สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาสารยับยั้งการลงเกาะจากพืชทะเล
อรรถวุฒิ กันทะวงศ์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาสารยับยั้งการลงเกาะจากพืชทะเล
ชื่อเรื่อง (EN): Stydy of antifouling extracts from marine plants
บทคัดย่อ: ศึกษาสารยับยั้งการลงเกาะจากพืชทะเล 5 กลุ่มคือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดง และหญ้าทะเล จำนวน 36 ตัวอย่าง โดยนำไปสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน เอทธานอล และเมทธานอล ได้สารสกัด 108 สาร แล้วนำไปทดสอบการยับยั้งการลงเกาะกับสิ่งมีชีวิต 5 กลุ่ม ได้แก่ จุลชีพ สาหร่ายเซลล์เดียว สปอร์ของสาหร่าย หอยแมลงภู่ และเพรียง พบว่าสารสกัดจากพืชทะเลแต่ละชนิดสามารถยับยั้งการลงเกาะสิ่งมีชีวิตได้อย่างน้อย 1 ชนิด โดยสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้มีถึง 63.89% และกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้มากที่สุด สารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้โดดเด่นและยับยั้งในวงกว้างคือสารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทนจากหญ้าทะเล Cymodocea rotundata และสารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทนจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน Brachytrichia quoyi ที่สามารถยับยั้งเชื้อราได้ดีที่สุด สาหร่ายเซลล์เดียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อสารสกัดจากพืชทะเลมากที่สุด โดยสารสกัดจากพืชทะเลทุกชนิดสามารถยับยั้งสาหร่ายเซลล์เดียวได้ โดยสารสกัดจากกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารที่ยับยั้งได้ดีมากที่สุด สารสกัดจากพืชทะเล 63.89% สามารถยับยั้งการลงเกาะของสปอร์ของสาหร่าย Ulva intestinalis ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดง และหญ้าทะเล โดยสารสกัดด้วยเมทธานอลจากหญ้าทะเล Halophila pinifolia ยับยั้งการลงเกาะสปอร์ได้ดีที่สุด ในขณะที่จำนวนสารที่ยับยั้งการสร้าง byssus มีน้อยที่สุดคือ 20.37% โดยกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารที่ยับยั้งได้มากที่สุด และสารสกัดด้วยเมทธานอลจากหญ้าทะเล Cymodocea rotundata สามารถยับยั้งได้ดีที่สุด ในการทดสอบภาคสนามพบว่าสารที่ยับยั้งการลงเกาะของเพรียงในระยะเวลา 7 วัน มีจำนวนเพียง 8.33% ส่วนใหญ่มาจากสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง นอกจากนั้นยังพบว่าความแตกต่างของสารละลายที่ใช้ในการสกัด ความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ของสถานที่เก็บตัวอย่าง มีผลต่อการยับยั้งการลงเกาะที่แตกต่างกัน สารสกัดที่มีศักยภาพในการยับยั้งการลงเกาะสิ่งมีชีวิตที่ได้จากการศึกษานี้ มีความเหมาะสมที่จะนำไปพัฒนาเป็นสารยับยั้งการลงเกาะในอุตสาหกรรม เนื่องจากไม่แสดงความเป็นพิษต่ออาร์ทีเมีย ยกเว้นสารสกัดจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน Brachytrichia quoyi ที่เป็นพิษอย่างรุนแรง ผลการศึกษานี้ยังสามารถนำสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้ดี ไปพัฒนาไปใช้ประโยชน์ทางยาได้ด้วย นอกจากนั้นองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษานี้ยังมีความสำคัญต่อการศึกษาบทบาทของสารทางนิเวศวิทยา ซึ่งเชื่อว่าพืชทะเลมีการสร้างสารเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองศึกษาสารยับยั้งการลงเกาะจากพืชทะเล 5 กลุ่มคือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน สาหร่ายสีเขียว สาหร่ายสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดง และหญ้าทะเล จำนวน 36 ตัวอย่าง โดยนำไปสกัดด้วยไดคลอโรมีเทน เอทธานอล และเมทธานอล ได้สารสกัด 108 สาร แล้วนำไปทดสอบการยับยั้งการลงเกาะกับสิ่งมีชีวิต 5 กลุ่ม ได้แก่ จุลชีพ สาหร่ายเซลล์เดียว สปอร์ของสาหร่าย หอยแมลงภู่ และเพรียง พบว่าสารสกัดจากพืชทะเลแต่ละชนิดสามารถยับยั้งการลงเกาะสิ่งมีชีวิตได้อย่างน้อย 1 ชนิด โดยสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้มีถึง 63.89% และกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้มากที่สุด สารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้โดดเด่นและยับยั้งในวงกว้างคือสารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทนจากหญ้าทะเล Cymodocea rotundata และสารสกัดด้วยไดคลอโรมีเทนจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน Brachytrichia quoyi ที่สามารถยับยั้งเชื้อราได้ดีที่สุด สาหร่ายเซลล์เดียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความอ่อนไหวต่อสารสกัดจากพืชทะเลมากที่สุด โดยสารสกัดจากพืชทะเลทุกชนิดสามารถยับยั้งสาหร่ายเซลล์เดียวได้ โดยสารสกัดจากกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารที่ยับยั้งได้ดีมากที่สุด สารสกัดจากพืชทะเล 63.89% สามารถยับยั้งการลงเกาะของสปอร์ของสาหร่าย Ulva intestinalis ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล สาหร่ายสีแดง และหญ้าทะเล โดยสารสกัดด้วยเมทธานอลจากหญ้าทะเล Halophila pinifolia ยับยั้งการลงเกาะสปอร์ได้ดีที่สุด ในขณะที่จำนวนสารที่ยับยั้งการสร้าง byssus มีน้อยที่สุดคือ 20.37% โดยกลุ่มหญ้าทะเลมีจำนวนสารที่ยับยั้งได้มากที่สุด และสารสกัดด้วยเมทธานอลจากหญ้าทะเล Cymodocea rotundata สามารถยับยั้งได้ดีที่สุด ในการทดสอบภาคสนามพบว่าสารที่ยับยั้งการลงเกาะของเพรียงในระยะเวลา 7 วัน มีจำนวนเพียง 8.33% ส่วนใหญ่มาจากสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง นอกจากนั้นยังพบว่าความแตกต่างของสารละลายที่ใช้ในการสกัด ความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ของสถานที่เก็บตัวอย่าง มีผลต่อการยับยั้งการลงเกาะที่แตกต่างกัน สารสกัดที่มีศักยภาพในการยับยั้งการลงเกาะสิ่งมีชีวิตที่ได้จากการศึกษานี้ มีความเหมาะสมที่จะนำไปพัฒนาเป็นสารยับยั้งการลงเกาะในอุตสาหกรรม เนื่องจากไม่แสดงความเป็นพิษต่ออาร์ทีเมีย ยกเว้นสารสกัดจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน Brachytrichia quoyi ที่เป็นพิษอย่างรุนแรง ผลการศึกษานี้ยังสามารถนำสารสกัดที่ยับยั้งจุลชีพได้ดี ไปพัฒนาไปใช้ประโยชน์ทางยาได้ด้วย นอกจากนั้นองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษานี้ยังมีความสำคัญต่อการศึกษาบทบาทของสารทางนิเวศวิทยา ซึ่งเชื่อว่าพืชทะเลมีการสร้างสารเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง
บทคัดย่อ (EN): The antifouling activity of 5 groups of marine plants; blue-green algae, green algae, brown algae, red algae and seagrass totally 36 specimens were studied. Dichloromethane, ethanol and methanol extracts totally 108 extracts were tested against 5 groups of organisms such as microorganisms, microalgae, spore of macroalgae, mussels and barnacles. The results were indicated that most of the extracts exhibited antifouling activities against at least one tested organisms. The extracts showed antimicrobial activity about 63.89% and almost found in seagrass extracts. The potent and broad antimicrobial activity were possessed by the dichloromethane extracts of seagrass, Cymodocea rotundata and the blue green algae, Brachytrichia quoyi showed potent antifungal activity. Microalgae were the most sensitive organisms against the extracts. Most of the extracts showed antmicroalgal activity especially the potent activity of seagrass extracts. The extracts showed the inhibition of Ulva intestinalis’ s spore settlement about 63.89% and almost from brown algae, red algae and seagrass. The potent anti-spore settlement activity was possessed by the methanol extract from seagrass, Halophila pinifolia. The inhibition of byssus production was found only 20.37% mostly from seagrass extracts. The extracts from Cymodocea rotundata showed potent activity in the inhibition of byssus production. The field experiment revealed that only 8.33% of the extracts were inhibited the settlement of barnacle within 7 days and mostly from red algae extracts. Moreover the results were indicated that the variation of antifouling activity was also depend on the solvent for extraction and the geographical of sample collection. The antifouling extracts from this study were suitable to develop as commercial antifoulants because they showed no toxicity with brine shrimp. The most toxic extracts were only found from blue green algae, Brachytrichia quoyi. The results of antimicrobial extracts from marine plants also beneficial for the development of biomedicine. The knowledge from this study was also important for the study of the role of the metabolites from plants in marine ecosystem. The results were suggested that the marine plants had the chemical defenses to protect themselves.The antifouling activity of 5 groups of marine plants; blue-green algae, green algae, brown algae, red algae and seagrass totally 36 specimens were studied. Dichloromethane, ethanol and methanol extracts totally 108 extracts were tested against 5 groups of organisms such as microorganisms, microalgae, spore of macroalgae, mussels and barnacles. The results were indicated that most of the extracts exhibited antifouling activities against at least one tested organisms. The extracts showed antimicrobial activity about 63.89% and almost found in seagrass extracts. The potent and broad antimicrobial activity were possessed by the dichloromethane extracts of seagrass, Cymodocea rotundata and the blue green algae, Brachytrichia quoyi showed potent antifungal activity. Microalgae were the most sensitive organisms against the extracts. Most of the extracts showed antmicroalgal activity especially the potent activity of seagrass extracts. The extracts showed the inhibition of Ulva intestinalis’ s spore settlement about 63.89% and almost from brown algae, red algae and seagrass. The potent anti-spore settlement activity was possessed by the methanol extract from seagrass, Halophila pinifolia. The inhibition of byssus production was found only 20.37% mostly from seagrass extracts. The extracts from Cymodocea rotundata showed potent activity in the inhibition of byssus production. The field experiment revealed that only 8.33% of the extracts were inhibited the settlement of barnacle within 7 days and mostly from red algae extracts. Moreover the results were indicated that the variation of antifouling activity was also depend on the solvent for extraction and the geographical of sample collection. The antifouling extracts from this study were suitable to develop as commercial antifoulants because they showed no toxicity with brine shrimp. The most toxic extracts were only found from blue green algae, Brachytrichia quoyi. The results of antimicrobial extracts from marine plants also beneficial for the development of biomedicine. The knowledge from this study was also important for the study of the role of the metabolites from plants in marine ecosystem. The results were suggested that the marine plants had the chemical defenses to protect themselves.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: สารยับยั้งการลงเก
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาสารยับยั้งการลงเกาะจากพืชทะเล
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
การเปลี่ยนแปลงตามเวลาของประชาคมไดอะตอมในแนวสาหร่ายทะเล บริเวณเกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี แมลงน้ำของเกาะช้าง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด การสำรวจชนิดพันธุ์ต่างถิ่นในพื้นที่เกาะช้างและหมู่เกาะใกล้เคียง จังหวัดตราด การศึกษาเปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพ ของกลุ่มฟอแรมมินิเฟอร่าในระบบนิเวศทางทะเลของเกาะขาม (หมู่เกาะแสมสาร) กับเกาะขามน้อย (หมู่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี : รายงานฉบับสมบูรณ์ องค์ประกอบชนิดของแพลงก์ตอนพืชทะเล และแพลงก์ตอนสัตว์ทะเล บริเวณแหล่งปะการังเทียมบ้านเกาะมุก จังหวัดตรัง ความหลากหลายทางชีวภาพของแพลงก์ตอนทะเลบริเวณหาดนางรอง เกาะจระเข้ และหมู่เกาะจวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ความหลากหลายทางชีวภาพของกุ้ง ปู และกั้ง บริเวณหาดนางรอง เกาะจระเข้ เกาะจวง และเกาะแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี (ภายใต้แผนงานวิจัย "โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพร ความหลากหลายทางชีวภาพของโคพีพอดและไมซิด บริเวณหาดนางรอง เกาะจระเข้และกลุ่มเกาะจวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี การพัฒนาองค์ความรู้และต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน : กรณีศึกษาไอศกรีมข้าวกล้องของตำบลเกาะคา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง การทดแทนประชากรและอัตรารอดภายหลังลงเกาะของปะการังวัยอ่อนในแนวปะการังน้ำตื้น บริเวณเกาะมันใน จังหวัดระยอง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก