesium content increased from 0.79% at 30 days to 5.73% at 60 days and highest humic acid content was 0.7% at 30 days.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: เชื้อราไตรโคเดอร์มา
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ว่าที่ร้อยตรีนันทภพ ชลเขตต์. "การตรวจนับปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนCounting numbers of Phytophthora palmivora in the compost for evaluate the root rot stem rot disease of durian". กรมพัฒนาที่ดิน. 2557

ว่าที่ร้อยตรีนันทภพ ชลเขตต์. "การตรวจนับปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียนCounting numbers of Phytophthora palmivora in the compost for evaluate the root rot stem rot disease of durian". กรมพัฒนาที่ดิน. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การตรวจนับปริมาณเชื้อราไฟทอปธอราในปุ๋ยหมัก เพื่อประเมินการเกิดโรครากเน่าโคนเน่าของทุเรียน
ว่าที่ร้อยตรีนันทภพ ชลเขตต์
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2557
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่า-โคนเน่าในส้มโอของเกษตรกรจังหวัดสมุทรสงคราม ปี 2546 ราที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมการย่อยสลายแป้งและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจากระบบนิเวศวิทยาป่าอุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยอมรับการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่า-โคนเน่าในส้มโอของเกษตรกรจังหวัดสมุทรสงคราม ปี 2546 ผลของจุลินทรีย์ พด.11 สำหรับปอเทือง ปุ๋ยหมัก และเชื้อควบคุมสาเหตุโรครากเน่าโคนเน่า (ซุปเปอร์ พด.3) ต่อผลผลิตและคุณภาพในการเก็บรักษาของหอมแดง (กลุ่มชุดดินที่ 6) ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่า-โคนเน่าทุเรียนในภาคใต้ ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้เชื้อราไตรโคเดอร์มาควบคุมโรครากเน่า-โคนเน่า ทุเรียนในภาคตะวันออก ประสิทธิภาพของปุ๋ยหมักที่ขยายเชื้อไตรโคเดอร์มา ต่อการควบคุมเชื้อสาเหตุโรคโคนเน่าของมะละกอที่ปลูกในพื้นที่ดินร่วนปนทราย กลุ่มชุดดินที่ 35 การวิจัยและพัฒนาเครื่องมือทดสอบการวัดความแก่อ่อนของทุเรียนแบบไม่ทำลาย การสร้างเครือข่ายและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ผลิตทุเรียนนอกฤดูกาล ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ความแตกต่างทางพันธุกรรมและการระบุเครื่องหมายโมเลกุลของความต้านทานโรคโคนเน่าของแก่นตะวัน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair