สืบค้นงานวิจัย
การใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นเมืองของเกษตรกรอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
พิชัย ไกรอนุพงษ์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นเมืองของเกษตรกรอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พิชัย ไกรอนุพงษ์
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาลักษณะพื้นฐานบางประการ ทางเศรษฐกิจและสังคมของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นเมือง 2) ศึกษาการใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยง-ไหมของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นเมือง และ3) ศึกษาสภาพปัญหาอุปสรรคของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นเมือง ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไทยพื้นเมืองในอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น จำนวนตัวอย่าง 110 ราย การสุ่มตัวอย่าง ใช้แบบง่าย เก็บข้อมูลใช้แบบสัมภาษณ์ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยใช้โปรแกรม คอมพิว-เตอร์สำเร็จรูป SPSS ผลการศึกษาพบว่า เทคโนโลยีการปลูกหม่อน เกษตรกรส่วนมากใช้กิ่งชำหม่อนพันธุ์พื้นเมืองมีอายุมากกว่า 4 เดือนปลูก ทั้งหมดมีไถหน้าดินลึกไม่เกิน 50 เซนติเมตรบางส่วนใส่ปุ๋ยคอกในขั้นตอนการเตรียมดิน ไม่ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองก้นหลุม ส่วนใหญ่ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 16-20-0 หลังการตัดต่ำและใส่ครั้งเดียว ไม่ได้ให้น้ำในฤดูแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ทั้งหมดใช้แรงงานคนกำจัดวัชพืช ตัดต่ำในเดือนเมษายน และพฤษภาคม โรคหม่อนที่มีปัญหา ได้แก่ โรคใบด่างแคระแกรน เมื่อพบโรคแล้ว ส่วนใหญ่หาพันธุ์ใหม่ที่มีความต้านทานมาปลูกทดแทน แมลงศัตรูหม่อนที่มีปัญหาที่พบมาก คือ ด้วงเจาะลำต้น ห้องเลี้ยงไหมส่วนใหญ่เป็นแบบตาข่ายไนล่อน รองลงมาแบบเอกเทศ(แยกจากตัวบ้าน) และห้องเลี้ยงแบบใต้ถุนบ้าน ตามลำดับ ทั้งหมดทำความสะอาดห้องเลี้ยงไหมโดยใช้ผงซักฟอกและน้ำล้าง พันธุ์ไหมส่วนใหญ่ได้จากเพื่อนบ้านรองลงมาขยายพันธุ์เอง การเลี้ยงไหมวัย 1 พบว่าบางส่วนใช้สารเคมีโรยตัวไหมเพื่อป้องกันโรค ใบหม่อนที่เลี้ยงจะเลือกเก็บโดยนับจากใบบนสุดลงมา 3 ใบ การถ่ายมูลไหมวัยอ่อนเฉลี่ย 5 ครั้ง ไหมวัยแก่ให้ใบหม่อนวันละ 2 ครั้ง การถ่ายมูลเฉลี่ย 5 ครั้ง มีการโรยปูนขาวบนตัวไหมเพื่อลดความชื้น โรคไหมที่เป็นปัญหามากที่สุด ได้แก่ โรคแกรสเซอรี่(เต้อ) รองลงมา โรคแฟรคเชอรี่(เน่าเละ) เมื่อพบโรคจะแยกตัวหนอนออกไปทำลาย และจะไม่เลี้ยงต่อ การเก็บรังไหมที่สุกหลังการทำรังเฉลี่ย 3 วัน การขายผลผลิต เกือบทั้งหมดทอเป็นผ้าขายรองลงมาสาวเส้นแล้วแบ่งขายบางส่วนขายรัง จะรวมกลุ่มขาย รองลงมาพ่อค้ามารับซื้อในหมู่บ้าน ปัญหา อุปสรรคพบว่า มีปัญหามากจำนวน 7 ประเด็น ได้แก่ 1) ขาดแคลนไข่ไหมพื้นเมืองคุณภาพดี 2) ขาดใบหม่อนในการเลี้ยง 3) โรคแมลงศัตรูไหม 4) ปัจจัยการผลิต 5) ขาดเทคนิคในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม 6) การย้อมสีไหม และ 7) ขาดแคลนหม่อนพันธุ์ดี มีปัญหาในระดับน้อยจำนวน ประเด็น 4 ได้แก่ 1) พ่อค้าคนกลางกดราคาเส้นไหม 2) โรคแมลงของหม่อน 3) ขาดความรู้ในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และ 4) ขาดแหล่งรับซื้อไหม ข้อเสนอแนะจากการศึกษา 1) ควรให้การสนับสนุน ไข่ไหมพื้นเมือง และพันธุ์หม่อนที่ให้ผลผลิตสูงแทนพันธุ์เดิม 2) ควรให้ความรู้ด้านเทคนิคปรับปรุงพันธุ์ไหม และการบำรุงรักษาหม่อนที่ถูกต้อง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: จังหวัดขอนแก่น
หมวดหมู่:
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพื้นเมืองของเกษตรกรอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น
กรมส่งเสริมการเกษตร
2547
การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น การใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมไทยพื้นเมืองของเกษตรกร อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น สภาพการเลี้ยงไหมของเกษตรกรในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น การใช้เทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยพื้นเมืองของเกษตรกรตำบลบ้านลาน อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น การใช้เทคโนโลยีในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรจังหวัดสระแก้ว ปี 2547 ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตำบลโนนศิลา กิ่งอำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น สภาพการผลิตและความต้องการรับการส่งเสริมด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกร ตำบลแจนแวน กิ่งอ.ศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมไทยลูกผสมต่อการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดขอนแก่น (หม่อนไหม) ปี 2546 การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรตำบลกุดชุมแสง อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก