สืบค้นงานวิจัย
เปรียบเทียบวิธีซัลโมด็อท การพาะเชื้อแบคทีเรียและการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยปฎิกิริยาลูกโซ่ สำหรับใช้ตรวจหาเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหาร
Amonrattana Roobthaisong - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: เปรียบเทียบวิธีซัลโมด็อท การพาะเชื้อแบคทีเรียและการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยปฎิกิริยาลูกโซ่ สำหรับใช้ตรวจหาเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหาร
ชื่อเรื่อง (EN): Comparison of Salmo-dot, bacterial culture and PCR for detection of Salmonella Spp. in food samples
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Amonrattana Roobthaisong
บทคัดย่อ: โรคซัลโมเนลโลซิสเป็นโรคติดเชื้อผ่านทางอาหารที่มีผลกระทบสำคัญต่อสุขภาพมนุษย์ การ ปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหารนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ วิธีตรวจการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหารได้แก่ วิธีการเพาะเชื้อมาตรฐาน วิธีนี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น มีหลายขั้นตอนและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งใช้เวลาตรวจนานถึง 4-5 วันจึงจะรู้ผล ปัจจุบันได้มีความพยายามที่จะพัฒนาวิธีการตรวจที่ ได้ผลรวดเร็วยิ่งขึ้น การศึกษาครั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบวิธีตรวจทางอิมมิวโนโลยี โดยใช้ชุดตรวจซัล โมด็อทกับวิธีการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยปฏิกิริยาลูกโซ่ (พีซีอาร์) และวิธีการเพาะเชื้อ มาตรฐาน เพื่อตรวจการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลล่าในตัวอย่างเนื้อไก่สดจำนวน 100 ตัวอย่างจาก ตลาดสดในเขตจังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร จากผลการทดลองพบว่าจำนวนตัวอย่างที่ ให้ผลบวกเมื่อตรวจด้วยวิธีซัลโมด็อท วิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน stn วิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน invA และวิธีเพาะเชื้อ เท่ากับ 56, 57, 53 และ 55 ตัวอย่างตามลำดับ และเมื่อคำนวณค่าทางสถิติ เปรียบเทียบกับวิธีเพาะเชื้อ พบว่าวิธีซัลโมด็อทมีค่าความไว และค่าความแม่นยำเท่ากับ 98.18% และ 95.55% ตามลำดับ ส่วนค่าความไว และค่าความแม่นยำของวิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน stn เท่ากับ 98.18% และ 93.33% ตามลำดับ ในขณะที่ค่าความไว และค่าความแม่นยำของวิธีพีซีอาร์ เพื่อตรวจค้นยีน invA เท่ากับ 94.55% และ 97.78% ตามลำดับ ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าวิธีซัล โมด็อทน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าวิธีพีซีอาร์สำหรับทดแทนวิธีการเพาะเชื้อเพื่อตรวจหาการ ปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหาร เนื่องจากวิธีการตรวจเรียบง่าย ใช้เวลาตรวจน้อยกว่า และ ราคาไม่แพง
บทคัดย่อ (EN): which is the MAb-based antigen detection test kit and PCR to detect stn and invA genes were compared with the standard culture method for detection of Salmonella in food samples. Among the 100 chicken meat samples tested, 56, 57, 53, and 55 samples were identified as positive by Salmo-Dot, DNA amplification of stn gene, invA gene, and the culture method, respectively. Statistical analysis revealed that the sensitivity and specificity of Salmo-Dot compared with the culture method were 98.18% and 95.55%, respectively. Comparison of the PCR with culture method revealed the sensitivity and specificity of 98.18% and 93.33% for stn gene detection and of 94.55% and 97.78% for invA gene detection, respectively. From this study, Salmo-Dot and PCR had a similar sensitivity and specificity as compared with the standard culture method. Salmo-Dot is considered to be a better alternative to the standard culture method than the PCR for detection of Salmonella in naturally contaminated food samples because it is simple, less expensive and requires a shorter time for completing the process.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3054&obj_id=5287
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Zoonoses
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: โรคซัลโมเนลโลซิสเป็นโรคติดเชื้อผ่านทางอาหารที่มีผลกระทบสำคัญต่อสุขภาพมนุษย์ การ ปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหารนับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ วิธีตรวจการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหารได้แก่ วิธีการเพาะเชื้อมาตรฐาน วิธีนี้มีข้อจำกัดบางประการ เช่น มีหลายขั้นตอนและค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง อีกทั้งใช้เวลาตรวจนานถึง 4-5 วันจึงจะรู้ผล ปัจจุบันได้มีความพยายามที่จะพัฒนาวิธีการตรวจที่ ได้ผลรวดเร็วยิ่งขึ้น การศึกษาครั้งนี้เพื่อเปรียบเทียบวิธีตรวจทางอิมมิวโนโลยี โดยใช้ชุดตรวจซัล โมด็อทกับวิธีการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยปฏิกิริยาลูกโซ่ (พีซีอาร์) และวิธีการเพาะเชื้อ มาตรฐาน เพื่อตรวจการปนเปื้อนเชื้อซัลโมเนลล่าในตัวอย่างเนื้อไก่สดจำนวน 100 ตัวอย่างจาก ตลาดสดในเขตจังหวัดปทุมธานีและกรุงเทพมหานคร จากผลการทดลองพบว่าจำนวนตัวอย่างที่ ให้ผลบวกเมื่อตรวจด้วยวิธีซัลโมด็อท วิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน stn วิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน invA และวิธีเพาะเชื้อ เท่ากับ 56, 57, 53 และ 55 ตัวอย่างตามลำดับ และเมื่อคำนวณค่าทางสถิติ เปรียบเทียบกับวิธีเพาะเชื้อ พบว่าวิธีซัลโมด็อทมีค่าความไว และค่าความแม่นยำเท่ากับ 98.18% และ 95.55% ตามลำดับ ส่วนค่าความไว และค่าความแม่นยำของวิธีพีซีอาร์เพื่อตรวจค้นยีน stn เท่ากับ 98.18% และ 93.33% ตามลำดับ ในขณะที่ค่าความไว และค่าความแม่นยำของวิธีพีซีอาร์ เพื่อตรวจค้นยีน invA เท่ากับ 94.55% และ 97.78% ตามลำดับ ผลการศึกษาครั้งนี้พบว่าวิธีซัล โมด็อทน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าวิธีพีซีอาร์สำหรับทดแทนวิธีการเพาะเชื้อเพื่อตรวจหาการ ปนเปื้อนของเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหาร เนื่องจากวิธีการตรวจเรียบง่าย ใช้เวลาตรวจน้อยกว่า และ ราคาไม่แพง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
เปรียบเทียบวิธีซัลโมด็อท การพาะเชื้อแบคทีเรียและการเพิ่มปริมาณสารพันธุกรรมด้วยปฎิกิริยาลูกโซ่ สำหรับใช้ตรวจหาเชื้อซัลโมเนลล่าในอาหาร
Amonrattana Roobthaisong
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
รูปแบบพันธุกรรมของเชื้อซัลโมเนลล่าที่แยกได้จากแหล่งต่าง ๆ ในฟาร์มเลี้ยงไก่และตลาดด้วยวิธี Pulsed-field gel electropho ค่าพารามิเตอร์ทางพันธุกรรมสำหรับลักษณะปริมาณอาหารที่กินเหลือประสิทธิภาพการใช้อาหาร และอัตราการเจริญเติบโตต่อวันในสุกรพันธุ์แลนด์เรซ ศึกษาพิษต่อสารพันธุกรรมของสารไคสแตนโธไซด์เอเตตระอะซิเตรทในเซลล์เม็ดเลือดขาวของคนและในแบคทีเรียซาลโมเนลลาไทฟิมูเรียม การทำนายและการสร้างแบบเหมือนการเจริญของเชื้อซาลโมเนลลา ในข้าวผัดปู การใช้เชื้อรา Amylomyces rouxii ในการเพิ่มโปรตีนจากมันสำปะหลังเพื่อเป็นอาหารสัตว์ปีก การพัฒนาวิธีมัลติเพล็คพีซีอาร์ในการตรวจหาเชื้อสแตฟีโลค็อคคัส ออเรียส เชื้อบาซีลัส ซีเรียสและเชื้อกลุ่มซาลโมแนลลาในคราวเดียว การวิเคราะห์ผลการตรวจสารก่อภูมิต้านทานจำเพาะต่อมลูกหมากโดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูปเปรียบเทียบกับผลตรวจแอซิดฟอสฟาเทสในน้ำสกัดสำลีซับช่องคลอดที่ตรวจพบและไม่พบตัวอสุจิ การเพิ่มระบบความเข้มข้นของสารตัวอย่างซิสเทอีนในเครื่องไมโครฟลูอิดิกโดยใช้โมโนลิธชนิด BuMa-EDMA การตรวจอย่างรวดเร็วเพื่อหาปริมาณละอองฝอยของเชื้อลีเจียนแนร์ โดยใช้เทคนิคการเก็บอากาศผ่านน้ำร่วมกับวิธีเพิ่มปริมาณ การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการเลี้ยงกุ้งกุลาดำด้วยวิธีการใช้สารเคมีและไม่ใช้สารเคมีในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ (ระยะโพสลาวา-ตัวเต็มวัย)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก