สืบค้นงานวิจัย
การผลิต Exopolysaccharides โดยเชื้อแบคทีเรียแลคติคและการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร : รายงานผลการวิจัย
ฐิตาภา เขียวขจี - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง: การผลิต Exopolysaccharides โดยเชื้อแบคทีเรียแลคติคและการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร : รายงานผลการวิจัย
ชื่อเรื่อง (EN): Exopolysaccharides production by lactic acid bacteria and its application in food products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ฐิตาภา เขียวขจี
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ได้แยกเชื้อแบคทีเรียแลคติคจากอาหารหมักดองจำนวน 97 เชื้อ และจากน้ำอ้อยจำนวน 28 เชื้อ โดยนำมาทดสอบความสามารถในการผลิต Exopolysaccharides (EPS) บนอาหารเลี้ยงเชื้อ MRS ชนิดแข็งและเหลวที่แปรชนิดของน้ำตาลคือ ซูโครส แลคโตส กลูโคส และฟรุคโตส พบว่าเชื้อ AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 สามารถสร้าง EPS ได้สูงสุดในอาหารที่มีน้ำตาลซูโครสเป็นแหล่งคาร์บอน การสร้าง EPS นั้นสัมพันธ์กับการเจริญ ผลการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยา การเจริญ สรีรวิทยา และชีวเคมี พบว่า AP-1 และ AP-3 จัดอยู่ในสปีชีส์ Pediococcus pentosaceus ส่วน LE13-1 และ LE13-2 จัดอยู่ในสปีชีส์ Leuconostoc mesenteroides spp. Mesenteroides เมื่อเลี้ยงเชื้อในอาหารเหลวเพื่อศึกษาหาสูตรและภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิต พบว่าเชื้อ AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 ผลิต EPS ได้น้ำหนัก EPS ต่อกรัมซูโครสสูง เมื่อใช้อาหารที่ดัดแปลงสูตรโดยประกอบด้วยน้ำตาลซูโครส 4, 10, 8 และ 6 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับแหล่งไนโตรเจนที่ประกอบด้วย Yeast extract เท่ากับ 0.5, 0.5, 0.25 และ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ Peptone 1.5, 1.5, 1.0 และ 2.0 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ Beef extract 1.0, 1.5, 1.0 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ โดยภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิต คือ ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส แบบไม่เขย่า ในภาวะที่เหมาะสมนี้ AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 สามารถผลิต EPS ได้เท่ากับ 16.32, 18.52, 9.32 และ 6.35 กรัมต่อลิตร ตามลำดับ เมื่อนำสารละลาย EPS ของเชื้อ AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 ไปทดสอบคุณสมบัติด้านความหนืด พบว่า มีลักษณะเป็นแบบ Pseudoplastic โดยให้คุณสมบัติ Shear thinning เมื่อ Shear rate สูงขึ้นความหนืดจะลดลง อย่างไรก็ตามความหนืดของสารละลายไม่คงตัวต่ออุณหภูมิและ pH ต่ำหรือสูงเกินไปและยังพบว่าเมื่อละลาย EPS ในสารละลายที่มีความเข้มข้นของเกลือ NaCl และ KCl ตั้งแต่ 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะมีผลทำให้ความหนืดของสารละลายสูงขึ้น แต่ EPS ที่ผลิตได้จาก AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 จะไม่ละลายน้ำ เมื่อความเข้มข้นของเกลือสูงถึง 8 และ 10 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ จากการจำแนกชนิดของประจุของพอลีแซคคาไรด์ตามลักษณะประจุไฟฟ้าและชนิดของน้ำตาลที่เป็นองค์ประกอบพบว่า EPS จากทั้ง AP-1, AP-3, LE13-1 และ LE13-2 มีประจุเป็นกลางและมีน้ำตาลกลูโคสเป็นองค์ประกอบ โดยมีปริมาณน้ำตาลทั้งหมดเท่ากับ 90.25, 85.20, 96.64 และ 95.32 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และมีปริมาณไนโตรเจนเท่ากับ 0.1, 0.4, 0.285 และ 0.178 ตามลำดับ EPS ที่ได้จากทั้ง 4 สายพันธุ์ ไม่มีคุณสมบัติในการเป็น Stabilizer และ Emulsifier
บทคัดย่อ (EN): sucrose 4, 10, 8 and 6%, yeast extract 0.5, 0.5, 0.25 and 2.0%, peptone 1.0, 1.5, 1.0 and 1.0%, beef extract 1.0, 1.5, 1.0 and 1.0%, respectively. Under this optimum condition, AP-1, AP-3, LE13-1 and LE13.2 strains could produce 16.32, 18.56, 9.32 and 6.35 g/l, respectively. Polysaccharides from AP-1, AP-3, LE13-1 and LE13.2 strains showed pseudoplastic (shear thining) properties. However, the viscosity of all polysaccharides was not resistant to high temperature or low pH, but it was increased in presence of NaCl or KCl at concentration higher than 1%. The EPS became insoluble in water when the concentration of KCl was increased to 8% and 10%. Partially purified EPS produced by AP-1, AP-3, LE13.1 and LE13.2 strains were shown to be neutral polysaccharides consisting predominately of glucose. They are composed of 90.25, 85.20, 96.64 and 95.32% sugar and 0.1, 0.4, 0.285 and 0.178 protein, respectively. EPS from all four strains did not show stabilizing or emulsifying activity under conditions tested.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/July2005/Research/Suvimon(Exo).pdf
เผยแพร่โดย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสำคัญ: อาหารหมักดอง
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียด: sucrose 4, 10, 8 and 6%, yeast extract 0.5, 0.5, 0.25 and 2.0%, peptone 1.0, 1.5, 1.0 and 1.0%, beef extract 1.0, 1.5, 1.0 and 1.0%, respectively. Under this optimum condition, AP-1, AP-3, LE13-1 and LE13.2 strains could produce 16.32, 18.56, 9.32 and 6.35 g/l, respectively. Polysaccharides from AP-1, AP-3, LE13-1 and LE13.2 strains showed pseudoplastic (shear thining) properties. However, the viscosity of all polysaccharides was not resistant to high temperature or low pH, but it was increased in presence of NaCl or KCl at concentration higher than 1%. The EPS became insoluble in water when the concentration of KCl was increased to 8% and 10%. Partially purified EPS produced by AP-1, AP-3, LE13.1 and LE13.2 strains were shown to be neutral polysaccharides consisting predominately of glucose. They are composed of 90.25, 85.20, 96.64 and 95.32% sugar and 0.1, 0.4, 0.285 and 0.178 protein, respectively. EPS from all four strains did not show stabilizing or emulsifying activity under conditions tested.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิต Exopolysaccharides โดยเชื้อแบคทีเรียแลคติคและการประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร : รายงานผลการวิจัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2540
การรีดิวส์โครเมตโดยแบคทีเรียทนอุณหภูมิสูง การแยกแบคทีเรียในดินที่สามารถสร้างสารปฏิชีวนะในการยับยั้ง Staphylococcus aureus และ Fusarium sp. การตรวจหาแบคทีเรียในอาหารบางชนิด การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากเปลือกกุ้ง รายงานฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ศึกษาและคัดเลือกแบคทีเรียที่สามารถผลิตเอนไซม์ไลเปสจากป่าพรุจังหวัดจันทบุรี ผลของการเสริมดอกปีปในอาหารสุกรขุนต่อสมรรถภาพการผลิต งานวิจัยเรื่อง การศึกษาการผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่มรสมะขามหวาน รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานผลการวิจัยเรื่อง การออกแบบบรรจุภัณฑ์ของตกแต่งจากไม้มะขามเทศ จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานการวิจัยโครงการการวิจัยปีงบประมาณ 2546 สนับสนุนโดยงบประมาณการวิจัยมหาวิทยาลัยขอนแก่นโครงการวิจัยเรื่อง: การปรับเปลี่ยนและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์มันสำปะหลังเป็นอาหารโคนม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก