สืบค้นงานวิจัย
การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว ของเกษตรกรรายย่อยใน จ.ตรัง
เวคิน โรจนรัตน์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว ของเกษตรกรรายย่อยใน จ.ตรัง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เวคิน โรจนรัตน์
บทคัดย่อ: ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจพืชหนึ่งที่มีความสำคัญ ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนเป็นรายได้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งในแต่ละปีรายได้สูงกว่าพืชเศรษฐกิจบางชนิดพืชที่สำคัญของจังหวัดตรัง และในโอกาสข้างหน้านับวันที่จะมีการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่นาร้าง นาดอน สวนยางพาราหรือที่รกร้างว่างเปล่า ที่ราบลุ่มมีน้ำขังตลอดปี ซึ่งเกษตรกรได้นำพื้นที่ดังกล่าวมาปลูกปาล์มน้ำมันทดแทน ทั้งนี้เนื่องจากภาวะราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันเฉลี่ยตลอดทั้งปีมีราคาค่อนข้างสูง และพึงพอใจของเกษตรกรอยู่ระดับหนึ่งแต่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันของจังหวัดตรังส่วนใหญ่ได้รับผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ยังอยู่ระดับค่อนข้างต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตเฉลี่ยของประเทศมาเลเซีย ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเพื่อต้องการให้ทราบว่าเกษตรกรรายผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในจังหวัดตรัง มีการใช้เทคโนโลยีในการจัดการสวนปาล์มน้ำมันถูกต้องตามคำแนะนำของหลักวิชาการถูกต้องหรือไม่อย่างไรและต้องการทราบว่าผลผลิตที่เกษตรกรรายย่อยได้รับของแต่ละช่วงอายุปาล์มน้ำมันมีความแตกต่างกันอย่างไร ตลอดจนความต้องการของเกษตรกรรายย่อยที่จะให้ภาคราชการมีการสนับสนุนและแก้ปัญหาให้ตรงประเด็น ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้มีการศึกษาจากเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้วใน จังหวัดตรัง ของ 6 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ จำนวน 110 ราย และ ดำเนินการคัดเลือกเอาเฉพาะที่เกษตรกรรายย่อยกรอกข้อมูลตามแบบสอบถามครบถ้วนและถูกต้องเท่านั้นให้เหลือเพียงจำนวน 100 ราย ผลจากการศึกษาพบว่าเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้วในจังหวัดตรัง ส่วนใหญ่ร้อยละ 40 มีอายุอยู่ระหว่าง 41-50 ปี และร้อยละ 52 มีการศึกษาชั้นระดับประถมศึกษา ป.4 - ป.7 ร้อยละ 75 สมาชิกในครัวเรือนที่อยู่รวมกันจำนวน 4-6 คนและเป็นวัยแรงงาน จำนวน 1-3 คน ร้อยละ 27 เกษตรกรรายย่อยมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด ขนาด 41-60 ไร่ และร้อยละ 38 มีการทำสวนปาล์มน้ำมัน ขนาด 1-20 ไร่ และร้อยละ 52 ปาล์มน้ำมัน มีอายุ 4-6 ปี ร้อยละ 61 มีการปลูกปาล์มน้ำมันในสภาพพื้นที่ราบและร้อยละ 92 สภาพความอุดมสมบูรณ์ของดินอยู่ระดับปานกลาง สำหรับพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรรายย่อยนิยมปลูกเป็นพันธุ์เทเนอร่า ร้อยละ 62 โดยมีการซื้อต้นกล้าพันธุ์ชำรุงแล้วมาปลูก ร้อยละ 90 เฉลี่ยราคาต้นละ 30-40 ส่วนความรู้ในการคัดเลือกพันธุ์ ร้อยละ 66 ไม่มีความรู้ และ ร้อยละ 57 มีการใส่ปุ๋ยเคมีของช่วงอายุปาล์มน้ำมันปาล์มน้ำมันมีการใส่ จำนวน 2 ครั้งต่อปี ร้อยละ 54 โดยได้รับความรู้การใส่ปุ๋ยเคมีจากหลายแหล่งรวมกัน และมีการใส่ปุ๋ยเคมีครั้งที่ 1 ช่วงเดือน พฤษภาคม ครั้งที่ 2 ช่วงเดือนพฤศจิกายน อัตราการใส่ปุ๋ยเคมีจำนวนน้ำหนักต่อต้นของช่วงอายุปาล์มน้ำมัน 4-6 ปี จำนวน 6.0-7.9 กิโลกรัม อายุปาล์มน้ำมัน 10-12 ปี จำนวน 4.0-5.9 กิโลกรัมและปาล์มน้ำมันอายุ 12 ปี ขึ้นไป จำนวน 6.0-7.9 กิโลกรัม สำหรับสูตรปุ๋ยเคมีที่ใช้ในปาล์มน้ำมันอายุ 4-6 ปี ใช้สูตร 15-15-15 ปาล์มน้ำมันอายุ 7-9 ปี มีการใช้ปุ๋ยสูตร 0-0-60 ควบคุมคู่กับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือสูตร 21-0-0 ส่วนปาล์มน้ำมันอายุ 10-12 ปี และ12 ปี ขึ้นไปมีการใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 สำหรับปุ๋ยคอกเกษตรกรรายย่อยร้อยละ 88 ไม่มีการใส่ ส่วนร้อยละ 12 ที่มีการใส่ปุ๋ยคอกพบว่า ร้อยละ 6 ใส่ในปาล์มน้ำมันอายุ 4-6 ปี ร้อยละ 5 ใส่ในปาล์น้ำมันอายุ 7-9 ปี และร้อยละ 1 ใส่ในปาล์มน้ำมันอายุ 10-12 ปี อัตราจำนวนปุ๋ยคอกที่ใส่จำนวน 10 กิโลกรัม การเก็บตัวอย่างดินและใบปาล์มน้ำมันส่งการวิเคราะห์ของเกษตรกร รายย่อย ร้อยละ 57 ไม่มีการเก็บตัวอย่างดินและใบปาล์มน้ำมัน สำหรับเกษตรกรรายย่อยที่มีการเก็บตัวอย่างดินและใบปาล์มน้ำมันส่วนใหญ่ร้อบละ 37 มีการจัดเก็บในช่วง เดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ โดยเจ้าหน้าที่ของทางราชการเป็นผู้จัดเก็บให้และมีหลายสาเหตุที่เกษตรกรรายย่อยไม่ใส่ปุ๋ยเคมีตามผลการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมัน เช่น ได้รับผลการวิเคราะห์ล่าช้า ไม่มีความรู้การอ่านแปลค่าผลการวิเคราะห์ ปุ๋ยราคาแพง ยุ่งยากต่อการใส่ขาดเงินทุนดังนั้นการนำผลการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมันจึงอยู่ในระดับปานกลางในการควบคุมวัชพืช ร้อยละ 97 มีการปราบวัชพืชปีละ 2 ครั้ง ก่อนการใส่ปุ๋ยเคมีช่วงเดือนพฤษภาคมและพฤศจิกายน โดยใช้วิธีผสมผสาน คือ การใช้สารเคมีและการเขตกรรมสำหรับการระบาดในระดับน้อยและร้อยละ 52 และไม่มีการป้องกันกำจัด ส่วนสัตว์ศัตรูที่ทำลายในสวนปาล์มน้ำมัน ร้อยละ 91 หนูเป็นสัตวศัตรูที่สำคัญ และร้อยละ 44 มีการใช้สารเคมีป้องกันกำจัด การตัดแต่งทางใบปาล์มน้ำมันร้อยละ 97 มีการตัดแต่ง ร้อยละ 66 โดยตัดแต่งปีละ 1 ครั้ง และทุกช่วงอายุปาล์มน้ำมันมีการตัดแต่งทางใบโดยตัดแต่งทางใบในช่วงเดือนพฤษภาคม เมื่อตัดแต่งทางใบแล้วร้อยละ 92 มีการวางเรียงระหว่างแถว / ต้น ในระบบการให้น้ำในสวนปาล์มน้ำมันร้อยละ 93 ไม่มีการจัดระบบการให้น้ำ ร้อยละ 7 มีระบบการให้น้ำโดยการใช้สปริงเกอร์ ร้อยละ 5 ทำคูท่วมแปลง ร้อยละ 2 สำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บเกี่ยว ร้อยละ 95 โดยใชเสียมแทงซึ่งผลผลิตที่ได้รับน้ำหนักเฉลี่ยต่อไร่ของช่วงอายุปาล์มน้ำมัน ดังนี้ ปาล์มน้ำมันอายุ 4-6 ปี น้ำหนัก 501-800 กิโลกรัม ปาล์มน้ำมันอายุ 7-9 ปี น้ำหนัก 2,301-2,600 กิโลกรัม ปาล์มน้ำมันอายุ 10-12 ปี น้ำหนักเกิน 2,600 กิโลกรัม ปาล์มน้ำมันอายุเกิน 12 ปี น้ำหนัก 2,301-2,600 กิโลกรัม ส่วนปัญหาในการจำหน่ายผลผลิตปาล์มน้ำมันร้อยละ 76 มีปัญหาสำหรับที่พบในการทำสวนปาล์มน้ำมัน ร้อยละ 48 ปัญหามาจากราคาผลผลิตต่ำซึ่งเกษตรกรไม่พึงพอใจ ร้อยละ 25 ปัญหามาจากขาดแคลนแรงงานและร้อยละ 17 ปัญหาจากการขนส่งทางคมนาคมไม่สะดวก สำหรับปัญหาอุปสรรคในการทำสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้วในจังหวัดตรัง ซึ่งส่วนใหญ่สามารถแบ่งแยกออกได้ 3 ประเด็น กล่าวคือประเด็นพื้นฐานของเกษตรกรมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งนี้เนื่องมาจากเกษตรกรรายย่อยได้มีการประกอบอาชีพทางการเกษตรหลายกิจกรรมเพื่อเป็นรายได้เสริม ปัญหาสภาพพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อย มีสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบเอียงซึ่งจะประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปัญหาสภาพความสมบูรณ์ของดินในสวนปาล์มน้ำมันของตรัง พบว่าส่วนใหญ่สภาพความสมบูรณ์ของดินอยู่ในดินระดับปานกลางซึ่งมีสภาพความเป็นกรด-ด่าง ในช่วงระดับ 4-4.5 ดังนั้นจึงต้องมีการเร่งรัดปรับปรุงบำรุงดิน ส่วนประเด็นการใช้เทคโนโลยีในการทำสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าปัญหาของ เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้วในจังหวัดตรัง ไม่มีความรู้ในการคัดเลือกพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่นำไปปลูก และปัญหาที่เกษตรกรรายย่อย ไม่มีการใส่ปุ๋ยเคมีตามผลการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมัน อันเนื่องมาจากผลการวิเคราะห์ดินและใบปาล์มน้ำมัน เกษตรกรรายย่อยได้รับล่าช้าไม่ทันต่อช่วงฤุดูกาลไม่มีความรู้การอ่านแปลค่าผลการวิเคราะห์ปุ๋ยราคาแพงและหาซื้อได้ยากในท้องตลาดขาด มีความยุ่งยากต่อการปฏิบัติขาดเงินทุนและประเด็นป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: จังหวัดตรัง
หมวดหมู่:
  1. TARR::พืช::พืชน้ำมัน::ปาล์มน้ำมัน
  2. 34
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมส่งเสริมการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

เวคิน โรจนรัตน์. "การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว ของเกษตรกรรายย่อยใน จ.ตรัง". กรมส่งเสริมการเกษตร. ม.ป.ป.

เวคิน โรจนรัตน์. "การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว ของเกษตรกรรายย่อยใน จ.ตรัง". กรมส่งเสริมการเกษตร. ม.ป.ป.. Print.



TARR Wordcloud:
การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว ของเกษตรกรรายย่อยใน จ.ตรัง
เวคิน โรจนรัตน์
กรมส่งเสริมการเกษตร
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
การศึกษาวิธีการปรับปรุงพันธุ์ปลานิลของเกษตรกรรายย่อยใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดกระบี่ การใช้เทคโนโลยีในสวนปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้วของเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดพังงา การปฏิบัติดูแลรักษาสวนปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อย จังหวัดกระบี่และจังหวัดสตูล ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดชุมพร ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้เทคโนโลยีปรับปรุงคุณภาพผลผลิตมังคุดของเกษตรกรในจังหวัดตรัง โครงการพัฒนากลุ่มเกษตรกรรายย่อยอย่างมีส่วนร่วมในการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน GAP และ RSPO ปีที่ 2 สภาพการผลิตและการตลาดปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดกระบี่ การศึกษาภาวะความเป็นผู้นำของเกษตรกรรายย่อย กรณีศึกษาจากผลการอบรมผู้แทนเกษตรกรรายย่อย การขุนโค สำหรับเกษตรกรรายย่อย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair