สืบค้นงานวิจัย
สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
บุญเลิศ จันทรุญ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บุญเลิศ จันทรุญ
บทคัดย่อ: การศึกษาสภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในอำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม วัตถุประสงค์ เพื่อ 1)ศึกษาข้อมูลพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจบางประการของเกษตรกร 2) ศึกษาสภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และ 3) ปัญหาอุปสรรคของเกษตรกรกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา จำนวน 90 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมส่วนใหญ่เป็นหญิง มีอายุเฉลี่ย 55.0 ปี ส่วนใหญ่ จบระดับประถมศึกษา มีสถานภาพแต่งงานอยู่กับคู่ครอง สมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ย 4 คน แรงงานในครัวเรือนเฉลี่ย 3 คน ส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกกลุ่มที่มีกิจกรรมทางการเกษตร เกษตรกรมีอาชีพหลักทำนา อาชีพรองปลูกหม่อนเลี้ยงไหม พื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 21.5 ไร่/ราย เกือบทั้งหมดมีที่ดินเป็นของตนเอง มีรายได้ในภาคการเกษตรเฉลี่ย 39,627.8 บาท/ครัวเรือน/ปี รายได้นอกภาคเกษตรเฉลี่ย 42,055.6 บาท/ครัวเรือน/ปี เกษตรกรส่วนใหญ่กู้เงินจาก ธ.ก.ส. เกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นเวลาเฉลี่ย 11 ปี ได้รับความรู้การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร พื้นที่ปลูกหม่อนโดยเฉลี่ย 0.69 ไร่/ครัวเรือน และส่วนใหญ่จะเป็น ที่ส่วนตัว ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนเหนียว อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก พันธุ์หม่อนที่ใช้ปลูกใช้พันธุ์ บุรีรัมย์ 60 โดยแหล่งพันธุ์ส่วนใหญ่ ได้มาจากเพื่อนบ้านเป็นหลัก ใช้ระยะปลูก 1.5 x 0.75 เมตร มีการใช้ปุ๋ยในแปลงหม่อนโดยใช้ปุยคอกเฉลี่ย 604.8 กิโลกรัม/ไร่ ใช้ปุ๋ยเคมีเฉลี่ย 39.0 กิโลกรัม/ไร่ มีการตัดแต่งกิ่งหม่อนปีละ 1 ครั้ง โดยการตัดต่ำ ส่วนใหญ่มีการกำจัดวัชพืชในแปลงหม่อนโดยใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลัก เลี้ยงไหมเฉลี่ย 6.4 รุ่น/ปี เฉลี่ยรุ่นละ 1 แผ่น โดยเลี้ยงจากไหมวัยอ่อนจนเก็บผลผลิต รูปแบบห้องเลี้ยงไหมส่วนใหญ่ใช้มุ้ง ส่วนใหญ่จะทำความสะอาดห้องเลี้ยงไหมและอุปกรณ์การเลี้ยงโดยล้างน้ำผงซักฟอก แล้วตากแดด เกษตรกรประมาณครึ่งหนึ่งไม่ใช้สารโรยตัวไหม พันธุ์ไหมที่ใช้เลี้ยงมากที่สุดคือพันธุ์พื้นเมือง เพราะเกษตรกรเห็นว่าเลี้ยงง่ายไม่ค่อยมีโรค โดยเกษตรกรจะเก็บพันธุ์ไว้เอง รายได้เป็นเงินสดจากการเลี้ยงไหมเฉลี่ย 9,471.4 บาท/ครัวเรือน/ปี ผลผลิตรังไหมที่ได้เกษตรกรจะนำไปสาวเส้นไหมทุกครัวเรือน ปัญหาอุปสรรคในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่เป็นปัญหาระดับมาก ได้แก่ ขาดการทำความสะอาดอบฆ่าเชื้อโรคโรงเลี้ยงไหม ขาดวัสดุอุปกรณ์ ปริมาณใบหม่อนไม่เพียงพอ และพื้นที่ปลูกหม่อนมีจำนวนจำกัด ข้อเสนอแนะ ควรฝึกอบรมเกษตรกรเรื่องการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในเชิงธุรกิจ ส่งเสริมให้กลุ่มผู้เลี้ยงไหมระดมทุนภายในกลุ่ม ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนโรงเลี้ยงไหม วัสดุอุปกรณ์การเลี้ยงไหม สารเคมีป้องกันกำจัดโรคไหม และเงินทุนเพื่อหมุนเวียนภายในกลุ่ม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: หม่อนไหม
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม
กรมส่งเสริมการเกษตร
2548
สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรตำบลแคน อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรตำบลวังไชย อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม สภาพการผลิตและความต้องการรับการส่งเสริมด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร ตำบลแจนแวน กิ่งอ.ศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร จังหวัดชุมพร สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและความต้องการการส่งเสริม ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ที่ดำเนินโครงการแปลงใหญ่หม่อนไหม กรณีศึกษาจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดน่าน และจังหวัดอุดรธานี การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรอำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรอำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก