สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์ใช้แบบจำลองดุลของฟอสฟอรัสเพื่อประเมินศักยภาพในการผลิตปลาทับทิมในกระชังที่เลี้ยงในบ่อดิน
เจษฎา อิสเหาะ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์ใช้แบบจำลองดุลของฟอสฟอรัสเพื่อประเมินศักยภาพในการผลิตปลาทับทิมในกระชังที่เลี้ยงในบ่อดิน
ชื่อเรื่อง (EN): The Application of a Phosphorus Budget Model Estimating the Carrying Capacity of Tabtim Fishes Cage Culture in Earthen Pond.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เจษฎา อิสเหาะ
บทคัดย่อ: จากกการทดลองประยุกต์ใช้แบบจำลองดุลของฟอสฟอรัสเพื่อประเมินศักยภาพในการผลิตปลา ทับทิมในกระชังที่เลี้ยงในบ่อดิน จากบ่อเลี้ยงปลาทับทิม 2 แห่ง คือของจิตติพรฟาร์ม คลอง 13 จังหวัด ปทุมธานี และบ่อของฟาร์มบริษัทไทยรุ่งกิจฟีชชอรี่ จำกัด จังหวัดนครปฐม โดยแยกการทคลองออกเป็น 4 งาน ผลการทดลองพบว่า งานวิจัยที่ 1 การสะสมของตะกอนดินเลนบริเวณพื้นกั้นบ่อ พบว่าระดับความลึก ของตะกอนดินเลนบริเวณพื้นกันบ่อ ทั้ง 3 บ่อ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการเลี้ยงตามลำดับ โดย พบว่าบ่อของจิตติพรฟาร์ม ซึ่งมีการปล่อยปลาที่มีอัตราความแน่นที่สูงกว่าบ่อของฟาร์มบริษัทไทยรุ่งกิจพืช เชอรี่ จำกัด เมื่อระยะเวลาการเลี้ยงผ่านไป 12 สัปดาห์ พบว่าบ่อปลาของจิตติพรฟาร์มจะมีระดับความลึก ของตะกอนดินเลนที่เพิ่มขึ้นบริเวณพื้นกันบ่อสูงกว่าบ่อของฟาร์มบริษัทไทยรุ่งกิงฟิชเชอรี่ จำกัด ค่อนข้างมาก โดยพบว่าบ่อปลาของจิตติพรฟาร์มที่มีขนาค 3 ไร่มีค่าเท่ากับ 5.7 + 1.32 เซนติเมตร บ่อขนาด 4 ไร่ มีค่าเท่ากับ 6.2 : 1.03 เซนติเมตร ในขณะที่บ่อของฟาร์มบริษัทไทยรุ่งกิจฟิชเชอรี่ จำกัด จะมีค่าระดับ ความลึกของตะกอนดินเลนที่เพิ่มขึ้นบริเวณพื้นกันบ่อเท่ากับ 3.2 + 0.50 เซนติเมตร ในระยะเวลาการเลี้ยง ผ่านไป 12 สัปดาห์ และเมื่อเลี้ยงครบ 28 สัปดาห์ จะมีค่าระดับความลึกของตะกอนดินเลนเพิ่มสูงขึ้นถึง 15.4 +0.99 เซนติเมตร งนวิจัยที่ 2 ดุลของฟอสฟอรัส (Phosphorus budge!) ภายในบ่อเลี้ยงปลาทับทิมจาก ทั้ง 3 บ่อ ตลอดระยะเวลาการเลี้ยง พบว่าปริมาณฟอสฟอรัสที่ป้อนเข้าสู่บ่อ ที่เกิดจากน้ำที่สูบเข้าบ่อ 16.6 เปอร์เซ็นต์ และจากปริมาณอาหารที่ให้ปลากิน 83.4 เปอร์เซ็นต์ และปริมาณฟอสฟอรัสที่สูญเสียออกจาก บ่อ ที่เกิดจากน้ำที่ถ่ายทิ้งออกจากบ่อเลี้ยง 22.9 เปอร์เซ็นต์ มีการสะสมในตัวปลา 12.6 เปอร์เซ็นด์ มีการ สะสมในตะกอนดินก้นบ่อ ร8.7 เปอร์เซ็นต์ และที่ตรวจไม่พบ 6.1 เปอร์เซ็นต์เปอร์เซ็นต์ งานวิจัยที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพน้ำ คุณภาพดิน กับผลผลิตปลาทับทิมที่เกิดขึ้นในกระชังที่แขวนในบ่อดิน พบว่า มีค่าคุณภาพน้ำเพียง 2 พารามิเตอร์เท่านั้นที่มีความสัมพันธ์กับผลผลิตของปลาทับทิม คือค่า คลอโรฟิลล์เอ และค่าอุณหภูมิของน้ำมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลผลิตปลาทับทิม อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ดังเครื่องหมาย ** มีค่า -1.000 และค่ Sig. (2-tailed) - 0.00 และเมื่อนำข้อมูลค่าคุณภาพน้ำ และ คุณภาพดินที่วิเคราะห์ได้ข้งต้น มาศึกษาวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ (Muliple Rcgrcession) พบว่ามืเพียง 2 พารามิเตอร์เท่านั้น คือ ค่ไนไตรท์ของน้ำ และค่าปริมาณฟอสฟอรัสรวมในดิน ที่มีความสัมพันธ์ กับผลผลิตของปลาทับทิม ไดยมีค่า r - 1000 และ 1 - 1.000 โดขมีสมการความสัมพันธ์ที่สามารถนำใช้ ในการทำนายผลผลิตได้ดังนี้ Production = 13492.283 - 26223.048 x NO: - 2545.242 x TP และ งานวิจัยที่ 4 การประเมินศักยภาพการผลิตที่บ่อรองรับได้ (Carying capaciy) ในการผลิตปลาทับทิมใน กระชังที่แขวนในบ่อดิน ซึ่งพบว่าฟาร์มจิตดิพรฟาร์ม จะเลี้ยงในบ่อที่มีขนาดประมาณ 3- 4 ไร่ ใช้ระยะเวลา ในเลี้ยงประมาณ 12 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดการลี้ยงพบว่ามีผลผลิตสุดท้ขรวมได้ 7.77 + 1.88 ตัน/บ่อหรือ 2.19 *0.22 ตัน /ไร่ มีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ เท่ากับ 1.69 + 0.09 และเมื่อประเมินศักยภาพการผลิต ที่บ่อรองรับได้ (Carrying capacity) พบว่ามีค่าเท่ากับ 10.44 - 1.62 ตัน ซึ่งพบว่าฟาร์มจิตติพรฟาร์ม ผลิต ปลาอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่าศักขภาพการผลิตที่บ่อรองรับได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อระบบการเลี้ยงจะเห็นได้ชัดเจน ว่าปลาจะมีการเจริญเดิบโตที่ดี สามารถลดระยะเวลาการเลี้ยงได้ และส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็น เนื้อมีประสิทธิภาพดีขึ้น ในขณะที่บ่อของฟาร์มไทยรุ่งกิจ ฟีชเซอรี่ จะเป็นบ่อที่มีขนาดประมาณ 10 ไร่ ซึ่ง ตลอดการเลี้ยงของบ่อนี้จะใช้เวลาประมาณ 28 สัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดการเลี้ยงพบว่ามีผลผลิตสุดท้ายรวมได้ 12.83 ตัน/บ่อ หรือ 1.24 ตัน /ไร่ มีอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ เท่ากับ 1.86 และเมื่อประเมินศักยภาพ การผลิตที่บ่อรองรับได้ (Carrying capaciy พบว่ามีค่าเท่ากับ 19.05 ตัน ซึ่งพบว่าฟาร์มบริษัทไทยรุ่งกิจ ฟีช เขอรี่ จำกัด ผลิตปลาอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าศักยภาพการผลิตที่บ่อรองรับได้ ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าไม่เกิดผลดี ต่อระบบการเลี้ยง และต่อสิ่งแวดล้อม เพราะจะส่งผลต่อปลาให้มีการเจริญเติบโตช้าลง ทำให้ระยะเวลาการ เลี้ยงนานขึ้น และส่งผลให้อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อมีประสิทธิภาพอยลง และหากปล่อยระบายน้ำ ทิ้งจากบ่อเลี้ยงปลาก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปรากฎฏการณ์ยูโทรฟิเคชั่นได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
คำสำคัญ: บ่อดิน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การประยุกต์ใช้แบบจำลองดุลของฟอสฟอรัสเพื่อประเมินศักยภาพในการผลิตปลาทับทิมในกระชังที่เลี้ยงในบ่อดิน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
30 กันยายน 2558
ศักยภาพการผลิตปลาสวยงามเพื่อการส่งออกในจังหวัดราชบุรี การเลี้ยงปลาอีกงในบ่อดินที่ระดับความหนาแน่นต่างกัน การประเมินผลการดำเนินการกิจกรรมการเลี้ยงปลาในบ่อดินโครงการช่วยเหลือราษฎร ตำบลโคกปรง อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ความต้องการการส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลในบ่อดินของเกษตรกรในจังหวัดลำปาง ความต้องการการส่งเสริมการเลี้ยงปลานิลในบ่อดินของเกษตรกรในจังหวัดลำพูน การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร การเลี้ยงปลานิลในกระชังด้วยระบบ LVHD (การเลี้ยงปลานิลแปลงเพศในกระชังด้วยอัตราความหนาแน่นสูง) ความหนาแน่นที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลาชะโอนในบ่อดิน วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนการเลี้ยงปลาพลวงหิน(Neolissochilus stracheyi) (Day,1871)ในบ่อดินและกระชังด้วยอาหารสำเร็จรูปบนพื้นที่สูง วิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนการเลี้ยงปลาพลวงหิน (Neolissochilus stracheyi (Day, 1871)) ในบ่อดินและกระชังด้วยอาหารสำเร็จรูปบนพื้นที่สูง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก