สืบค้นงานวิจัย
ผลของเซลฟ์เอทชิ่งต่อการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน
Narumol Chongthanavanit - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลของเซลฟ์เอทชิ่งต่อการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of self etching on microleakage of sealants in non-contaminated and saliva-contaminated conditions
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Narumol Chongthanavanit
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันบนผิวเคลือบ ฟันที่ถูกปรับสภาพด้วยสารยึดติดระบบเซลฟ์เอทชนิดต่าง ๆ ทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน ศึกษาในฟันกรามน้อยบนจำนวน 40 ซี่ โดยการสุ่มแบ่งเป็นกลุ่มที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อนกลุ่มละ เท่า ๆ กัน ฟันในแต่ละกลุ่มถูกปรับสภาพด้วยวัสดุ 4 ชนิดดังนี้ 1) กรดฟอสฟอริก 35% 2) เคลียร์ฟิล เอสอีบอนด์เอกซ์ 3) แอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อนทาวัสดุเคลือบหลุมร่องฟัน 4) แอดเพอร์ พรอมท์ที่ฉายแสงพร้อมกับวัสดุเคลือบหลุมร่องฟัน โดยใช้คอนไซส์ไวท์ซีลแลนท์เป็นวัสดุเคลือบ หลุมร่องฟัน ในกลุ่มที่มีการปนเปื้อน ฟันถูกปนเปื้อนด้วยน้ำลาย 0.02 มล. เป็นเวลา 20 วินาที หลังจากนั้นเป่าด้วยลมเบา ๆ แช่ฟันทั้งหมดโดยหมุนผ่านความร้อนเป็นเวลา 500 รอบ เคลือบน้ำยา ทาเล็บห่างจากวัสดุ 1 มม. แช่ฟันในสารละลายเมทิลีนบลู 2% เป็นเวลา 24 ชม. หลังจากนั้นแบ่งฟัน ในแนวด้านแก้ม-ด้านลิ้น นำมาตรวจการซึมผ่านของสีระหว่างเคลือบฟัน และวัสดุเคลือบหลุมร่อง ฟันภายใต้กล้องจุลทรรศน์โพลาไรซ์ที่มีเลนส์วัตถุกำลังขยาย 10 เท่า วัดระยะการรั่วซึมโดยใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากนั้นคำนวณการรั่วซึมเป็นร้อยละ เปรียบเทียบผลระหว่างกลุ่มการศึกษา โดยใช้การทดสอบครัสคัล-วอลลิส ที่ระดับนัยสำคัญ p < 0.05 และการทดสอบมันน์-วิตนีย์ พบว่า 1) การรั่วซึมในกลุ่มกรดฟอสฟอริกน้อยกว่ากลุ่มเซลฟ์เอทชิ่งอย่างมีนัยสำคัญทั้งในภาวะที่มีและไม่ มีน้ำลายปนเปื้อน 2) ในสารยึดติดระบบเซลฟ์เอท เคลียร์ฟิลเอสอีบอนด์เอกซ์มีการรั่วซึมน้อยกว่า แอดเพอร์พรอมท์อย่างไม่มีนัยสำคัญ ทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน 3) การรั่วซึมของกลุ่ม แอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อน หรือฉายแสงพร้อมกับวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันไม่มีความ แตกต่างกัน การทดสอบมันน์-วิตนีย์ที่ระดับนัยสำคัญ p < 0.05 พบว่า การรั่วซึมของวัสดุเคลือบ หลุมร่องฟันในภาวะที่มีน้ำลายปนเปื้อน และเป่าด้วยลมเบา ๆ ไม่แตกต่างกับภาวะที่ไม่มีการ ปนเปื้อน ยกเว้นกลุ่มแอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อน พบว่าภาวะที่มีการปนเปื้อน มีการรั่วซึม น้อยกว่าภาวะที่ไม่มีการปนเปื้อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยสรุป กลุ่มที่ปรับสภาพผิวฟันด้วยกรดฟอสฟอ ริกมีการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันน้อยทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน
บทคัดย่อ (EN): 3) the leakage of Adper Prompt pre-cure and co-cure groups was not significantly different. A Mann-Whitney U test at p < 0.05 showed no significant difference in the leakage of the sealant in non-contaminated and air-dried saliva-contaminated groups except Adper Prompt pre-cure group that the leakage in contaminated situation was significantly less than non-contamination. In conclusion, conventional acid etching showed less microleakage in both non-contamination and saliva-contamination
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=4036&obj_id=3036
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Pit and Fissure Sealants
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันบนผิวเคลือบ ฟันที่ถูกปรับสภาพด้วยสารยึดติดระบบเซลฟ์เอทชนิดต่าง ๆ ทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน ศึกษาในฟันกรามน้อยบนจำนวน 40 ซี่ โดยการสุ่มแบ่งเป็นกลุ่มที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อนกลุ่มละ เท่า ๆ กัน ฟันในแต่ละกลุ่มถูกปรับสภาพด้วยวัสดุ 4 ชนิดดังนี้ 1) กรดฟอสฟอริก 35% 2) เคลียร์ฟิล เอสอีบอนด์เอกซ์ 3) แอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อนทาวัสดุเคลือบหลุมร่องฟัน 4) แอดเพอร์ พรอมท์ที่ฉายแสงพร้อมกับวัสดุเคลือบหลุมร่องฟัน โดยใช้คอนไซส์ไวท์ซีลแลนท์เป็นวัสดุเคลือบ หลุมร่องฟัน ในกลุ่มที่มีการปนเปื้อน ฟันถูกปนเปื้อนด้วยน้ำลาย 0.02 มล. เป็นเวลา 20 วินาที หลังจากนั้นเป่าด้วยลมเบา ๆ แช่ฟันทั้งหมดโดยหมุนผ่านความร้อนเป็นเวลา 500 รอบ เคลือบน้ำยา ทาเล็บห่างจากวัสดุ 1 มม. แช่ฟันในสารละลายเมทิลีนบลู 2% เป็นเวลา 24 ชม. หลังจากนั้นแบ่งฟัน ในแนวด้านแก้ม-ด้านลิ้น นำมาตรวจการซึมผ่านของสีระหว่างเคลือบฟัน และวัสดุเคลือบหลุมร่อง ฟันภายใต้กล้องจุลทรรศน์โพลาไรซ์ที่มีเลนส์วัตถุกำลังขยาย 10 เท่า วัดระยะการรั่วซึมโดยใช้ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากนั้นคำนวณการรั่วซึมเป็นร้อยละ เปรียบเทียบผลระหว่างกลุ่มการศึกษา โดยใช้การทดสอบครัสคัล-วอลลิส ที่ระดับนัยสำคัญ p < 0.05 และการทดสอบมันน์-วิตนีย์ พบว่า 1) การรั่วซึมในกลุ่มกรดฟอสฟอริกน้อยกว่ากลุ่มเซลฟ์เอทชิ่งอย่างมีนัยสำคัญทั้งในภาวะที่มีและไม่ มีน้ำลายปนเปื้อน 2) ในสารยึดติดระบบเซลฟ์เอท เคลียร์ฟิลเอสอีบอนด์เอกซ์มีการรั่วซึมน้อยกว่า แอดเพอร์พรอมท์อย่างไม่มีนัยสำคัญ ทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน 3) การรั่วซึมของกลุ่ม แอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อน หรือฉายแสงพร้อมกับวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันไม่มีความ แตกต่างกัน การทดสอบมันน์-วิตนีย์ที่ระดับนัยสำคัญ p < 0.05 พบว่า การรั่วซึมของวัสดุเคลือบ หลุมร่องฟันในภาวะที่มีน้ำลายปนเปื้อน และเป่าด้วยลมเบา ๆ ไม่แตกต่างกับภาวะที่ไม่มีการ ปนเปื้อน ยกเว้นกลุ่มแอดเพอร์พรอมท์ที่ถูกฉายแสงก่อน พบว่าภาวะที่มีการปนเปื้อน มีการรั่วซึม น้อยกว่าภาวะที่ไม่มีการปนเปื้อนอย่างมีนัยสำคัญ โดยสรุป กลุ่มที่ปรับสภาพผิวฟันด้วยกรดฟอสฟอ ริกมีการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันน้อยทั้งในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของเซลฟ์เอทชิ่งต่อการรั่วซึมของวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันในภาวะที่มีและไม่มีน้ำลายปนเปื้อน
Narumol Chongthanavanit
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การศึกษาความเท่าเทียมทางคลินิคระหว่างวัสดุเคลือบหลุมร่องฟันที่ผลิตในประเทศและวัสดุเคลือบหลุ่มร่องฟันที่นำเข้านนฟันกรามแท้ซี่ที่หนึ่งในภาวะภาคสนาม การพัฒนาวิธีการป้องกันการปนเปื้อนทางด้านจุ การสำรวจสถานการณ์การผลิตและการปนเปื้อนของผลิตภัณฑ การศึกษาเปรียบเทียบวิธีการลดเชื้อปนเปื้อนในพริก การปรับปรุงคุณภาพของแร่ดินเบาด้วยการเผาเพื่อใช้เป็นตัวดูดซับอาร์เซนิกออกจากน้ำที่ปนเปื้อน การดูดดึงสารหนูที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้เผือกและบอน การบำบัดดินที่ปนเปื้อนด้วยสารตะกั่วโดยใช้หญ้าชนิดต่าง ๆ การประเมินความเสี่ยงการปนเปื้อนของน้ำในคลองชลประทานแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ การใช้เทคนิคการจาลองแบบเพื่อศึกษาสภาพซึมผ่านได้ของเนื้อฟันในฟันน้ำนม การดูดซับและสะสมสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยหญ้าแฝก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก