สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการดูดซับน้ำมันของเยื่อกระดาษและตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน
Chaowalit Senanurakwarkul - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการดูดซับน้ำมันของเยื่อกระดาษและตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน
ชื่อเรื่อง (EN): A comparative study of the efficiency of oil adsorption between pulp and polypropylene
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Chaowalit Senanurakwarkul
บทคัดย่อ: วัสดุดูดซับน้ำมันเป็นวัสดุที่มีความจำเป็นในการลดความเสี่ยงอันตราย และการตอบโต้เหตุฉุกเฉินในการหก รั่วไหลของน้ำมันในโรงงานอุตสาหกรรม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบความสามารถในการดูดซับ น้ำมันที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษของตัวดูดซับที่ทำมาจากเยื่อกระดาษเปรียบเทียบกับวัสดุดูดซับ ชนิด โพลีโพรไพลีน โดยการทดลองนี้ได้ทำตัวดูดซับขึ้นมา 3 ชนิดจากเยื่อกระดาษมีลักษณะเป็นแผ่นขึ้นมา 2 ชนิด คือ ชนิด A และ ชนิด B โดยให้มีความแตกต่างของจำนวนชั้นของเยื่อกระดาษ และจากโพลีโพรไพลีน 1 ชนิด สำหรับน้ำมันที่จะนำมาทดสอบแบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ น้ำมันเบา, น้ำมันหนักปานกลาง และน้ำมันหนัก ซึ่งมีความ แตกต่างกันในค่าความหนืดและความหนาแน่น การทดสอบความสามารถในการดูดซับน้ำมัน จะวัดความสามารถ ของน้ำมันในหน่วย กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ในสภาวะคงที่โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือช่วงสั้น ใช้เวลา15 นาที และช่วงยาว ใช้เวลา 24 ชั่วโมง ผลการทดลองพบว่า ตัวดูดซับชนิด B มีความสามารถในการดูดซับน้ำมันทั้ง 3 ชนิด อยู่ในช่วง3.25-8.89 กรัม น้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งมีค่ามากกว่าตัวดูดซับชนิด A ที่มีความสามารถในการดูดซับน้ำมันอยู่ในช่วง 1.44-4.58 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งพบว่าความแตกต่างระหว่างจำนวนชั้นของเยื่อกระดาษชนิด A และชนิด B จะส่งผล ต่อความสามารถในการดูดซับน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามตัวดูดซับทั้งชนิด A และชนิด B มีค่าความสามารถในการดูด ซับน้ำมันทั้ง 3 ชนิด น้อยกว่าตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน ซึ่งมีค่าความสามารถในการดูดซับน้ำมันอยู่ในช่วง 9.79- 11.79 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งตัวดูดซับทั้ง 3 ชนิด จะมีค่าความสามารถในการดูดซับน้ำมันมากขึ้นเมื่อน้ำมัน มีค่าความหนาแน่นและความหนืดสูงขึ้น และมีเวลามากขึ้น ดังนั้นการศึกษานี้ขอเสนอแนะว่าการผลิตตัวดูดซับที่ทำมาจากเยื่อกระดาษต้องพิจารณาถึงการเพิ่มพื้นที่ ผิวสัมผัสและช่องว่างระหว่างตัวดูดซับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการดูดซับ นอกจากนี้ยังต้อง พิจารณาถึงความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์และของเสียที่เกิดจากการใช้งาน จะเห็นได้ว่าตัวดูดซับที่ทำจากเยื่อ กระดาษทั้ง 2 ชนิดมีความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์มากกว่าโพลีโพรไพลีน ดังนั้นจึงสรุปว่าตัวดูดซับที่ทำจากเยื่อ กระดาษมีความเหมาะสมกับการใช้งานเมื่อพิจารณาเรื่องราคาและประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำมัน
บทคัดย่อ (EN): light oil, medium oil and heavy oil. They were different in their viscosity and density. The oil adsorption efficiency was represented by gram oil per gram adsorbent. The adsorption time in this study was 15 minutes for short time and 24 hours for long time. Results revealed that the range of efficiency of oil adsorption of Type B adsorbent was better than that of Type A adsorbent. The range of Type B was 3.25 - 8.89 gram oil per gram adsorbent while type A was 1.44 - 4.58 gram oil per gram adsorbent. This study showed that the difference between Type A adsorbent and Type B adsorbent in the number of layers affected their oil adsorption efficiency. However, their range of oil adsorption efficiency was lower than that of polypropylene, which was 9.79 - 11.79 gram oil per gram adsorbent. Despite the fact that polypropylene showed better efficiency than pulp adsorbents, the pulp adsorbent was cheaper than polypropylene. The three adsorbents showed high oil adsorption efficiency when oil had high density and viscosity. It is recommended that the increasing in the surface area and gap of the adsorbent should be taken into account for the better quality of adsorbent. However, the optimal economy and the generated waste of adsorbent must be considered. From this study, both types of processed natural pulp showed higher advantage in the economic analysis than polypropylene. In conclusion, pulp can be the alternative way for utilizing as the adsorbent in terms of economic reason and the oil adsorption efficiency.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2646&obj_id=2395
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Pulping
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: วัสดุดูดซับน้ำมันเป็นวัสดุที่มีความจำเป็นในการลดความเสี่ยงอันตราย และการตอบโต้เหตุฉุกเฉินในการหก รั่วไหลของน้ำมันในโรงงานอุตสาหกรรม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบความสามารถในการดูดซับ น้ำมันที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษของตัวดูดซับที่ทำมาจากเยื่อกระดาษเปรียบเทียบกับวัสดุดูดซับ ชนิด โพลีโพรไพลีน โดยการทดลองนี้ได้ทำตัวดูดซับขึ้นมา 3 ชนิดจากเยื่อกระดาษมีลักษณะเป็นแผ่นขึ้นมา 2 ชนิด คือ ชนิด A และ ชนิด B โดยให้มีความแตกต่างของจำนวนชั้นของเยื่อกระดาษ และจากโพลีโพรไพลีน 1 ชนิด สำหรับน้ำมันที่จะนำมาทดสอบแบ่งเป็น 3 ชนิด ได้แก่ น้ำมันเบา, น้ำมันหนักปานกลาง และน้ำมันหนัก ซึ่งมีความ แตกต่างกันในค่าความหนืดและความหนาแน่น การทดสอบความสามารถในการดูดซับน้ำมัน จะวัดความสามารถ ของน้ำมันในหน่วย กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ในสภาวะคงที่โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือช่วงสั้น ใช้เวลา15 นาที และช่วงยาว ใช้เวลา 24 ชั่วโมง ผลการทดลองพบว่า ตัวดูดซับชนิด B มีความสามารถในการดูดซับน้ำมันทั้ง 3 ชนิด อยู่ในช่วง3.25-8.89 กรัม น้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งมีค่ามากกว่าตัวดูดซับชนิด A ที่มีความสามารถในการดูดซับน้ำมันอยู่ในช่วง 1.44-4.58 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งพบว่าความแตกต่างระหว่างจำนวนชั้นของเยื่อกระดาษชนิด A และชนิด B จะส่งผล ต่อความสามารถในการดูดซับน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามตัวดูดซับทั้งชนิด A และชนิด B มีค่าความสามารถในการดูด ซับน้ำมันทั้ง 3 ชนิด น้อยกว่าตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน ซึ่งมีค่าความสามารถในการดูดซับน้ำมันอยู่ในช่วง 9.79- 11.79 กรัมน้ำมันต่อกรัมตัวดูดซับ ซึ่งตัวดูดซับทั้ง 3 ชนิด จะมีค่าความสามารถในการดูดซับน้ำมันมากขึ้นเมื่อน้ำมัน มีค่าความหนาแน่นและความหนืดสูงขึ้น และมีเวลามากขึ้น ดังนั้นการศึกษานี้ขอเสนอแนะว่าการผลิตตัวดูดซับที่ทำมาจากเยื่อกระดาษต้องพิจารณาถึงการเพิ่มพื้นที่ ผิวสัมผัสและช่องว่างระหว่างตัวดูดซับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการดูดซับ นอกจากนี้ยังต้อง พิจารณาถึงความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์และของเสียที่เกิดจากการใช้งาน จะเห็นได้ว่าตัวดูดซับที่ทำจากเยื่อ กระดาษทั้ง 2 ชนิดมีความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์มากกว่าโพลีโพรไพลีน ดังนั้นจึงสรุปว่าตัวดูดซับที่ทำจากเยื่อ กระดาษมีความเหมาะสมกับการใช้งานเมื่อพิจารณาเรื่องราคาและประสิทธิภาพในการดูดซับน้ำมัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพการดูดซับน้ำมันของเยื่อกระดาษและตัวดูดซับชนิดโพลีโพรไพลีน
Chaowalit Senanurakwarkul
มหาวิทยาลัยมหิดล
2548
การดูดซับแก๊สโพรเพนด้วยตัวดูดซับชนิดถ่านที่เตรียมจากกะลามะพร้าวโดยการกระตุ้นด้วยซิงก์คลอไรด์ การศึกษาประสิทธิภาพการดูดซับแคดเมียมของตัวดูดซับชีวภาพที่ได้จากการตรึงชีวมวลสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล Sargassum polycystum ด้วยไคโตซานในระบบคอลัมน์ การทดสอบประสิทธิภาพของถ่านไม้ไผ่ในการใช้เป็นตัวดูดซับของเหลวไวไฟ ประสิทธิภาพในการดูดซับโลหะหนักโครเมียมโดยกากกาแฟที่ผ่านการใช้ประโยชน์ การใช้วัสดุดูดซับทางธรรมชาติในการกำจัดคราบน้ำมัน ประสิทธิภาพการดูดซับสารตะกั่วที่ปนเปื้อนในดินโดยใช้ธูปฤาษี ‪ ความสามารถของไม้ประดับบางชนิดในการดูดซับไนโตรเจนไดออกไซด์จากอากาศ การพัฒนาและปรับปรุงวัสดุดูดซับราคาถูกเพื่อใช้ในการดูดซับสีย้อมรีแอคทีฟ และสีย้อมเบสิก การใช้คลื่นอุลตราโซนิคช่วยกระบวนการคายสารดูดซับ สำหรับระบบดูดซับแบบของแข็งที่ใช้ถ่านกัมมันต์และเมทานอล การจำลองเครื่องลดความชื้นแบบหมุนโดยการดูดซับ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก