สืบค้นงานวิจัย
การเพาะเห็ดโคนน้อย เห็ดฟาง ในกระถางที่มีส่วนผสมของผักตบชวา ฟางข้าว กับการใช้น้ำส้มควันไม้ในระยะการเจริญเป็นดอกเห็ด
สุจิตรา เรืองเดชาวิวัฒน์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
ชื่อเรื่อง: การเพาะเห็ดโคนน้อย เห็ดฟาง ในกระถางที่มีส่วนผสมของผักตบชวา ฟางข้าว กับการใช้น้ำส้มควันไม้ในระยะการเจริญเป็นดอกเห็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Mushroom cultivation of hed-cone-noi (Coprinopsis cinerea), hed-fang (Volvariella volvacea) were grown on natural pots made from hyacinths a
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุจิตรา เรืองเดชาวิวัฒน์
บทคัดย่อ: การเพาะเห็ดโคนน้อย (Coprinopsis cinerea) และเห็ดฟาง (Volvariella volvacea) ในประเทศไทย มีการทำเป็นธุรกิจครัวเรือนขนาดเล็ก นอกจากนี้เห็ดทั้งสองชนิดยังใช้เป็นแม่แบบของสิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาการเจริญของเห็ดราชั้นสูง (agarics) ในคลาสเบสิดิโมไมซิส (basidiomycetes) อย่างกว้างขวาง วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรหลายชนิดจำพวกลิกโนเซลลูโลสยังมีสารอาหารเป็นจำนวนมากที่มีคุณค่าและสามารถใช้ในการเจริญของเห็ดได้ ในการศึกษาครั้งนี้จึงมีความสนใจศึกษาสภาวะแวดล้อมที่มีต่อการเจริญของเห็ดทั้งสองชนิด ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความเข้มแสง นอกจากนี้ยังรวมถึงการเกิดของดอกเห็ดบนกระถาง โดยคิดจากจำนวนดอกเห็ดที่เจริญบนวัสดุเพาะที่ทำเป็นกระถางเพาะจากวัสดุเหลือทิ้งจากธรรมชาติ และคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกระถางที่พบว่ามีเห็ดเจริญได้ ทำการบ่มเชื้อเห็ดที่ผสมกับวัสดุเพาะที่ทำเป็นกระถางในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน โดยบ่มไว้ในกล่องพลาสติกที่มีขนาด 4 ชิ้น ทำการเตรียมวัสดุเพาะเห็ดโดยเตรียมผักตบชวาและฟางข้าวหมักจากการสับผักตบชวา และฟางข้าวสดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเก็บวัสดุเหล่านี้ไว้ในถุงพลาสติกเป็นเวลา 2 เดือน และเก็บไว้ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้เกิดกระบวนการหมักชนิดใช้อากาศ (aerobed fermentation) เตรียมส่วนผสมสำหรับเพาะเห็ดโดยใช้วัสดุสดและหมักในอัตราส่วน 1:1 ศึกษาการเจริญของเชื้อเห็ดทั้งสอง โดยวัสดุเพาะมีส่วนผสมของผักตบชวา ฟางข้าว และเชื้อเห็ดที่ทำเป็นรูปทรงกระถางที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 11 เซนติเมตร ความสูง 10 เซนติเมตร และความหนา 2 เซนติเมตร ศึกษาหาปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเจริญของเส้นใยเห็ดโคนน้อยและเห็ดฟางที่มีจีนัสต่างกัน เมื่อเพาะในกระถางเดียวกัน สภาพการเพาะเดียวกัน โดยแบ่งการทดลองหลักเป็น 6 วิธีการทดลอง ดังนี้ ส่วนผสมของเชื้อเห็ดฟาง ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็นโคนน้อย เห็ดฟาง ผักตบชวา และฟางข้าว (0.5:0.5:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็ดฟาง ผักตบชวา ฟางข้าว (1:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย เห็ดฟาง ผักตบชวาและฟางข้าว (0.5:0.5:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5% ศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น สัมพัทธ์ ที่มีต่อการเจริญของเห็ดเป็นระยะเวลา 1 เดือน ผลการทดลองพบว่ามีการเจริญของเส้นใยเห็ดบนกระถางเพราะทุกใบ คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (0.05) ศึกษาสมบัติทางกายภาพของวัสดุเพาะเห็ดที่ทำเป็นรูปทรงกระถางในแต่ล่ะสิ่งทดลองก่อนนำไปใช้เพาะเห็ด พบว่า มี ค่าความเป็น กรด-ด่าง เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 7.41 0.18 และ 8.43 0.05 ความชื้นเฉลี่ย 75.03 1.58 % และความเข้มแสงเฉลี่ยสูงสุด 5.35 0.33 และต่ำสุด 0.20 0.03 ลักซ์ จากผลการทดลองสรุปพบว่าการเจริญของเห็ดฟางมีการเจริญได้ดีกว่าเห็นโคนน้อยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และศึกษาหาปฎิสัมพันธ์ระหว่าการเจริญของเส้นใยเห็ดโคนน้อยและเห็นฟ่างที่จีนัสต่างกัน พบว่ามีการเจริญแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ซึ่งเป็นผลจากเชื้อเห็นแต่ละชนิดมีความสามารถในการเจริญบนวัสดุเพาะได้แตกต่างกันนอกจากนี้ยังพบว่าน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % มีผลต่อการเจริญของเส้นใยเห็ดจนพัฒนาเป็นดอกเห็ดของเห็ดทั้งสองชนิดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
คำสำคัญ: การเพาะเห็ด
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
รายละเอียด: การเพาะเห็ดโคนน้อย (Coprinopsis cinerea) และเห็ดฟาง (Volvariella volvacea) ในประเทศไทย มีการทำเป็นธุรกิจครัวเรือนขนาดเล็ก นอกจากนี้เห็ดทั้งสองชนิดยังใช้เป็นแม่แบบของสิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาการเจริญของเห็ดราชั้นสูง (agarics) ในคลาสเบสิดิโมไมซิส (basidiomycetes) อย่างกว้างขวาง วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรหลายชนิดจำพวกลิกโนเซลลูโลสยังมีสารอาหารเป็นจำนวนมากที่มีคุณค่าและสามารถใช้ในการเจริญของเห็ดได้ ในการศึกษาครั้งนี้จึงมีความสนใจศึกษาสภาวะแวดล้อมที่มีต่อการเจริญของเห็ดทั้งสองชนิด ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ และความเข้มแสง นอกจากนี้ยังรวมถึงการเกิดของดอกเห็ดบนกระถาง โดยคิดจากจำนวนดอกเห็ดที่เจริญบนวัสดุเพาะที่ทำเป็นกระถางเพาะจากวัสดุเหลือทิ้งจากธรรมชาติ และคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของกระถางที่พบว่ามีเห็ดเจริญได้ ทำการบ่มเชื้อเห็ดที่ผสมกับวัสดุเพาะที่ทำเป็นกระถางในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน โดยบ่มไว้ในกล่องพลาสติกที่มีขนาด 4 ชิ้น ทำการเตรียมวัสดุเพาะเห็ดโดยเตรียมผักตบชวาและฟางข้าวหมักจากการสับผักตบชวา และฟางข้าวสดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และเก็บวัสดุเหล่านี้ไว้ในถุงพลาสติกเป็นเวลา 2 เดือน และเก็บไว้ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อให้เกิดกระบวนการหมักชนิดใช้อากาศ (aerobed fermentation) เตรียมส่วนผสมสำหรับเพาะเห็ดโดยใช้วัสดุสดและหมักในอัตราส่วน 1:1 ศึกษาการเจริญของเชื้อเห็ดทั้งสอง โดยวัสดุเพาะมีส่วนผสมของผักตบชวา ฟางข้าว และเชื้อเห็ดที่ทำเป็นรูปทรงกระถางที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 11 เซนติเมตร ความสูง 10 เซนติเมตร และความหนา 2 เซนติเมตร ศึกษาหาปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเจริญของเส้นใยเห็ดโคนน้อยและเห็ดฟางที่มีจีนัสต่างกัน เมื่อเพาะในกระถางเดียวกัน สภาพการเพาะเดียวกัน โดยแบ่งการทดลองหลักเป็น 6 วิธีการทดลอง ดังนี้ ส่วนผสมของเชื้อเห็ดฟาง ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็นโคนน้อย เห็ดฟาง ผักตบชวา และฟางข้าว (0.5:0.5:0.5:0.5) ส่วนผสมของเชื้อเห็ดฟาง ผักตบชวา ฟางข้าว (1:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย ผักตบชวาและฟางข้าว (1:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % ส่วนผสมของเชื้อเห็ดโคนน้อย เห็ดฟาง ผักตบชวาและฟางข้าว (0.5:0.5:0.5:0.5) และน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5% ศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น สัมพัทธ์ ที่มีต่อการเจริญของเห็ดเป็นระยะเวลา 1 เดือน ผลการทดลองพบว่ามีการเจริญของเส้นใยเห็ดบนกระถางเพราะทุกใบ คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (0.05) ศึกษาสมบัติทางกายภาพของวัสดุเพาะเห็ดที่ทำเป็นรูปทรงกระถางในแต่ล่ะสิ่งทดลองก่อนนำไปใช้เพาะเห็ด พบว่า มี ค่าความเป็น กรด-ด่าง เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 7.41 0.18 และ 8.43 0.05 ความชื้นเฉลี่ย 75.03 1.58 % และความเข้มแสงเฉลี่ยสูงสุด 5.35 0.33 และต่ำสุด 0.20 0.03 ลักซ์ จากผลการทดลองสรุปพบว่าการเจริญของเห็ดฟางมีการเจริญได้ดีกว่าเห็นโคนน้อยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 และศึกษาหาปฎิสัมพันธ์ระหว่าการเจริญของเส้นใยเห็ดโคนน้อยและเห็นฟ่างที่จีนัสต่างกัน พบว่ามีการเจริญแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ซึ่งเป็นผลจากเชื้อเห็นแต่ละชนิดมีความสามารถในการเจริญบนวัสดุเพาะได้แตกต่างกันนอกจากนี้ยังพบว่าน้ำส้มควันไม้มะขามเจือจาง 0.5 % มีผลต่อการเจริญของเส้นใยเห็ดจนพัฒนาเป็นดอกเห็ดของเห็ดทั้งสองชนิดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การเพาะเห็ดโคนน้อย เห็ดฟาง ในกระถางที่มีส่วนผสมของผักตบชวา ฟางข้าว กับการใช้น้ำส้มควันไม้ในระยะการเจริญเป็นดอกเห็ด
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
2553
การใช้ประโยชน์ของลิกโนเซลลูโลสจากการย่อยสลายของเห็ดโคนน้อย (Coprinopsis cinerea) และส่วนผสมของสับสเตรทที่มีผลต่อการเจริญของเห็ดฟาง (Volvariella volvacea) และการปลูกคะน้า การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดฟางที่เพาะในโรงเรือน ผลกระทบของระยะปักดำแคบที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของข้าวในสภาพปลูกล่าช้า ความหลากหลายของนกในพื้นที่นาข้าวทางทิศตะวันตกของจังหวัดพิษณุโลก การศึกษาการใช้ส้มพันธุ์ต่างๆ 5 พันธุ์เพื่อเป็นต้นตอส้มเขียวหวาน การเพาะเห็ดฟางในกล่องโดยใช้วัสดุเพาะต่างกัน ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว การสำรวจคุณภาพของโปรตีนในเห็ด : รายงานการวิจัย การลดต้นทุนการผลิตเห็ดโดยนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อทดแทนปริมาณการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพาราในถุงพลาสติก รูปแบบการดื้อยาต้านจุลชีพของแบคทีเรียที่แยกได้จากอุจจาระของไก่เนื้อที่เลี้ยงด้วยอาหารที่ผสมและไม่ผสมน้ำส้มควันไม้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก