สืบค้นงานวิจัย
การศีกษาประสิทธิภาพวัคซีนชนิดกินเคลือบสารเพื่อป้องกันโรคสเตรปโตคอคโคซีสในปลานิล
บัณฑิตย์ เต็งเจริญกุล - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: การศีกษาประสิทธิภาพวัคซีนชนิดกินเคลือบสารเพื่อป้องกันโรคสเตรปโตคอคโคซีสในปลานิล
ชื่อเรื่อง (EN): Study on efficiency of oral coated vaccine against streptococcosis in the Nile tilapia fish
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บัณฑิตย์ เต็งเจริญกุล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Bundit Tengjaroenkul
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตำรับวัคซีนที่ใช้สารอัลจิเนตกักเก็บอนุภาคเชื้อสเตรปโตคอคโคซิสใน วัคซีนชนิดกินให้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในปลานิลวัยรุ่น ในการทดลองได้ทดลองเตรียมตำรับวัคซีน 3 ตำรับ โดยมีวัตภาคภายในคือวัคซีนที่มีปริมาณเชื้อตาย 1x10cfu/ml ต่อวัตภาคภายนอกคืออัลจิเนตใน สารละลายไดคลอโรมีเธน ในสัดส่วน 30:40, 30:45 และ 30: 50 ตามลำดับ จากผลการเตรียมตำรับวัคซีนพบว่า ขนาดอนุภาคเฉลี่ยทั้ง 3 ตำรับ มีค่าเท่ากับ 107.65, 65.85 และ 2.335 ไมครอน และเมื่อเพิ่มปริมาตรของเหลวใน วัตภาคภายนอก จะทำให้ขนาดอนุภาคเฉลี่ยของอนุภาคขนาดเล็กลดลง รวมทั้งการกระจายขนาดอนุภาคมีความ เบี่ยงเบนลดลง โดยวัคนที่เตรียมจากตำรับที่ 1 มีขนาดไม่เล็กเกินไปจึงเหมาะในการนำมาทำเป็นวัคนชนิดกิน สำหรับการทดลองประสิทธิภาพวัคซีนอัลจิเนตในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันนั้น ได้ทำการแบ่งปลาเป็น 5 กลุ่ม โดยกลุ่ม ที่ 1 เป็นกลุ่มควบคุม ซึ่งไม่ได้รับวัคซีน กลุ่มที่ 2 ได้รับวัคซีนเชื้อตายฉีดเข้าช่องท้อง ขนาด 1x10* cfu/ml กลุ่มที่ 3 ได้รับวัคซีนชนิดกินหุ้มด้วยอัลจิเนต นาน 4 สัปดาห์ กลุ่มที่ 4 ได้รับวัคนชนิดกินนาน 6 สัปดาห์ และกลุ่มที่ 5 ได้รับวัคขืนชนิดกินหุ้มด้วยอัลจิเนตนาน 8 สัปดาห์ ทุกกลุ่มทำการทดลอง 3 ซ้ำ หลังการให้วัคซีนชนิดฉีดครั้งที่สอง เป็นเวลา 21 วัน และหลังกินวัคนตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ทำการเก็บเลือดปลา 8 ตัว ในทุกกลุ่ม ก่อนปั่นแยก ชีรั่มที่ความเร็ว 3,000 รอบต่อนาที นาน 10 นาที และตรวจวัดค่าแอนติบอดีไตเตอร์ใช้วิธีการ direct agglutination โดยการเจือจางซีรั่มแบบ two-fold dilution จากการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกันพบว่า ปลาที่ได้รับ วัคซีนผสมอาหารเป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีค่าแอนติบอดีไตเตอร์เฉลี่ยสูงที่สุด ไม่แตกต่างจากปลาที่ได้รับวัคนชนิด ฉีดในครั้งแรก ปลาที่ได้รับวัคซีนผสมอาหารเป็นเวลา 4 สัปดาห์ มีค่าแอนติบอดีไตเตอร์เฉลี่ยสูงกว่าปลาในกลุ่ม ควบคุม และระดับไตเตอร์ในปลาที่กินวัคซีน 6 และ 8 สัปดาห์ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p<0.05) จากผล การศึกษาสรุปได้ว่า ปลาที่ได้รับวัคซีนเคลือบสารอัลจิเนตผสมอาหารเป็นเวลา 8 สัปดาห์ สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ได้ดีที่สุด
บทคัดย่อ (EN): This study aimed to develop encapsulated formulation for efficiently oral streptococcal micro-particle vaccine to stimulate immunity in juvenile tilapia. For preparation of oral vaccine, killed streptococcal bacteria concentraton 1x108 cfu/ml as inner compartment was coated with alginate in dichloromethane solvent as an outer compartment at the ratio of 30:40, 30:45 and 30: 50, respectively, and the sizes of the vaccine particle of each formular were 107.65, 65.85 and 2.335 ?m, respectively. The increase of outer compartment caused a reduction of vaccine particle size and its size distribution. As compared the particle size and the amount of bacterial incorporated into the vaccine, the first formulation was likely the most suitable to explore its potential to stimulate the stimulation of the fish immunity. To study the use of the oral vaccine depending on immune-titer potency, the juvenile tilapia fish were allotted randomly into 5 treatments with 3 replica: treatment 1 (the control treatment) fish reared without any vaccination; treatment 2 the fish injected with killed streptococcal vaccine at concentration of 1x108 cfu/ml; treatment 3 the fish received the oral streptococcal vaccine coated with alginate for 4 weeks; treatment 4 the fish received the oral coated vaccine for 6 weeks, and treatment 5 the fish received the oral coated vaccine for 8 weeks. After examined antibody titers of the experimental fish using direct agglutination, the fish received oral vaccine for 8 weeks showed the highest immunity similar to the fish after injected with the vaccine, and also greater antibody titer than the fish get oral vaccine for 4 and 6 weeks. The study can be concluded that oral vaccine provided to fish for 8 weeks was a suitable procedure to stimulate immunity to the fish.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: อาหาร
คำสำคัญ (EN): Food
หมวดหมู่:
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศีกษาประสิทธิภาพวัคซีนชนิดกินเคลือบสารเพื่อป้องกันโรคสเตรปโตคอคโคซีสในปลานิล
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2558
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี การระบาดของโรคสเตปโตคอคโคซิสในปลานิล การกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรคสเตรปโตคอคโคซิสในปลานิลวัยอ่อน การใช้พืชสมุนไพรเพื่อการควบคุมโรคสเตรปโตคอคโคซิสในปลานิล การศึกษาประสิทธิภาพสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันผสมในวัคซีนป้องกันโรค สเตร็ปโตค็อคโคซิสในปลานิล การพัฒนาพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส โดยใช้เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ด้วยเครื่องหมายโมเลกุล[ระยะที่ 1] การพัฒนาพันธุ์ปลานิลทนโรคสเตรปโตคอคโคซิส โดยใช้เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ด้วยเครื่องหมายโมเลกุล[ระยะที่ 1] การเสริมสารดูดซับในอาหารปลาเพื่อลดกลิ่นโคลนในปลานิล การใช้เทคโนโลยี bio-flocs ในการเลี้ยงกุ้งขาวและปลานิลแบบผสมผสาน การคัดแยกเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคเหงือกในปลานิล (Flavobacterium columnarae) เพื่อพัฒนาเป็นวัคซีนป้องกันโรค
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก