สืบค้นงานวิจัย
แนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรผู้ปลูกพริกโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านดงยาง ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ภูริภัทร บรรจง - มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
ชื่อเรื่อง: แนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรผู้ปลูกพริกโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านดงยาง ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ภูริภัทร บรรจง
บทคัดย่อ: ปัจจุบันสารเคมีทางการเกษตรได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งการผลิตเคมีภัณฑ์ต่างๆ มุ่งเน้นประโยชน์ทางการเกษตรที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลายชนิดและยี่ห้อที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด ล้วนแต่ไม่มีการควบคุมการจำหน่ายและไม่มีมาตรการการควบคุมปริมาณการใช้สารเคมีอย่างจริงจัง หรือไม่ก็เป็นเพียงการตรวจสอบปริมาณสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างในผลผลิต และการห้ามการนำเข้ามาจำหน่ายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเป็นพิษหรืออันตรายต่อผู้ใช้สูงเท่านั้น เกษตรกรจึงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากมีโอกาสสัมผัสสารเคมีเหล่านี้เป็นประจำ แม้ว่าเกษตรกรบางส่วนจะมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมี แต่ผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรนั้นยังไม่แสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจน และต้องใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการความเจ็บป่วยและโรคภัยไข้เจ็บ จึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ละเลย การป้องกันอันตรายดังกล่าวได้ คณะผู้วิจัยจึงทำการวิจัยแนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรผู้ปลูกพริกโดยการมีส่วนร่วม บ้านดงยาง ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในสถานการณ์ปัญหาสุขภาพของชุมชนที่เกิดจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเพื่อพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นงานวิจัยและพัฒนา ที่ผสมผสานวิธีวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ผลที่ได้จากการวิจัยคือ แนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรแบบมีส่วนร่วมที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ชุมชนบ้านดงยาง ช่วยให้เกษตรกรปลอดภัยอันเป็นพลังขับเคลื่อนชุมชนด้วยการปรึกษาหารือ (Dialogue) และการจัดเวทีประชาคม เสมือนเป็นห้องปฏิบัติการโดยใช้ศักยภาพชุมชน โดยใช้แนวคิดการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นแบบมีส่วนร่วม และการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion) ให้กับชาวบ้าน ซึ่งมีบทบาทเป็นทั้งผู้กำหนดกิจกรรม เป็นผู้ดำเนินการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีตามแนวทางที่กำหนด การเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพด้วยตนเอง ตลอดทั้งเกิดคลินิกและชมรม หลังการเสร็จสิ้นการวิจัยนี้ทำให้เกิดการต่อยอดคลินิกเกษตรกรปลอดภัยโดยบุคลากรในสถานีอนามัยบ้านดงยาง เพื่อช่วยในการป้องกันและควบคุมการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรและดูแลสุขภาพเกษตรกร จนสามารถเป็นต้นแบบและขยายผลในพื้นที่ที่ปลูกพริกเกือบ 30 แห่งในจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ระหว่างกระบวนการวิจัยได้สร้างนักวิจัยใหม่ ได้แก่ นักศึกษา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ อีกทั้งยังสร้างพหุภาคีระหว่างทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และองค์การบริหารส่วนตำบลก่อเอ้ที่ร่วมพัฒนาสุขภาพอนามัยชุมชนด้วยกระบวนการวิจัย Nowadays agricultures agricultural chemicals were used widely. Each of them provides different effect on agriculture especially various pesticides which are sold widely without control and limitation. Some test on pesticides residue and forbid in import of dangerous chemical were available, therefore, agriculturists were risk because the touch of the chemical. Some of the agriculturists realized on the danger to the pesticides but the effects of health taking a long time to be noticeable. Most of the agriculturist ignored the danger of the chemical. Therefore, the research on finding the way to reduce the pesticide residue inflect in blood for the chili agriculturists of Ban dongyang, KohAe subdistrict Khuangnai Ubon Ratchathani province. The objective of the study was to contribute cooperative learning in health problem in the community causing by the pesticide residue and to solve the problem of pesticide residue in blood of agriculturists. This is a research and development which integrate both quality and quantity research using (PAR) Participatory Action Research. The findings were guidelines in reducing of the pesticide residue by using PAR in Dong Yang village and Focus Group Discussion with villagers which were the indicators and protectors form those chemical as assigned. The surveillance in touching agricultural chemicals and assessment affect on health including contribution of clinic and safety agriculturist club. The motivation of the community by consulting and dialoging worked as a community lab. After the research the community continues the clinic of safely agriculture by hearth station of Ban Dongyang to prevent and control the touch of the chemicals and take care the agriculturists and could be a model expanding to 30 places in Ubon Ratchathani province. Besides the research can contribute new researcher such as students, villagers, government offices in the local and also conducted the network between researcher team from Ubon Ratchathani Rachabhat University and provincial agriculture organization. Public Health Organization and subdistrict Administrative organization to develop the public health by researching methodology.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.ubru.ac.th/Research/Aonanong_2553/title.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
คำสำคัญ: เกษตรกร630
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
รายละเอียด: ปัจจุบันสารเคมีทางการเกษตรได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งการผลิตเคมีภัณฑ์ต่างๆ มุ่งเน้นประโยชน์ทางการเกษตรที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมีกำจัดศัตรูพืชหลายชนิดและยี่ห้อที่จำหน่ายทั่วไปในท้องตลาด ล้วนแต่ไม่มีการควบคุมการจำหน่ายและไม่มีมาตรการการควบคุมปริมาณการใช้สารเคมีอย่างจริงจัง หรือไม่ก็เป็นเพียงการตรวจสอบปริมาณสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ตกค้างในผลผลิต และการห้ามการนำเข้ามาจำหน่ายสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเป็นพิษหรืออันตรายต่อผู้ใช้สูงเท่านั้น เกษตรกรจึงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากมีโอกาสสัมผัสสารเคมีเหล่านี้เป็นประจำ แม้ว่าเกษตรกรบางส่วนจะมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับอันตรายของสารเคมี แต่ผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรนั้นยังไม่แสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจน และต้องใช้เวลานานกว่าจะปรากฏอาการความเจ็บป่วยและโรคภัยไข้เจ็บ จึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ละเลย การป้องกันอันตรายดังกล่าวได้ คณะผู้วิจัยจึงทำการวิจัยแนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรผู้ปลูกพริกโดยการมีส่วนร่วม บ้านดงยาง ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในสถานการณ์ปัญหาสุขภาพของชุมชนที่เกิดจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และเพื่อพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรแบบมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นงานวิจัยและพัฒนา ที่ผสมผสานวิธีวิจัยทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นใช้เทคนิคการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (PAR) ผลที่ได้จากการวิจัยคือ แนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรแบบมีส่วนร่วมที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ชุมชนบ้านดงยาง ช่วยให้เกษตรกรปลอดภัยอันเป็นพลังขับเคลื่อนชุมชนด้วยการปรึกษาหารือ (Dialogue) และการจัดเวทีประชาคม เสมือนเป็นห้องปฏิบัติการโดยใช้ศักยภาพชุมชน โดยใช้แนวคิดการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็นแบบมีส่วนร่วม และการสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion) ให้กับชาวบ้าน ซึ่งมีบทบาทเป็นทั้งผู้กำหนดกิจกรรม เป็นผู้ดำเนินการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีตามแนวทางที่กำหนด การเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพด้วยตนเอง ตลอดทั้งเกิดคลินิกและชมรม หลังการเสร็จสิ้นการวิจัยนี้ทำให้เกิดการต่อยอดคลินิกเกษตรกรปลอดภัยโดยบุคลากรในสถานีอนามัยบ้านดงยาง เพื่อช่วยในการป้องกันและควบคุมการสัมผัสสารเคมีทางการเกษตรและดูแลสุขภาพเกษตรกร จนสามารถเป็นต้นแบบและขยายผลในพื้นที่ที่ปลูกพริกเกือบ 30 แห่งในจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ระหว่างกระบวนการวิจัยได้สร้างนักวิจัยใหม่ ได้แก่ นักศึกษา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ อีกทั้งยังสร้างพหุภาคีระหว่างทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี และองค์การบริหารส่วนตำบลก่อเอ้ที่ร่วมพัฒนาสุขภาพอนามัยชุมชนด้วยกระบวนการวิจัย Nowadays agricultures agricultural chemicals were used widely. Each of them provides different effect on agriculture especially various pesticides which are sold widely without control and limitation. Some test on pesticides residue and forbid in import of dangerous chemical were available, therefore, agriculturists were risk because the touch of the chemical. Some of the agriculturists realized on the danger to the pesticides but the effects of health taking a long time to be noticeable. Most of the agriculturist ignored the danger of the chemical. Therefore, the research on finding the way to reduce the pesticide residue inflect in blood for the chili agriculturists of Ban dongyang, KohAe subdistrict Khuangnai Ubon Ratchathani province. The objective of the study was to contribute cooperative learning in health problem in the community causing by the pesticide residue and to solve the problem of pesticide residue in blood of agriculturists. This is a research and development which integrate both quality and quantity research using (PAR) Participatory Action Research. The findings were guidelines in reducing of the pesticide residue by using PAR in Dong Yang village and Focus Group Discussion with villagers which were the indicators and protectors form those chemical as assigned. The surveillance in touching agricultural chemicals and assessment affect on health including contribution of clinic and safety agriculturist club. The motivation of the community by consulting and dialoging worked as a community lab. After the research the community continues the clinic of safely agriculture by hearth station of Ban Dongyang to prevent and control the touch of the chemicals and take care the agriculturists and could be a model expanding to 30 places in Ubon Ratchathani province. Besides the research can contribute new researcher such as students, villagers, government offices in the local and also conducted the network between researcher team from Ubon Ratchathani Rachabhat University and provincial agriculture organization. Public Health Organization and subdistrict Administrative organization to develop the public health by researching methodology.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
แนวทางการลดสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเลือดเกษตรกรผู้ปลูกพริกโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านดงยาง ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
2553
การศึกษาผลการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีต่อหนอนไหมวัยที่ 2 การศึกษาดัชนีการเก็บเกี่ยวพริกในการทำซอสพริก การศึกษาเปรียบเทียบพริก 7 พันธุ์ การควบคุมโรคโคนเน่าของพริกด้วยผงเชื้อรา Trichoderma harzianum สายพันธุ์ สวก.ลำปาง เบอร์ 2 (Th-LARTC # 2) ในสภาพเรือนทดลองและแปลงปลูก คัดเลือกพันธุ์แท้ของพริก 5 พันธุ์ การศึกษาการผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมของพริกยักษ์ 2 พันธุ์ และการควบคุมวัชพืชที่เหมาะสม การศึกษาสารเคมีกำจัดศรัตรูพืชกลุ่ม Organochlorine ตกค้างในพริก โดยวิธี Gashromatography การกำจัดแมลงวันพริกโดยชีววิธี การศึกษาเบื้องต้นถึงผลของการใช้สารสกัดจากต้นสาบเสือที่มีต่อการงอก และการเจริญของต้นกล้าพืชปลูก และวัชพืชบางชนิด การออกแบบและพัฒนาเครื่องบดพริก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก