สืบค้นงานวิจัย
ผลของการจัดการซากอ้อย และพืชปุ๋ยสดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจน การกักเก็บคาร์บอนและผลผลิตอ้อยในดินทรายแบบเกษตรกรมีส่วนร่วม
อรรณพ พุทธโส - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ผลของการจัดการซากอ้อย และพืชปุ๋ยสดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจน การกักเก็บคาร์บอนและผลผลิตอ้อยในดินทรายแบบเกษตรกรมีส่วนร่วม
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of Sugarcane Residue and Green manure Management on Nitrogen transformation, Carbon Sequestration and Yield of sugarcane in sandy soils with Farmer’s Participatory Action
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดการซากถั่วลิสง และการจัดการปุ๋ยเคมีต่ออัตราการสลายตัวซากถั่วลิลง การปลดปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ การปลดปล่อยไนโตรเจน และ ผลผลิตอ้อย โดยมีกรรมวิธีการจัดการ 2 วิธี คือ 1) การจัดการซากถั่วลิสง โดยวิธีการไถกลบ และการคลุมแปลง และ 2) การจัดการปุ๋ยเคมี โดยใส่ ? ของอัตราแนะนำ และใส่ตามอัตราแนะนำ จากผลการศึกษาปลูกถั่วลิสง พบว่า ถั่วลิสงมีน้ำหนักแห้งโดยเฉลี่ยเท่ากับ 1,992 กิโลกรัมต่อไร่ จากผลการศึกษาการจัดการซากถั่วลิสง พบว่า วิธีการไถกลบทำให้อัตราการสลายตัวของซากถั่วลิสงเกิดขึ้นเร็วกว่าวิธีการคลุมแปลง และเมื่อสิ้นสุดการทดลอง (14 สัปดาห์) มีน้ำหนักแห้งเหลืออยู่ในช่วง 6.6 – 6.7 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักเริ่มต้น และการใส่ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะนำส่งผลให้มีอัตราการสลายตัวเร็วกว่าการใส่ปุ๋ยเคมี ? ของอัตราแนะนำ ผลนี้ชี้ว่า การจัดการซากถั่วลิสงโดยการไถกลบและการใส่ปุ๋ยเคมีตามอัตราแนะนำส่งผลให้มีการสลายตัวได้เร็วกว่าการใส่ปุ๋ยเคมีในอัตรา ? ของอัตราแนะนำ นอกจากนี้ การไถกลบซากถั่วลิสงทำให้เกิดการปลดปล่อยไนโตรเจนสุทธิทันทีในช่วง 2 สัปดาห์แรก ซึ่งสหสัมพันธ์ในทางบวกกับปริมาณไนโตรเจนที่มีอยู่สูงในซากถั่วลิสง ซึ่งส่งผลให้ไนโตรเจนทั้งในรูปแอมโมเนียมและไนเตรทมีปริมาณสูงสุดในสัปดาห์ที่ 1 และ 4 สำหรับแอมโมเนียม และไนเตรท ตามลำดับ และพบว่า การจัดการซากถั่วลิสงและปุ๋ยเคมีส่งผลให้ปริมาณการปลดปล่อย CO2 สะสม (ตลอด 8 สัปดาห์) สูงสุดในดินที่มีการจัดการซากถั่วลิสงโดยวิธีการไถกลบ (21.37 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน) รองลงมา คือ การคลุม (11.76 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน) ส่วนดินที่มีการจัดการปุ๋ยในอัตรา ? ของอัตราแนะนำ มีการปลดปล่อย CO2 สะสมต่ำกว่าการใส่ปุ๋ยในอัตราแนะนำ ดินที่มีปริมาณการปลดปล่อย CO2 สะสมสูงส่งผลให้ดินมีการสะสมอินทรีย์คาร์บอนในดินลดลง จากผลการศึกษาการปลูกถั่วลิสง การจัดการซากถั่วลิสงหลังเก็บเกี่ยว และการจัดการปุ๋ยเคมีในดินที่ปลูกอ้อย พบว่า ผลผลิตอ้อยโดยพิจารณาจากน้ำหนักแห้งไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ แต่อย่างไรก็ตาม ดินที่มีการจัดการไถกลบซากถั่วลิสง และการใส่ปุ๋ยอัตรา ? ของอัตราแนะนำมีแนวโน้มให้น้ำหนักแห้งอ้อยสูงกว่าวิธีการคลุม และการใส่ปุ๋ยในอัตราแนะนำ ผลนี้ สะท้อนให้เห็นว่า การจัดการซากถั่วลิสงโดยวิธีการไถกลบส่งผลให้มีการปลดปล่อยธาตุอาหารไนโตรเจนได้ทันทีตามความต้องการของพืช ในขณะการคลุมดินด้วยซากถั่วลิสงซึ่งมีอัตราการสลายต่ำ การปลดปล่อยไนโตเจนล่าช้า และปลดปล่อยก๊าช CO2 สะสมต่ำ เป็นวิธีที่นำไปสู่การเพิ่มปริมาณอินทรีย์คาร์บอนในดิน และการจัดการธาตุอาหารไนโตรเจนที่เหมาะสมกับการจัดการปุ๋ยในการปลูกอ้อย
บทคัดย่อ (EN): The objective of this study was to investigate the effect of groundnut stover management and chemical fertilizer application rate on decomposition rate, carbon dioxide evolution, nitrogen release and sugarcane yield. The treatments were separated into 2 factors consisting 1) groundnut stover management by incorporation and mulching and 2) chemical fertilizer application at the rate of recommendation and ? of recommended rate. The result found that the average of dry weight biomass of groundnut residue was 1,992 kg rai-1. Result of groundnut stover management found that decomposition rate of groundnut stover was faster in incorporation than mulching; at the end of experiment (14 weeks) the weight remaining was ranged from 6.6 – 6.7 % of initial weight. We also found that the decomposition rate was faster in soil applied recommended fertilizer rate than ? of recommended fertilizer rate. This result stated that the residue management both incorporation and applied with fertilizer rate led to increase in decomposition rate as compared to the ? of recommended fertilizer rate. In addition, groundnut stover incorporation led to immediately increase and released net N mineralization during the 2 weeks after incorporation which had positive correlated with high N in residue. The N release pattern led to increase in ammonium and nitrate with highest in week 1 and 4 after incorporation. In addition, the result found the residue and fertilizer management affected on CO2 evolution by the cumulative CO2 evolution throughout 8 weeks had highest in soil incorporated with groundnut stover (21.37 mg kg-1 day-1) followed by mulching (11.76 mg kg-1 day-1). While the soil applied with ? of recommended fertilizer rate had lower cumulative CO2 evolution than soil applied with recommended fertilizer rate. The high cumulative CO2 evolution led decreased in organic carbon in soil. Considering on yield of sugarcane (dry weight of biomass) was not found significantly different under the management of groundnut stover and fertilizer rate application. However, we found the trend of yield production had higher in the incorporation management and applied with ? of recommended fertilizer rate than mulching and applied recommended fertilizer rate. Our results summarized that the groundnut stover incorporation is to be used for stimulation of N release which response to plant requirement. While mulching management which low on decomposition rate, slow N release and low cumulative CO2, is to be considered in order to increase in soil organic carbon and nitrogen management related to fertilizer application management in sugarcane plantation.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: พืชปุ๋ยสด
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อรรณพ พุทธโส. "ผลของการจัดการซากอ้อย และพืชปุ๋ยสดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจน การกักเก็บคาร์บอนและผลผลิตอ้อยในดินทรายแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมEffects of Sugarcane Residue and Green manure Management on Nitrogen transformation, Carbon Sequestration and Yield of sugarcane in sandy soils with Farmer’s Participatory Action". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559

อรรณพ พุทธโส. "ผลของการจัดการซากอ้อย และพืชปุ๋ยสดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจน การกักเก็บคาร์บอนและผลผลิตอ้อยในดินทรายแบบเกษตรกรมีส่วนร่วมEffects of Sugarcane Residue and Green manure Management on Nitrogen transformation, Carbon Sequestration and Yield of sugarcane in sandy soils with Farmer’s Participatory Action". กรมพัฒนาที่ดิน. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
ผลของการจัดการซากอ้อย และพืชปุ๋ยสดต่อการเปลี่ยนแปลงไนโตรเจน การกักเก็บคาร์บอนและผลผลิตอ้อยในดินทรายแบบเกษตรกรมีส่วนร่วม
อรรณพ พุทธโส
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การดูดใช้ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ และสัดส่วน N:S ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยผลผลิตสูง การใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูอ้อย ของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยส่งโรงงานในจังหวัดอุดรธานี ศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในดินและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการไถกลบพืชปุ๋ยสดในภาคเหนือ ศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในดินและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการไถกลบพืชปุ๋ยสดในภาคกลาง การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง ศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในดินและการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการ ไถกลบพืชปุ๋ยสดในแต่ละภาคของประเทศไทย การใช้เทคโนโลยีการผลิตอ้อยของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยส่งโรงงานในจังหวัดเลย การกักเก็บคาร์บอนอินทรีย์และไนโตรเจนรวมในดินนาบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทย ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับผลิตภาพในการผลิตอ้อยของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในจังหวัดเพชรบูรณ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair