สืบค้นงานวิจัย
รายงานการศึกษาสภาพการปลูกงา อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ปรีชา สุทธิธรรม - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: รายงานการศึกษาสภาพการปลูกงา อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปรีชา สุทธิธรรม
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ (1)เพื่อศึกษาสภาพการปลุกงา ปี 2526/2527 ของเกษตรกร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี (2)เพื่อศึกษาต้นทุนการผลิตงาเฉพาะที่เกษตรกรต้องจ่ายจริง ปี 2526/2527 วิธีการวิจัย (1)การศึกษาโดยใช้แบบสอบถามเกษตรกรผุ้ปลูกงาในตำบลต่าง ๆ ในแหล่งปลูกงาของ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จำนวน 90 ราย โดยวิธี Accidental Sampling (2)นำข้อมูลที่สอบถามได้มาวิเคราะห์โดยใช้ค่าร้อยละ ผลสรุปและข้อเสนอแนะ เกษตรกรส่วนใหญ่ในอ.พนมทวน มีเนื้อที่ถือครองในการทำการเกษตรคอ่นข้างมาก คือ ตั้งต่ 41 ไร่ขึ้นไปถึงร้อยละ 60.01 แต่เกษตรกรจะใช้เนื้อที่เพียงบางส่วน คือร้อยละ 63.33 จะใช้เนื้อที่ตั้งแต่ 10 ไร่ลงมา เพื่อใช้ในการปลูกงา เนื้อที่ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่จะใช้ในการปลูกข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวฟ่าง แตงโมเมล็ด และพืชไร่อื่น ๆ พันธุ์งาที่ปลูก เกษตรกรทั้งหมดจะใช้งาดำโดยไม่ทราบว่าเป็นพันธุ์อะไรและเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ส่วนใหญ่ได้มาจากการซื้อจากตลาด มีเพียงบางส่วนจะเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกเองโดยส่วนใหญ่จะแบ่งเอาจากผลผลิตทั้งหมดไว้ทำพันธุ์ มีส่วนน้อยที่ทำการคัดเมล็ดพันธุ์จากต้นที่ดีในแปลงมาเก็บไว้ปลูก การปลูก เกษตรกรทั้งหมดจะปลูกโดยวิธีหว่าน และจะเริ่มปลูกในเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม อัตราเมล็ดที่ใช้ส่วนใหญ่ ใช้ประมาณ 1-2 กก./ไร่ การเตรียมดิน เกษตรกรส่วนใหญ่กว่าครึ่ง จะใช้รถไถผาน 7ไถดะเพียงครั้งเดียว การปฏิบัติดูแลรักษา กล่าวคือ จะไม่มีการใส่ปุ๋ย ไม่มีการป้องกันกำจัดแมลงและกำจัดวัชพืช โรค แมลง การเก็บเกี่ยว เกษตรกรทั้งหมดจะเก็บเกี่ยวโดยใช้เคียวเกี่ยวต้นนำมามัดเป็นกำนำไปตามแดด โดยเอายอดขึ้น ผลผลิต ผลผลิตส่วนใหญ่จะได้ไร่ละประมาณ 40 กก. การขายผลผลิต เกษตรกรส่วนใหญ่กว่าครึ่ง จะนำผลผลิตที่ได้ไปขายในตลาดในเมือง ราคาที่ขายได้ส่วนมากประมาณ 12-15 บาท ต้นทุนการผลิตเฉพาะที่เกษตรกรจ่ายจริง ส่วนใหญ่จะตกไร่ละ 300 บาท ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเป็นค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าเตรียมดิน ค่าปุ๋ยน้ำ และค่าขนส่ง และจะมีเกษตรกรบางส่วนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าเช่าที่ดิน ค่าแรงเก็บเกี่ยว และค่าแรงเคาะเมล็ด จะเห็นได้ว่าผลผลิตที่ได้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้อาจมีสาเหตุดังนี้ (1)เกษตรกรใช้พันธุ์งาที่มีคุณภาพไม่ดี (2)เกษตรกรไม่รู้จักวิธีการคัดเมล็ดพันธุ์ที่ดีในแปลงไว้ปลูกต่างหาก (3)การเตรียมดินค่อนข้างหยาบ (4)เกษตรกรขาดการปฏิบัติดูแลรักษา เช่น ไม่มีการใส่ปุ๋ย ไม่มีการกำจัดวัชพืช โรค และแมลง (5)เกษตรกรขาดความรู้เกี่ยวกับวิชาการเกษตรที่จะเพิ่มผลผลิตงา (6)สภาพท้องที่มักจะประสบสภาพฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง (7)เกษตรกรขาดความสนใจที่จะหาทางเพิ่มผลผลิต เพราะเห็นว่าเป็นพืชเสริมรายได้ไม่ใช้พืชหลัก (8)เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจไม่กล้าที่จะแนะนำเกษตรกรเพิ่มผลผลิตงา โดยการเพิ่มปัจจัยการผลิต ทั้งนี้เนื่องจากสภาพท้องที่มักประสบภาวะฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง เมื่อเกษตรกรปฏิบัติแล้วอาจได้ผลไม่คุ้ม (9)เกษตรกรบางส่วนที่ได้รับความรู้ทางด้านวิชาการเกษตร แต่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะปฏิบัติตามเพราะอาจไม่คุ้มกับการที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาวะฝนแล้งและฝนทิ้งช่วงดังกล่าวแล้ว แนวทางแก้ไข 1)แนะนำให้เกษตรกรใช้พันธุ์ดีกรือพันธุ์ที่ทางราชการแนะนำ เช่น งาดำพันธุ์นครสวรรค์ พันธุ์พิษณุโลก หรือพันธุ์บุรีรัมย์ กรณีที่หาเมล็ดพันธุ์ดีไม่ได้ การเลือกซื้อจากร้านค้า ก็ควรจะเลือกซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ 2)ในกรณีที่เกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ทำพันธุ์เอง ควรแนะนำวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการคัดเมล็ดพันธุ์ไว้ทำพันธุ์เอง 3)แนะนำให้เกษตรกรเตรียมดินให้ละเอียดขึ้น โดยการไถดะ 1 ครั้ง และไถพรวน 1-2 ครั้ง 4)การปฏิบัติดูแลรักษาเช่น การใส่ปุ๋ยและการป้องกันกำจัดวัชพืช โรคและแมลง ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิต เกษตรกรอาจจะไม่กล้าเสี่ยงเพราะอาจไม่คุ้มทุน เนื่องจากสภาพท้องถิ่นไม่เอื้ออำนวย ซึ่งขั้นแรกอาจปฏิบัติ ดังนี้ 4.1 แนะนำความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับการปฏิบัติดูแลรักษา 4.2 ใหเกษตรกรบางส่วนที่อยากจะทดลองเกี่ยวกับปฏิบัติดูแลรักษาทดลดงปลูกในเนื้อที่น้อยๆ ก่อน 4.3 อำเภอจัดทำแปลงส่งเสริมการปลูกงาตามหลักวิชาการ และหาต้นทุนการผลิตควบคู่ไปด้วย เพื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตที่ได้ จะได้เป็นแนวทางในการวางแผนส่งเสริม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: การผลิต
หมวดหมู่:
  1. TARR::พืช::พืชน้ำมัน::งา
  2. 17
หมวดหมู่ AGRIS:
  1. A เกษตรทั่วไป (Agriculture)::A50 การวิจัยทางการเกษตร (Agricultural research)
  2. 3
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ปรีชา สุทธิธรรม. "รายงานการศึกษาสภาพการปลูกงา อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2527

ปรีชา สุทธิธรรม. "รายงานการศึกษาสภาพการปลูกงา อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี". กรมส่งเสริมการเกษตร. 2527. Print.



TARR Wordcloud:
รายงานการศึกษาสภาพการปลูกงา อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
ปรีชา สุทธิธรรม
กรมส่งเสริมการเกษตร
2527
ส่งเสริมการผลิตน้ำมันงาผลิตภัณฑ์งาและการปลูกงาที่ถูกสุขลักษณะ แก่ SMEs กลุ่มเคหกิจและเกษตรกรจังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยใช้ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นฐานฝึกอบรม สภาพการปลูกงาดำของเกษตรกรในจังหวัดมหาสารคาม งา ธัญพืชเพื่อสุขภาพ สภาพการผลิตและการตลาดงาใน จ.สุราษฏร์ธานี สภาพการปลูกและต้นทุนในการผลิตพริกไทยของเกษตรกรใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สภาพการผลิตงาดำของเกษตรกรตำบลหนองโก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม สภาพการปลูกและต้นทุนการผลิตมะลิ ปี 2528 อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม การใช้เทคโนโลยีการปลูกงาดำ มก.18 ของเกษตรกร จังหวัดร้อยเอ็ด การศึกษาความเป็นไปได้ในการปลูกกรุงเขมาเชิงธุรกิจ การใช้เทคโนโลยีการปลูกงาดำ มก.18 ของเกษตรกรอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair