สืบค้นงานวิจัย
การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยจุลินทรีย์จากกอไผ่
มาลัยพร วงค์แก้ว - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
ชื่อเรื่อง: การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยจุลินทรีย์จากกอไผ่
ชื่อเรื่อง (EN): Production of Bio-Fertilizer from Agricultural Waste Residue Using Bamboo Clump Microorganism
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มาลัยพร วงค์แก้ว
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดแยกและคัดเลือกเชื้อราจากกอไผ่ที่เหมาะสมสำหรับ การนำไปผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยทำการคัดแยกเชื้อราจากกอไผ่จำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ไผ่ตง ไผ่รวก และไผ่สีสุก ซึ่งจากการทดลองสามารถคัดแยกเชื้อราได้จำนวนทั้งหมด 17 ไอโซเลต โดยเป็นเชื้อราที่คัดแยกได้จากไผ่ตงจำนวน 3 ไอโซเลต (DE1, DE2, DE3) ไผ่รวกจำนวน 7 ไอโซเลต (TH1, TH2, TH3, TH4, TH5, TH6 , TH7) และไผ่สีสุกจำนวน 7 ไอโซเลต (EA1, EA2, EA3, EA4, EA5, EA6, EA7) จากนั้น นำเชื้อราทั้ง 17 ไอโซเลต มาคัดเลือกเพื่อหาเชื้อราที่มีแอคติวิตี้ของเอนไซม์เซลลูเลส อะไมเลส และโปรตีเอส บนอาหารแข็งที่จำเพาะสำหรับการทดสอบเอนไซม์ชนิดต่างๆ พบว่า มีเชื้อราเพียง 6 ไอโซเลต ที่มีแอคติวิตี้ของเอนไซม์ทั้งสามชนิด ได้แก่ ไอโซเลต DE2, TH1, TH2, TH5, EA1 และ EA7 เมื่อศึกษาการจัดจำแนกสายพันธุ์ของเชื้อราทั้ง 6 ไอโซเลตในระดับสปีชี่ส์ พบว่า ไอโซเลต DE2, EA7 และ TH5 คือ เชื้อรา Hypocrea lixii ไอโซเลต TH1, TH2 และ EA1 คือ เชื้อรา Botryosphaeria sp., Acremonium polychromum และ Aspergillus brasiliensis ตามลำดับ จากนั้น ทำการคัดเลือกเชื้อราที่จัดจำแนกสายพันธุ์แล้วอีกครั้ง โดยจะคัดเลือกเชื้อราที่มีประสิทธิภาพแอคติวิตี้ของเอนไซม์เซลลูเลส อะไมเลส และโปรตีเอสสูงสุด โดยเปรียบเทียบจากขนาดพื้นที่ของวงใสที่เกิดขึ้น ผลการทดลอง พบว่า มีเชื้อรา 2 สายพันธุ์ที่มี แอคติวิตี้ของเอนไซม์ทุกชนิดสูง คือเชื้อราสายพันธุ์ Botryosphaeria sp. และ Acremonium polychromum โดยเชื้อราทั้งสองสายพันธุ์ได้ถูกนำไปศึกษาการคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถผลิตปุ๋ยชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งจากไร่ข้าวโพดหวานโดยเปรียบเทียบกล้าเชื้อเดี่ยว และกล้าเชื้อผสม พบว่า กล้าเชื้อผสมของ Botryosphaeria sp. และ Acremonium polychromum เป็นกล้าเชื้อที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาระยะเวลาในการย่อยสลาย และ อัตราส่วนของวัสดุเหลือทิ้งฯ ต่อปริมาณ กล้าเชื้อปุ๋ยหมักที่เหมาะสมสำหรับการผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพ โดยใช้การวางแผนการทดลองแบบ Central Composite Design พบว่า ค่าที่เหมาะสม ได้แก่ 8.3 สัปดาห์ หรือ 58 วัน และ 10,000 กรัม ต่อ 50 กรัม
บทคัดย่อ (EN): This research objective is to investigate the fungal isolation and selection from bamboo clump which is optimal to bio-fertilizer production. The fungal isolation from 3 bamboo clump species were Phai Tong, Phai Ruak and Phai See Suk. The 17 fungal isolates were found including 3 isolates of Phai Tong (DE1, DE2, DE3), 7 isolates of Phai Ruak (TH1, TH2, TH3, TH4, TH5, TH6, TH7) and 7 isolates of Phai See Suk (EA1, EA2, EA3, EA4, EA5, EA6, EA7). The isolated fungi were selected by enzyme activity test of cellulase, amylase and protease on specific medium agar. Six fungi isolates presenting all enzyme activity were DE2, TH1, TH2, TH5, EA1 and EA7. The selected fungi were identified to specify the species level. All fungal isolates of DE2, EA7 and TH5 were Hypocrea lixii. Fungal Isolates of TH1, TH2 and EA1 were Botryosphaeria sp., Acremonium polychromum and Aspergillus brasiliensis, respectively. The identified fungal isolates were repeatedly selected. The isolates being the highest enzyme activity efficiency (cellulase, amylase, protease); comparing the clear zone area, were selected. Two fungal species, Botryosphaeria sp. and Acremonium polychromum, were high efficiency of all enzyme activity. Both of two fungal species were selected the efficiency of bio-fertilizer production from sweet corn crops wastes by comparing the single culture (Botryosphaeria sp., Acremonium polychromum) and mix-culture (Botryosphaeria sp. and Acremonium polychromum). The most efficient culture was the mix-culture of Botryosphaeria sp. and Acremonium polychromum. Furthermore, the optimum conditions of the hydrolysis time and the ratio of wastes and compost culture were also investigated using Central Composite Design. The optimal conditions were 8.3 weeks or 58 days and 10,000 grams per 50 grams.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
คำสำคัญ: วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยจุลินทรีย์จากกอไผ่
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
30 กันยายน 2555
การผลิตไบโอเซลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตไบโอเซลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยกระบวนทางเทคโนโลยีชีวภาพ การผลิตกรดไขมันจำเป็นจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรด้วยเชื้อจุลินทรีย์ Thraustochytrids การผลิตไบโอเอธานอลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การผลิตกรดแลคติกจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรเพื่อการแข่งขัน (ระยะที่ 2) การพัฒนาเอนไซม์เพื่อผลิตสารพรีไบโอติจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร 2558A17002106 วัสดุทดแทนจากการผสมขยะพลาสติกกับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การไฮโดรไลซีสวัสดุลิกโนเซลลูโลสิกจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรสำหรับการผลิตเอทานอล การพัฒนาเอนไซม์เพื่อผลิตสารพรีไบโอติจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร สำหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ แนวทางการพัฒนาสูตรอาหารจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เพื่อเป็นแหล่งผลิตสารเสริมชีวนะในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก