สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายภาครัฐกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
นิศาชล ลีรัตนากร - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายภาครัฐกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): The Analysis of Government Expenditure and Economic Growth in Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นิศาชล ลีรัตนากร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Nisachon Leerattanakorn
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาเรื่อง "การวิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายภาครัฐกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย" เป็นการศึกษาเชิงประจักษ์เพื่อตอบคำถามประเด็นข้อขัดแย้งเชิงนโยบายของนักเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ว่าการขยายตัวของภาครัฐบาลมีความสัมพันธ์กับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Growh) หรือไม่ โดยการศึกษากรณีของประเทศไทยครั้งนี้ได้ประยุกต์ใช้แบบจำลองของ Ram (1986) ส่วนการประมาณค่าสัมประสิทธิ์ของแบบจำลอง อาศัยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Squares) จำแนกขนาดของรัฐบาลออกเป็น 3 ประเาท ได้แก่ ขนาดของรัฐบาลที่วัดจากงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามลักษณะงาน แบ่งเป็นขนาดของงบประมาณที่วัดจากสัดส่วนของรายจ่ายในการบริหารงานทั่วไปต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง ขนาดของงบประมาณที่วัดจากสัดส่วนของรายจ่ายในการบริการชุมชนและสังคมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง ขนาดของงบประมาณที่วัดจากสัดส่วนของรายจ่ายด้านเศรษฐกิจต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง และขนาดของงบประมาณที่วัดจากสัดสวนของรายจ่ายในด้านอื่นๆ ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง ขนาดของรัฐบาลที่วัดจากงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลจำแนกตามลักษณะเศรษฐกิจแบ่งเป็น ขนาดของงบประมาณที่วัดจากสัดส่วนของรายจ่ายเพื่อการบริโภคต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง และขนาดรองงบประมาณที่วัดจากสัดส่วนของรายจ่ายเพื่อการลงทุนต่อผลิตภัณฑ์ มวลรวมในประเทศที่แท้จริง ส่วนสุดท้ายเป็นการศึกษาโดยวัดขนาดของรัฐบาลจากงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดของรัฐบาลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง ผลการศึกษาพบว่าขนาดของรัฐบาลที่วัดจากสัดส่วนรายจ่ายเพื่อการลงทุน รายจ่ายเพื่อการบริหารงานทั่วไป รายจ่ายด้านเศรษฐกิจ และรายจ่ายทั้งหมดของรัฐบาลที่แท้จริงต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริงส่งผลทางบวกต่อการเจริญเติบโตทางเสรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เนื่องจากรายจ่ายของรัฐบาลโดยเฉพาะรายจ่ายเพื่อการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานการ์ผลิตต่างๆ (Infrastructure) จะเข้าไปมีส่วนเพื่อประสิทธิภาพการผลิตของภาคเอกชนให้สูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลกระทบในทางบวกทำให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้น (Positive Externality Effect) และในที่สุดจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่รายจ่ายของรัฐบาลในส่วนอื่นๆ ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นหากรัฐบาลมีนโยบายด้านการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลควรได้มีการพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพื่อการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายจ่ายเพื่อการลงทุนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เช่น รายจ่ายการก่อสร้างสาธารณูปโภคหรือโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ รายจ่ายด้านทุนมนุษย์ อันจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป
บทคัดย่อ (EN): The study about "The analysis of government expenditure and economic growth in Thailand" was empirical study for answer the disagreement issue of the economist that the expansion of the government sector has related with economic growth or not, in case study of Thailand used the model taken by Ram (1986) and utilizes secondary time-series data for the period 1987 - 2008. The Ordinary Least Squares (OLS) technique is employed in the estimation of the parameter. The government size defines by the proportion of government expenditure in real GDP. Government expenditure classified in 3 types; 1) government expenditures classified by functions which classily in 4 categories, such as general administration government expenditure, community and social expenditure, economic expenditure and miscellaneous expenditure. 2) Government expenditures classified under economic classification which classify in 2 categories, such as current expenditure and investment expenditure and 3) Total government expenditure. The results show that growth rate of investment expenditure, general administration expenditure economic expenditure and total expenditure have positive and significant impact on economic growth because of the expenses of government especially the expenses for investment in infrastructures will participate for production efficiency of the private sector. Moreover, the positive affective make the private sector invests increasing (Positive Externality Effect), and finally will affect to the economical growth. However, marginal factor productivity in government sector is found to be lower than that of the private sector. While the expenses in other parts of government expenditure had not relate from economic growth in the significant statistical. Thus, if the government had the progressive economy policy, It should have allocating budget in investment expenditure particularly the expenses for the investment that helps to increasing efficiency the production such as construction public utility expenses or infrastructure and the asset human expenses will affect to build economical progress of the country in the long term.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://webpac.library.mju.ac.th:8080/mm/fulltext/research/2557/nisachon_leerattanakorn_2552/fulltext.pdf
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การวิเคราะห์งบประมาณ
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายภาครัฐกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2552
ผลของ Growth hormone analog ต่อการเจริญเติบโต และการเจริญพันธุ์ของปลาบึก ผลของอัตราการให้ปุ๋ยทางดินต่อการเจริญเติบโตของวานิลลา ผลของต้นตอต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของแตงกวาญี่ปุ่น ผลของสารสกัดหยาบจากข่าต่อการงอกและการเจริญเติบโต ของพืชปลูกและวัชพืชบางชนิด ผลของปุ๋ยมูลไก่ที่มีต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตของหญ้าปักกิ่ง ศึกษาการเจริญเติบโต ผลผลิตและองค์ประกอบของผลผลิตแตงกวา 4 สายพันธุ์ ผลของแสงจากหลอด LED ต่อการเจริญเติบโตของสาหร่ายคลอเรลลา (Chlorella vulgaris) เปรียบเทียบการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน 6 สายพันธุ์ในบ่อนากุ้งร้าง ผลของความเข้มข้นของโคลชิซีนต่อการเจริญเติบโต ของต้นกล้าสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย ผลของลิวซีนในอาหารไก่เนื้อต่อสมรรถภาพการเจริญเติบโต และการสะสมไขมันในซาก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก