สืบค้นงานวิจัย
การใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ธนัญชย์ ดำขำ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ชื่อเรื่อง (EN): Using Bio-charcoal for increase agricultural product
บทคัดย่อ: การศึกษาการใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ทำการทดลองสองแห่งคือ จังหวัดเชียงรายและจังหวัดลพบุรี ในแปลงนาเกษตรกรที่ปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการปี 2554 - 2556 รวม 3 ปี วางแผนการทดลอง แบบ RCB 5 กรรมวิธี 10 ซ้ำ แบ่งเป็น แปลงควบคุม การใช้ปุ๋ยเคมีตามแบบเดิมของเกษตรกร การใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM (Thai Soil Management Simulation Farming) การใส่ถ่านชีวภาพเพียงอย่างเดียวและการใส่ถ่านชีวภาพและใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM สามารถสรุปผลได้ดังนี้ แปลงทดลองที่เชียงราย ปี 2554 การใส่ปุ๋ยแบบเดิมของเกษตรกร ให้ความสูงของต้นข้าว น้ำหนักสดตอซังข้าวและผลผลิตข้าวมีค่าสูงที่สุด เท่ากับ 859 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาได้แก่ กรรมวิธีที่ 3 การใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM เท่ากับ 778 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2555 พบว่า แต่ละกรรมวิธีมีความแตกต่างของธาตุอาหารในดินและผลผลิตข้าวไม่เด่นชัด โดยมีแนวโน้มว่า กรรมวิธีที่ 3 การใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM ดีที่สุด เนื่องจากให้ผลผลิตสูงที่สุดเท่ากับ 800 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสอดรับในปี 2556 พบว่า กรรมวิธีที่ 3 การใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM ให้ผลผลิตข้าวสูงที่สุด เท่ากับ 613.6 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนกรรมวิธีที่ให้ผลผลิตน้อยที่สุด คือ กรรมวิธีที่ 4 การเติมถ่านชีวภาพเพียงอย่างเดียว ให้ผลผลิตข้าวต่ำที่สุด เท่ากับ 692, 723.2 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2554 และ 2555 ตามลำดับ ในปี 2556 แปลงควบคุมให้ผลผลิตน้อยที่สุดเท่ากับ512.8 กิโลกรัมต่อไร่ แสดงให้เห็นว่าผลตกค้างที่เกษตรกรทำการปลูกข้าวก่อนทำการทดลองร่วมกับกรมพัฒนาที่ดิน ในช่วงแรกมีผลตกค้างและส่งผลอย่างชัดเจน ทำให้ผลผลิตสูงที่สุด แต่เมื่อ 3 ปีผ่านไป แปลงควบคุมที่ไม่ได้ให้ธาตุอาหารใด ๆ แก่ดิน ทำให้ผลผลิตต่ำที่สุด ในแปลงควบคุม เพราะดินทรายที่ไม่สามารถกักเก็บธาตุอาหารได้นาน หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสมเป็นเหตุให้ผลผลิตต่ำลงในที่สุด แปลงทดลองที่ลพบุรีจะเห็นว่าเป็นดินเหนียวกว่าแปลงทดลองที่เชียงราย ปี 2554 เกิดมหาอุทกภัยในแปลงทดลองทำให้ไม่ได้ผลผลิตเลย จะได้ผลผลิตในปี 2555 และ 2556 เท่านั้น โดยให้ผลผลิตสูงสุดในแปลงควบคุมเท่ากับ 1,360 กิโลกรัมต่อไร่ ในปี 2555 และในปี 2556 ให้ผลผลิตสูงสุดในกรรมวิธีที่ 3 การใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำของโปรแกรม TSM เท่ากับ 1,168 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของทั้งแปลงทดลองที่เชียงรายและแปลงทดลองที่ลพบุรี เรื่องผลตกค้างของธาตุอาหารในดินสามารถสรุปไปในทิศทางเดียวกัน โดยแปลงทดลองที่เชียงรายมีปริมาณแมกนีเซียมที่สกัดได้ในดินสูง ส่งผลให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจในกรรมวิธีที่ 1 แปลงควบคุม มีผลผลิตสูงสุด สอดรับกับการใส่ถ่านชีวภาพซึ่งมีสมบัติดูดซับธาตุอาหารในดินและ ค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารพืชจึงเป็นประโยชน์กับข้าวมากขึ้น ทำให้ผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสอดคล้องไปกับกรรมวิธีที่ 1 ไม่จำเป็นต้องใส่ธาตุอาหารใด ๆ ให้กับข้าวอีก นอกจากนี้แปลงทดลองที่ลพบุรีก็เช่นกัน ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสอดรับกับแปลงทดลองที่เชียงราย ถึงแม้ไม่พบความแตกต่างของค่าวิเคราะห์ดินใด ๆ เนื่องจากดินจังหวัดลพบุรีเป็นดินเหนียว การเพิ่มธาตุอาหารในปริมาณน้อยไม่ส่งผลให้ผลผลิตและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจแตกต่างแต่อย่างใด จึงทำให้กรรมวิธีที่ 1 และ 4 ดีที่สุดตามลำดับ โดยสามารถสรุปได้ว่า การใช้ถ่านชีวภาพควรพิจารณาใส่ในปริมาณที่สูงขึ้นให้สอดคล้องกับปริมาณอินทรียวัตถุที่ควรจะเป็นคือ ประมาณ 1 – 5 เปอร์เซ็นต์ และการทดลองในครั้งต่อไป ควรใส่อัตราปุ๋ยในปริมาณสูง เพื่อยกระดับผลผลิตข้าวให้ได้มากกว่าการปรับลดปุ๋ยเคมีลง หรือการใช้ปุ๋ยเคมีในอัตราต่ำ
บทคัดย่อ (EN): The study of using bio-charcoal for increase agricultural product was carried out two sites at Chiang rai and Lopburi province on paddy rice field owner. KDML 105 was transplanted as transplanting and broad casting rice at Chiang rai and Lopburi site respectively. The experiment design is RCBD 5 treatments and 10 replications in 2011-2013. The treatments consist of control, conventional farmer practice, apply chemical fertilizer as TSM (Thai Soil Management Simulation Farming) recommendation, to apply Bio-charcoal and to apply both chemical fertilizer as TSM recommendation with Bio-charcoal. The result in Chiang rai site shows that the highest yield and yield components as conventional treatment gets 859 kilograms per rai rice yield production at the first year. The second treatment is to apply chemical fertilizer as TSM recommendation gets a good rice yield production 778 kilograms per rai. At the second year experiment, the result show to apply chemical fertilizer as TSM recommendation gets a good rice yield production 800 kilograms per rai. So do the treatment of apply chemical fertilizer as TSM recommendation gets a good rice yield production 613.6 kilograms per rai at the last year. On the other hand, both the first and second year experiment as only bio-charcoal application into the soil gets the lowest rice yield 692, 723.2 kilograms per rai in 2011 and 2012 respectively. However, the lowest rice yield in 2013 is 512.8 kilograms per rai of the control treatment. Because of in Chiang rai site itself is a sandy soil that can’t maintain plant nutrient from chemical fertilizer. The clay soil of Lopburi experimental site was not get rice yield in 2011 because it had a big flooding in Chao Phraya delta so Lopburi as well. The highest treatment was control and got 1,360 kilogram per rai in 2012. On the other hand in 2013, the TSM recommendation treatment gets the highest rice production 1,168 kilograms per rai. Benefit cost ratio (BCR) of the control treatment is better than others at the first year because the residue effect from both chemical fertilizer and soil amendment as Dolomite effects to the soil at both sites. The control and bio-charcoal application reflect higher BCR but should be realize to apply at the rate 1-5 percentage of Bio-charcoal as Organic Matter in the soil. In the near future, Should be to apply chemical fertilizer higher rate because Bio-charcoal itself will enhance and slow release chemical fertilizer to the plant.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ผลผลิตทางการเกษตร
คำสำคัญ (EN): agricultural product
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ธนัญชย์ ดำขำ. "การใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรUsing Bio-charcoal for increase agricultural product". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556

ธนัญชย์ ดำขำ. "การใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรUsing Bio-charcoal for increase agricultural product". กรมพัฒนาที่ดิน. 2556. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้ถ่านชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
ธนัญชย์ ดำขำ
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2556
ผลของชนิดและอัตราการใช้ถ่านชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในดินกรด ผลของถ่านชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตและเติบโต ของยางพารา การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรด้วยการปรับปรุงดินด้วยถ่านชีวภาพที่ผลิตจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร การแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนโลหะหนักในกากตะกอนน้ำเสียจากระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การใช้ความหลากหลายของพืชอาหารในท้องถิ่นของไหมอีรี่เพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ประสิทธิภาพของน้ำหมักชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร อิทธิพลของการใช้ส่วนขยายพันธุ์ต่อการงอกการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของแก่นตะวัน (Helianthus tuberosus L.) โครงการวิจัย และพัฒนาระบบการปลูกสตรอเบอรี่เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตบนพื้นที่สูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ผลของการใช้จุลินทรีย์จาวปลวกต่อการเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลัง ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตลองกอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair