สืบค้นงานวิจัย
โครงการศึกษาปัญหาและความรุนแรงของผลกระทบจากการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
ผกาสินี คล้ายมาลา - กรมวิชาการเกษตร
ชื่อเรื่อง: โครงการศึกษาปัญหาและความรุนแรงของผลกระทบจากการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
ชื่อเรื่อง (EN): Risk Assessment of Pesticides Used for Crop Protection
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผกาสินี คล้ายมาลา
บทคัดย่อ: การประเมินความเสี่ยงจากการใช้วัตถุมีพิษการเกษตรที่ต้องเฝ้าระวัง 4 ชนิด ได้แก่ chlorpyrifos ในถั่วฝักยาวและพริก EPN ในถั่วฝักยาวและพริก carbosanfan ในข้าว และ cypermethrin ในมะม่วง พริก และคะน้า ระหว่าง พ.ศ. 2549 – 2552 ด้วยอัตราการฉีดพ่นหรือหว่านสูงสุด ตามที่แนะนำบนฉลาก หรือการปฏิบัติจริงของเกษตรกร เพื่อศึกษาปริมาณการได้รับสารพิษปนเปื้อนบนร่างกายภายหลังการใช้ โดยการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารพิษบนแผ่นผ้าทีดินบนส่วนต่างๆ ของร่างกายและในน้ำล้างมือล้างเท้าของผู้ใช้ โดยการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารพิษบนแผ่นผ้าที่ติดบนส่วนต่างๆ ของร่างกายในและในน้ำล้างมือล้างเท้าของผู้ใช้ ตรวจวัดระดับการทำงานของเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส (Acdtylcholinesterase Activity, AChE Activity) ในเม็ดเลือดแดงของผู้ฉีดพ่นหรือหว่าน ตรวจวัดระดับ AChE Activity ในสมองปลาที่เลี้ยง ในร่องน้ำในแปลงปลูกหลังการฉีดพ่นหรือหว่าน ตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารพิษตกค้างในผลิตผลเกษตร ปลา น้ำ ดิน ตะกอน และพืชน้ำหลังการฉีดพ่นหรือหว่าน ข้อมูลที่ได้นำมาประมวลผลกับข้อมูลทางพิษวิทยาของสารพิษแต่ละชนิดเพื่อประเมนความเสี่ยงต่อผู้ใช้ ผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักเกณฑ์ Pesticide Risk Assessment ของ US.EPA ผลการศึกษาประเมินความเสี่ยงภายหลังการฉีดพ่นหรือหว่าน chlorpyrifos EPN และ carbofuran จากปริมาณสารพิษที่ปนเปื้อนบนร่างการเกษตรกรผู้ใช้ พบว่ามีระดับความเสี่ยงสูงเป็นอันตรายต่อสุ๘ภาพ เกิดผลกระทบต่อระดับ AChE Activity ของร่างกาย สำหรับ cypermethrin การประเมินความเสี่ยงจากการฉีดพ่นอยู่ในเกณฑ์ยอมรับได้ ภายหลังการฉีดพ่น EPN ในพริก ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวมีระยะความเสี่ยงต่อการบริโภคเป็นเวลานานที่สุดคือมากกว่า 36 วัน dicrotophos และ chlorpyrifos มีระยะความเสี่ยงต่อการบริโภคเป็นเวลา 8-13 วัน carbofuran ไม่มีความเสี่ยงต่อการบริโภคผลผลิตจากข้าว cypermethrin เมื่อฉีดพ่นบนมะม่วงแล้ว จะมีระยะความเสี่ยงต่อการบริโภคมากกว่า 28 วัน ส่วนพริก มีระยะความเสี่ยงต่อการบริโภคเพียง 3 วันเท่านั้น ปลาที่เลี้ยงในร่องน้ำ ได้รับความเป็นพิษสูงจากผลกระทบของการใช้วัตถุมีพิษทั้ง 5 ชนิด (ยกเว้น cypermethrin) เพราะทำให้ระดับ AChE Activity ในสมองปลาลดต่ำลงมากจนเกิดพิษเฉียบพลัน มีผลทำให้ปลาตาย แต่สารพิษชนิด EPN และ carbofuran สลายตัวได้รวดเร็วในสิ่งแวดล้อมเกษตร โดยมีค่า half life ในดินนานถึง 10 วัน และ cypermethrin มี half like ในดินนาน 7-20 วัน ดังนั้นในการบริหารจัดการวัตถุพิษการเกษตรจังเสนอให้ยกเลิกใช้ EPN เพื่อป้องกันอันตรายจากวัตถุมีพิษทีมีพิษร้ายแรง การหว่าน carbofuran ในนาข้าว พบว่าผู้หว่านมีความเสี่ยงสูงเช่นกัน จากากรตรวจวัดระดับเอนไซม์ AChE Activity ในเม็ดเลือดก่อนและหลังการใช้ carbofuran พบว่าระดับการทำงานของเอนไซม์ของผู้ใช้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งแสดงว่าได้รับผลกระทบจากวัตถุมีพิษดังกล่าว ดังนั้นผู้ใช้จะต้องมีความระมัดระวังในการป้องกันตัวเองให้สัมผัสกับสารพิษน้อยที่สุด ส่วน chlorpyrifos และ cypermethrin ควรจัดเป็นวัตถุมีพิษที่ต้องเข้มงวดการใช้เพราะสารพิษตกค้างมีค่า half life ในผลิตผลเกษตร และในดินยาวนานกว่าวัตถุมีพิษชนิดอื่น การเฝ้าระวังผลกระทบการใช้วัตถุมีพิษการเกษตรในบริเวณพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อติดตามการสะสมและการแพร่กระจายของวัตถุมีพิษในระบบนิเวศเกษตรและสิ่งแวดล้อม ได้มีการให้ความสำคัญและมีการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง เพราะผลจากในการใช้วัตถุมีพิษการเกษตรเพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทำให้สารพิษบางส่วนอาจตกค้างอยู่บนหรือในพืช ส่วนหนึ่งตกสู่ดิน และถูกชะลงสู่แหล่งน้ำใต้ดิน อันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสารเคมีกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า สารมลพิษตกค้างยาวนาน ตามที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในข้อตกลงระหว่างประเทศเรื่องการจัดการมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (Persistent Organic Pollutants, POPs) ตามอนุสัญญาสตอกโฮล์มนั้น กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานราชการที่กำกับดูแล พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัตถุมีพิษการเกษตรที่ตกค้างยาวนานและอยู่ในกลุ่มออร์กาโนคลอรีน (Organochlorine) เช่น chlordane, dieldrin, DDT ซึ่งได้ถูกยกเลิกการใช้ไปนานแล้ว แต่ยังคงตรวจพบในปริมาณต่ำๆ เนื่องจากมีฤทธิ์ตกค้างยาวนานในสภาพแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่เคยเป็นแหล่งปลูกฝ้ายและพืชไร่ขนาดใหญ่ มีการใช้สารกลุ่มออร์กาโนคลอรีนอย่างแพร่หลาย ยาวนานติดต่อกันหลายสิบปี จึงต้องมีการศึกษา สำรวจและเก็บตัวอย่างในน้ำ ตะกอน พืชน้ำ และสัตว์น้ำ ในแม่น้ำสายหลักได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำบางปะกง รวมทั้งสำรวจการปนเปื้อนของวัตถุมีพิษการเกษตรลงสู่น้ำใต้ดินบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากสารบางชนิดมีศักยภาพในการซึมผ่าน หรือชะละลายลงสู่น้ำใต้ดินได้ เช่น สารกำจัดวัชพืชกลุ่ม triazines เป็นต้น ข้อมูลที่ได้จากการวิจัยนี้จึงเป็นประโยชน์ในการประเมินสถานการณ์การปนเปื้อนของสารพิษในสิ่งแวดล้อม ในภาพรวมของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ห้องปฏิบัติการสารพิษตกค้าง กลุ่มพัฒนาการตรวจสอบพืชและปัจจัยการผลิตของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1-8 ได้ทำการตรวจวิเคราะห์ชนิดและปริมาณสารพิษตกค้างในตัวอย่างพืชผัก ผลไม้เกษตรกรที่ผ่านการรับรอง GAP ในตามแต่ละภูมิภาค โดยวิเคราะห์หาสารพิษตกค้าง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มออร์กาโนฟอสฟอรัส กลุ่มออร์กาโนคลอรีน และกลุ่มไพรีทรอยด์ ผลการวิเคราะห์เมื่อแบ่งตามแหล่งที่มาของตัวอย่างได้ผลดังนี้ ตัวอย่างจากแปลงเกษตรกรที่ผ่านการรับรองระบบ GAP ส่วนตัวอย่างจากแหล่งรวบรวมผลผลิตจากแปลงเกษตรกรที่ผ่านการรับรองระบบ GAP สำหรับตัวอย่างจากจุดจำหน่ายผลผลิตที่ผ่านการรับรองระ GAP (ผลผลิตที่มีสัญลักษณ์ Q) บางตัวอย่างพบสารพิษตกค้างเกินค่า MRL จะเห็นได้ว่าจากผลการตรวจสอบในผลผลิตหลังการรับรอง GAP ยังพบสารพิษตกค้างเกินค้า MRL ดังนั้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปติดตามและตรวจสอบการใช้สารป้องกันกำจัดแมลงของเกษตรกรที่ได้รับรองแปลงผลิตพืช GAP อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลผลิตจากแปลงผลิตพืชที่ผ่านกระบวนการตรวจรับรองคุณภาพตามระบบ GAP จะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค การใช้ผลิตภัณฑ์สารธรรมชาติเพื่อลดการใช้ผลิตภัณฑ์วัตถุมีพิษการเกษตร EPN และ cypermethrin ในถั่วฝักยาว และพริก มีวัตถุประสงค์ในการหาวิธีการใช้สารธรรมชาติ เช่น สะเดา หรือหางไหล พ่นสลับหรือใช้ร่วมกับสารเคมี deltemethrin ที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำในการป้องกันกำจัดหนอนเจาะฝักถั่วฝักยาว หรือใช้สาร cypermethrin ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟในการปลูกพริก ตามกรรมวิธีที่มีการวางแผนการทดลองแบบ RCB 3 ซ้ำ 7 กรรมวิธี โดยมี 1 กรรมวิธีที่ไม่พ่นสาร ก่อนและหลังการพ่นสารตามกรรมวิธี มีการตรวจนับจำนวนหนอนเจาะฝักและเพลี้ยไฟ เก็บผลผลิต และสุ่มตัวอย่างผลผลิตเพื่อตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้าง และการประเมินข้อมูลการใช้ผลิตภัณฑ์ cypetmethrin และ EPN และผลิตภัณฑ์สารธรรมชาติจากเกษตรในจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยใช้แบบสอบถามในการวิจัย
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/292200
เผยแพร่โดย: กรมวิชาการเกษตร
คำสำคัญ: พริก
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการศึกษาปัญหาและความรุนแรงของผลกระทบจากการใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช
กรมวิชาการเกษตร
30 กันยายน 2553
การติดตามตรวจสอบสารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนในอากาศริมถนนโดยใช้ใบไม้ในเขตจังหวัดนนทบุรี ปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชให้ถูกต้องและปลอดอภัยในจังหวัดนครนายก การศึกษาการใช้สารสกัดสะเดาป้องกันกำจัดตั๊กแตนผี การผลิต Inulin และ Oligofructose จากกล้วยเพื่อใช้เป็นสารเสริมอาหาร โครงการวิจัยการศึกษาผลกระทบของสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชต่อศัตรูธรรมชาติและแมลงที่มีประโยชน์ สภาพการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในแปลงขยายพันธุ์ข้าวของเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช ชุดโครงการวิจัยการลดการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืชหลังการเก็บเกี่ยว โครงการวิจัยและพัฒนาการใช้พืชสมุนไพรเพื่อป้องกันกำจัดศัตรูพืช โครงการวิจัยการศึกษาสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชชนิดใหม่ โครงการวิจัยการศึกษาความรุนแรงของผลกระทบและการเฝ้าระวังสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่มีพิษร้ายแรงหรือมีความคงทนในสภาพแวดล้อม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก