สืบค้นงานวิจัย
ผลของปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่อการกักเก็บคาร์บอนของข้าวไม่ไวต่อแสงบางพันธุ์ในนาข้าว จังหวัดปทุมธานี
Nuanchan Eaimpraphan - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ผลของปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่อการกักเก็บคาร์บอนของข้าวไม่ไวต่อแสงบางพันธุ์ในนาข้าว จังหวัดปทุมธานี
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of mixed nitrogen fertilizer on carbon sequestration of some photo-insensitive rice varieties in paddy field, Pathum Thani province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nuanchan Eaimpraphan
บทคัดย่อ: การศึกษาปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ปลูกข้าวนาสวนในชุดดินรังสิตในเขตชลประทาน บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลาง มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในหนึ่งรอบการเพาะปลูกข้าว ซึ่งปลูก ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง 2 พันธุ์ คือ สุพรรณบุรี 1 และ ชัยนาท 1 ที่มีการใส่ปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่างกัน 4 อัตรา คือ 12, 18, 24 และ 30 กก.N/ไร่ โดยศึกษาตามระยะการเจริญเติบโตของข้าว 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแตกกอ ระยะตั้ง ท้อง และระยะเมล็ดสุกแก่ ประเมินปริมาณคาร์บอนในพื้นที่ปลูกข้าวทั้งในพืชและดิน โดยปริมาณคาร์บอนในพืชสามารถ ประเมินจากมวลชีวภาพทั้งส่วนเหนือพื้นดินและส่วนใต้พื้นดิน ซึ่งหาได้จากการนำส่วนต่างๆ ของข้าว ไปอบที่ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 วัน เพื่อหาน้ำหนักแห้ง แล้วนำไปคูณกับค่าสัมประสิทธิ์คาร์บอนในมวลชีวภาพ ของพืชที่หาโดยเครื่องวิเคราะห์อินทรียคาร์บอน (TOC) ส่วนปริมาณคาร์บอนในดิน หาในรูปของอินทรีย คาร์บอนโดยวิธี Walkley and Black (1947) จากผลการศึกษาพบว่า ปริมาณคาร์บอนเฉลี่ยทั้งหมดตลอดฤดูกาลเพาะปลูกของข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 และข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 มีค่า 9,282.38 และ 9,067.01 กก./ไร่ ตามลำดับ โดยข้าวทั้ง 2 พันธุ์ ตอบสนองต่อปุ๋ย ผสมไนโตรเจนดีที่สุดที่อัตรา 18 กก.N/ไร่ ทำให้มีปริมาณการกักเก็บคาร์บอนมากที่สุดคือ 9,505.61 และ 9,271.53 กก./ไร่ ตามลำดับ และข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 มีอัตราการกักเก็บคาร์บอนได้มากที่สุดในระยะตั้งท้อง ซึ่งมีค่า 38.38 กก./ไร่-วัน ส่วนข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 มีอัตราการกักเก็บคาร์บอนได้มากที่สุดในระยะแตกกอ ซึ่งมี ค่า 32.64 กก./ไร่-วัน สีของใบข้าวมีความสัมพันธ์กับปริมาณไนโตรเจน ซึ่งส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและ ผลผลิตมวลชีวภาพ ซึ่งข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 มีค่ามากกว่าข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และแปรผันตรงกับอัตราปุ๋ยผสม ไนโตรเจน โดยมีค่าสีของใบข้าวในระยะตั้งท้องมากกว่าระยะเมล็ดสุกแก่ ส่วนคุณสมบัติของดินที่ศึกษานั้นจะ เปลี่ยนแปลงตามระยะการเจริญเติบโตของข้าว แต่พันธุ์ข้าวและอัตราปุ๋ยผสมไนโตรเจนไม่มีอิทธิพลต่อการ เปลี่ยนแปลงค่าคุณสมบัติของดินในพื้นที่ปลูกข้าว
บทคัดย่อ (EN): C for 72 hours in order to find the dry weight of the plant. Then the biomass was multiplied by carbon coefficient values of plant biomass using the total organic carbon analyzer (TOC). In addition, organic carbon contents within the soils were analyzed by the Walkley and Black method (1947). It was found that the average carbon contents during all seasons of SPR1 and CNT1 cultivation were 9,282.38 and 9,067.01 kg/rai, respectively. Both rice varieties responded best to mixed nitrogen fertilizer 18 kg N/rai and they yielded highest level of carbon content at 9,505.61 and 9,271.53 kg/rai for SPR1 and CNT1, respectively. SPR1 had the highest carbon storage rate during the booting stage which was 38.38 kg/rai-day, while the CNT1 had the highest carbon storage rate during the tillering stage which was 32.64 kg/rai-day. The leaf color was related to nitrogen content which had an impact on photosynthesis and biomass production. The SPR1 variety demonstrated a higher color value than CNT1 variety and was directly related to the rate of mixed nitrogen fertilizer. The leaf color value was more significant during booting stage than maturing stage. The sample soil properties changed according to growth stages of the rice. However, rice varieties and mixed nitrogen rate had no effects on the paddy soil properties.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3770&obj_id=3769
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Soil fertility
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาปริมาณการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ปลูกข้าวนาสวนในชุดดินรังสิตในเขตชลประทาน บริเวณที่ราบลุ่มภาคกลาง มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการกักเก็บคาร์บอนในหนึ่งรอบการเพาะปลูกข้าว ซึ่งปลูก ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง 2 พันธุ์ คือ สุพรรณบุรี 1 และ ชัยนาท 1 ที่มีการใส่ปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่างกัน 4 อัตรา คือ 12, 18, 24 และ 30 กก.N/ไร่ โดยศึกษาตามระยะการเจริญเติบโตของข้าว 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแตกกอ ระยะตั้ง ท้อง และระยะเมล็ดสุกแก่ ประเมินปริมาณคาร์บอนในพื้นที่ปลูกข้าวทั้งในพืชและดิน โดยปริมาณคาร์บอนในพืชสามารถ ประเมินจากมวลชีวภาพทั้งส่วนเหนือพื้นดินและส่วนใต้พื้นดิน ซึ่งหาได้จากการนำส่วนต่างๆ ของข้าว ไปอบที่ 70 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 วัน เพื่อหาน้ำหนักแห้ง แล้วนำไปคูณกับค่าสัมประสิทธิ์คาร์บอนในมวลชีวภาพ ของพืชที่หาโดยเครื่องวิเคราะห์อินทรียคาร์บอน (TOC) ส่วนปริมาณคาร์บอนในดิน หาในรูปของอินทรีย คาร์บอนโดยวิธี Walkley and Black (1947) จากผลการศึกษาพบว่า ปริมาณคาร์บอนเฉลี่ยทั้งหมดตลอดฤดูกาลเพาะปลูกของข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 และข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 มีค่า 9,282.38 และ 9,067.01 กก./ไร่ ตามลำดับ โดยข้าวทั้ง 2 พันธุ์ ตอบสนองต่อปุ๋ย ผสมไนโตรเจนดีที่สุดที่อัตรา 18 กก.N/ไร่ ทำให้มีปริมาณการกักเก็บคาร์บอนมากที่สุดคือ 9,505.61 และ 9,271.53 กก./ไร่ ตามลำดับ และข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 มีอัตราการกักเก็บคาร์บอนได้มากที่สุดในระยะตั้งท้อง ซึ่งมีค่า 38.38 กก./ไร่-วัน ส่วนข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 มีอัตราการกักเก็บคาร์บอนได้มากที่สุดในระยะแตกกอ ซึ่งมี ค่า 32.64 กก./ไร่-วัน สีของใบข้าวมีความสัมพันธ์กับปริมาณไนโตรเจน ซึ่งส่งผลต่อการสังเคราะห์แสงและ ผลผลิตมวลชีวภาพ ซึ่งข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี 1 มีค่ามากกว่าข้าวพันธุ์ชัยนาท 1 และแปรผันตรงกับอัตราปุ๋ยผสม ไนโตรเจน โดยมีค่าสีของใบข้าวในระยะตั้งท้องมากกว่าระยะเมล็ดสุกแก่ ส่วนคุณสมบัติของดินที่ศึกษานั้นจะ เปลี่ยนแปลงตามระยะการเจริญเติบโตของข้าว แต่พันธุ์ข้าวและอัตราปุ๋ยผสมไนโตรเจนไม่มีอิทธิพลต่อการ เปลี่ยนแปลงค่าคุณสมบัติของดินในพื้นที่ปลูกข้าว
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่อการกักเก็บคาร์บอนของข้าวไม่ไวต่อแสงบางพันธุ์ในนาข้าว จังหวัดปทุมธานี
Nuanchan Eaimpraphan
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การดำรงอยู่ของพันธุ์ข้าวพื้นเมืองปักษ์ใต้ : กรณีศึกษาข้าวบางแก้ว จังหวัดพัทลุง การคัดเลือกประชากรข้าวลูกผสมรวมหมู่ระหว่างข้าวพันธุ์เหมยนองพื้นเมืองทนทานแมลงบั่วและพันธุ์ปทุมธานี 1 ในสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน การวิเคราะห์การเงินและปัจจัยการผลิตของการทำนาข้าว : กรณีศึกษา อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี จากนาข้าวสู่นากุ้ง : การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตและ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำของประเทศไทย การต่อสู้ดิ้นรนของการผลิตข้าวอินทรีย์ในจังหวัดเชียงใหม่จากอิทธิพลของระบอบข้าวพาณิชย์ การพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลในการเพิ่มผลผลิตของข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 ผลของแคดเมียมต่อการงอกและการเติบโตของข้าวบางสายพันธุ์ ระบบสารสนเทศวิธีควบคุมวัชพืชในนาข้าว ผลของปริมาณแสงที่ได้รับและปุ๋ยที่มีต่อการงอกและการเจริญเติบโตของต้นอ่อนก่อข้าว (Castanopsis indica) สารต้านอนุมูลอิสระและประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระของข้าวที่มีสายพันธุ์ต่าง ๆ และรำข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก