<-span>ประเทศที่บริโภคข้าวขาวเป็นอาหารหลัก เช่น จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ มีความชุกของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (เป็นเบาหวานที่พบเป็นส่วนใหญ่ เกิดจากการที่ตับอ่อนยังสามารถสร้างอินซูลินได้แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ผู้ป่วยต้องมีการควบคุมอาหาร การใช้ยาชนิดกินหรือใช้อินซูลินชนิดฉีด) เพิ่มขึ้นสูงอย่างมากรวมทั้งประเทศไทยที่ความชุกของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นทุกปีจึงส่งเสริมให้คนไทยโดยเฉพาะผู้ที่เป็นเบาหวานบริโภคข้าวกล้องให้มากขึ้นซึ่งน่าเป็นอีกทางเลือกในการช่วยให้ผู้ที่เป็นเบาหวานควบคุมโรคเบาหวานได้ดีขึ้น และช่วยให้คนปกติเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานลดลง โดยเฉพาะข้าวกล้องสังข์หยดที่ได้รับความนิยมจากคนไทยกลุ่มรักสุขภาพ แต่ยังขาดข้อมูลว่าผลการบริโภคเป็นอย่างไร เกิดประโยชน์อย่างไรต่อสุขภาพโดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ <-span>2จึงได้ทำการศึกษาผลระยะยาวของการบริโภคข้าวกล้องสังข์หยดหรือข้าวกล้องงอกสังข์หยดเมืองพัทลุงแทนข้าวขาวอย่างน้อยวันละ 2 มื้อเป็นเวลา 12 สัปดาห์โดยมีอาสาสมัครเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 40 คนเข้าร่วมการวิจัย เมื่อเสร็จสิ้นโครงการพบว่า หลังจากบริโภคข้าวกล้องงอกหรือข้าวกล้องสังข์หยดครบ 12 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มีค่าเฉลี่ยของน้ำตาลสะสมลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และผลการรักษาของข้าวทั้ง 2 ชนิดไม่แตกต่างกัน ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยของอัตราการต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากบริโภคข้าวกล้องงอกหรือข้าวกล้องสังข์หยด ซึ่งผลการรักษาไม่แตกต่างกันสำหรับข้าวทั้ง 2 ชนิด<-o-p><-span><-span><-p>

          ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้คือ ได้ข้อมูลองค์ประกอบทางเคมีและสารพฤกษเคมีที่สำคัญของข้าวสังข์หยดจังหวัดพัทลุง ซึ่งสามารถใช้เป็นดัชนีบ่งชี้คุณสมบัติเฉพาะของข้าวสังข์หยดเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและ ควบคุมคุณภาพผลผลิตข้าวสังข์หยดในอนาคตนำผลที่ได้ไปประกอบในการกำหนดหรือการแนะนำอาหารให้แก่ผู้ป่วยเบาหวาน<-o-p><-span><-p>