สืบค้นงานวิจัย
การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดรับประทานฝักสดโดยวิธีเขตกรรม (ข้าวโพดหวาน)
เอ็จ สโรบล, สุรพล เช้าฉ้อง, สุปราณี งามประสิทธิ์, ชูศักดิ์ จอมพุก - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดรับประทานฝักสดโดยวิธีเขตกรรม (ข้าวโพดหวาน)
ชื่อเรื่อง (EN): Cultural for Improving Yield and Quality of Corn for Fresh Ear Consumption (Sweet Corn)
บทคัดย่อ: การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกข้าวโพดหวานเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี ดังนั้นการทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพดหวานเมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีในอัตราที่แตกต่างกัน โดยวางแผนการทดลองแบบ Split-split plot in RCB ทำจำนวน 3 ซ้ำ มี main plot คือ ชนิดปุ๋ย 3 ประเภท (มูลไก่ มูลวัว และปุ๋ยเคมี) ส่วน sub-plot คือ อัตราปุ๋ย 3 อัตรา (สำหรับ มูลไก่ และมูลวัว คือ 0 , 500 และ 1000 กก./ไร่ ส่วนปุ๋ยเคมี คือ 0, 25 และ 50 กก./ไร่) และ sub-sub plot คือ พันธุ์ข้าวโพดหวาน 3 พันธุ์ (พันธุ์อินทรี 2, ซูการ์ 75 และพันธุ์ KSSC 604) โดยปลูก 4 ครั้ง (2 ฤดูๆ ละ 2 แปลง) ผลการทดลองพบว่า การปลูกทั้ง 4 ครั้ง ให้ความแตกต่างกันทางสถิติของลักษณะผลผลิตและคุณภาพ ส่วนชนิดของปุ๋ย พบว่าผลผลิตและคุณภาพไม่มีความแตกต่างระหว่างการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการปลูกทั้ง 4 ครั้งกับชนิดของปุ๋ยที่ใช้ ด้านอัตราปุ๋ยที่ใช้พบว่า น้ำหนักฝักทั้งเปลือก น้ำหนักฝักปอกเปลือก จำนวนฝักดี และน้ำหนักต้นสดต่อไร่ มีความแตกต่างกันทางสถิตอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ อัตราปุ๋ยสูงสุดให้ผลตอบสนองสูงที่สุด โดยการปลูกทั้ง 4 ครั้งให้ผลเหมือนกัน ส่วนพันธุ์ข้าวโพดหวานทั้ง 3 พันธุ์ พบว่า มีความแตกต่างทางสถิติของลักษณะน้ำหนักฝักทั้งเปลือก น้ำหนักฝักปอกเปลือก ฝักขนาดกลาง น้ำหนักต้นสด และความหวาน กล่าวคือ พันธุ์ซูกา 75 และพันธุ์ KSSC 604 ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักปอกเปลือก ฝักขนาดกลาง สูงกว่า พันธุ์อินทรี 2 แต่พันธุ์ KSSC 604 และพันธุ์อินทรี 2 ให้น้ำหนักต้นสดสูงสุด ส่วนความหวานพบว่า พันธุ์อินทรี 2 ให้ความหวานสูงสุด (15.45?บริกซ์) และพันธุ์ซูการ์ 75 มีความหวานต่ำสุด (13.91?บริกซ์) นอกจากนี้พบว่าไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการปลูกทั้ง 4 ครั้งกับพันธุ์ จากการทดลองนี้พอจะชี้ให้เห็นว่า ชนิดของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี มีผลต่อผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพดหวานเหมือนกัน และผลผลิตของข้าวโพดหวานจะเพิ่มขึ้นเมื่อใช้ปุ๋ยในอัตราที่สูง การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีเพื่อการผลิตข้าวโพดหวาน ดำเนินการทดลอง ณ ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราของปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีที่มีต่อผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพดหวาน และแนวทางการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี วางแผนการทดลองแบบ Split-split plot in RCB D มี 3 ซ้ำ มี main plot คือ ชนิดปุ๋ย 3 ประเภท (มูลไก่ มูลวัว และปุ๋ยเคมี) ส่วน sub-plot คือ อัตราปุ๋ย 3 อัตรา (สำหรับ มูลไก่ และมูลวัว คือ 0 , 500 และ 1000 กก./ไร่ ส่วนปุ๋ยเคมี คือ 0, 25 และ 50 กก./ไร่) และ sub-sub plot คือ พันธุ์ข้าวโพดหวาน 3 พันธุ์ (พันธุ์อินทรี 2, ชูการ์ 75 และ KSSC 604) โดยปลูก 2 ฤดู (ต้นฤดูฝนและฤดูฝน) ผลการทดลองทั้ง 2 ฤดูปลูก พบว่า ชนิดและอัตราปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีให้ผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดหวานไม่แตกต่างกันทางสถิติ และไม่มีปฏิสัมพันธ์ แต่ระหว่างชนิดและอัตราปุ๋ยของการปลูกแต่ละฤดูให้ผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดหวานแตกต่างกันทางสถิติ กล่าวคือ การปลูกข้าวโพดหวานในฤดูต้นฝนจะได้ผลผลิตและคุณภาพสูงกว่าในฤดูฝนทุกลักษณะ ส่วนพันธุ์ข้าวโพดหวานทั้ง 3 พันธุ์ พบว่า มีความแตกต่างทางสถิติทั้งผลผลิตและคุณภาพ โดยพันธุ์ KSSC 604 ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักทั้งเปลือก น้ำหนักฝักปลอกเปลือก และน้ำหนักฝักมาตรฐานสูงสุด พันธุ์อินทรี 2 ให้คุณภาพด้านฝักขนาดใหญ่และความหวานสูงสุด ส่วนพันธุ์ชูการ์ 75 มีความหวานต่ำสุด การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกข้าวโพดหวานเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตและการใช้ปุ๋ยเคมี ดังนั้นการทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพดหวานเมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีในอัตราที่แตกต่างกัน โดยวางแผนการทดลองแบบ Split-split plot in RCB ทำจำนวน 3 ซ้ำ มี main plot คือ ชนิดปุ๋ย 3 ประเภท (มูลไก่ มูลวัว และปุ๋ยเคมี) ส่วน sub polt คือ อัตราปุ๋ย 3 อัตรา (สำหรับมูลไก่ และมูลวัว คือ 0, 500, และ 1,000 กก./ไร่ ส่วนปุ๋ยเคมี คือ 0, 25 และ 50 กก./ไร่) และ sub-sub plot และพันธุ์ข้าวโพดหวาน 3 พันธุ์ (พันธุ์อินทรี 2, พันธุ์ชูการ์ 75 และพันธุ์KSSC 604) โดยปลูก 4 ครั้ง (2 ฤดู ๆ ละ 2 แปลง) ผลการทดลองพบว่า การปลูกทั้ง 4 ครั้ง ให้ความแตกต่างกันทางสถิติของลักษณะผลผลิตและคุณภาพ ส่วนชนิดของปุ๋ย พบว่าผลผลิตและคุณภาพไม่มีความแตกต่างระหว่างการใช้ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี และไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างการปลูกทั้ง 4 ครั้งกับชนิดของปุ๋ยที่ใช้ ด้านอัตราปุ๋ยที่ใช้พบว่า น้ำหนักฝักทั้งเปลือก น้ำหนักฝักปอกเปลือก มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ อัตราปุ๋ยที่สูงที่สุดให้ผลตอบสนองสูงที่สุด โดยการปลูกทั้ง 4 ครั้งให้ผลเหมือนกัน ส่วนพันธุ์ข
บทคัดย่อ (EN): The application of organic fertilizer may be the way to reduce the input cost and chemical fertilizer in sweet corn production. The objectives of this study were to evaluate the yield and quality of sweet corn under the different rates of organic manure and chemical fertilizers. The split-split plot design in randomize complete block (RCB) was conducted including 3 main plots as the types of fertilizer (chicken and cow manures and chemical fertilizer), 3 sub-plots as the rates of fertilizer (by 0, 500 and 1000 kg rai-1 for organic manure and by 0, 25 and 50 kg rai-1 for chemical fertilizer), 3 sub-sub plots as sweet corn varieties (Insee 2, Sugar 75 and KSSC 604) The experiments were conducted 4 planting dates (2 planting dates by 2 seasons). The results showed that four planting dates were significant differences for both yield and quality of sweet corn. On the other hand, there were not significant differences between the application of organic manures and chemical fertilizer. But, rates of fertilizer application were significant for the weight of ear with hust and ear without hust, number of good ear and plant weight. The higher yield and quality were at the highest rate of fertilizer in all planting dates. Varieties showed highly significant for the weight of ear with hust and ear without hust, medium ear, plant weight and sweetness. Sugar 75 and KSSC 604 showed more the weight of ear without hust and medium ear than Insee 2. But, KSSC 604 and Insee 2 gave more plant weight. Moreover, Insee 2 gave the highest of sweetness (15.45?brix) while Sugar 75 gave the lowest of sweetness (13.91?brix). There was no interaction between planting date and variety. The study suggested that organic manure and chemical fertilizer gave the same yield and quality of sweet corn production and higher yield performed at high rate of fertilizer. The application of organic and chemical fertilizers for sweet corn production were conducted at the National Corn and Sorghum Research Center, Pak Chong District, Nakhon Ratchasima Province. The objectives of the experiment were to evaluate the residual effects of organic fertilizers and evaluate the effect of rates of organic and chemical fertilizers on yield and quality of sweet corn. The split-split plot in randomized complete block (RCB) design was use and replicated 3 times. The main plots were the types of fertilizer (chicken and cow manures and chemical fertilizer), the sub-plots were the rates of fertilizer (0, 500 and 1000 kg rai-1 for organic manure and 0, 25 and 50 kg rai-1 for 15-15-15 chemical fertilizer), and the sub-sub plots were sweet corn hybrids (Insee 2, Sugar 75 and KSSC 604). The experiments were conducted during the early (ER) and late rainy (LR) seasons. The results showed that there were no-significant differences among types of fertilizer and rates over the 2 seasons. Additionally, there was also no interaction between fertilizer types and application rates on yield and quality. However, for each growing seasons, types x rates of fertilizers statistically affected yield and quality of sweet corn. Sweet corn from ER gave greater yield and quality (all parameters) than the LR sweet corn. For hybrids, KSSC 604 gave the greatest yield of ears with husk, dehusked ears and standard ears. The greatest weight of large ears and sweetness were obtained from Insee 2 hybrid whereas the lowest sweetness was obtained from Sugar 75. The application of organic fertilizer may be the way to reduce the input cost and chemical fertilizer in sweet corn production. The objectives of this study were to evaluate the yield and quality of sweet corn under the different rates of organic manure and chemical fertilizers. The split-split plot design in randomize complete block (RCB) was conducted including 3 main plots as the types of fertilizer (chicken and cow manures and chemical fertilizer), 3 sub-plots as the rates of fertilizer (by 0, 500, 1000 kg rai1 for organic manure and by 0, 25 and 50 k
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ:
คำสำคัญ (EN):
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพิ่มผลผลิตและคุณภาพข้าวโพดรับประทานฝักสดโดยวิธีเขตกรรม (ข้าวโพดหวาน)
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2552
การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเพื่อเพิ่มคุณภาพโปรตีน ปกป้องสายตาด้วยข้าวโพด อัตราและช่วงเวลาที่เหมาะสมของการใช้ปุ๋ยเคมีตามโปรแกรมปุ๋ยรายแปลงร่วมกับปุ๋ยมูลไก่เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตข้าวโพดหวานในเขตพื้นที่มีความเหมาะสมกลุ่มชุดดินที่ 33 การใช้กากเมล็ดสบู่ดำเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดหวานฝักสด การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดหวานและข้าวโพดฝักอ่อนสำหรับตลาดฝักสดและอุตสาหกรรมแปรรูป ความสามารถในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานลูกผสมที่สัมพันธ์ กับคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ การเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวโพดหวาน การจัดการการเขตกรรมและการพัฒนาคุณภาพผลผลิตมะเกี๋ยง การจัดการ การเขตกรรมและการพัฒนาคุณภาพผลผลิตมะเกี๋ยง การจัดการดินด่างด้วยปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การวิจัยวิธีการเขตกรรมเพื่อพัฒนาผลผลิตและคุณภาพของไพล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก