สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์ประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาตาม Contingency Model ในเขตภาคกลาง
ธันยมัย พันธุมนาวิน - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์ประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาตาม Contingency Model ในเขตภาคกลาง
ชื่อเรื่อง (EN): Analysis of rice farmers' association effectiveness by contingency model in central region
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธันยมัย พันธุมนาวิน
บทคัดย่อ: วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เพื่อ 1)ศึกษาหาตัวทำนายซึ่งเป็นตัวแปรอิสระจากทฤษฎี คือ ลักษณะภาวะการเป็นผู้นำ และองค์ประกอบของสภาพการณ์กลุ่ม สามารถทำนายประสิทธิผลของกลุ่ม 2)ศึกษาหาการปฏิสัมพันธ์ (interaction) ของลักษณะกลุ่มที่เหมาะสมและไม่เหมาะสมต่อภาวะผู้นำ (goo-bad match) กับลักษณะบางประการของผู้นำที่มีต่อประสิทธิผลของกลุ่ม 3) ศึกษาเปรียบเทียบปริมาณการทำนายของตัวแปรอิสระ 2 กลุ่ม ที่มีต่อการทำนายประสิทธิผลของกลุ่ม กลุ่มแรกคือ ลักษณะภาวะการเป็นผู้นำของและองค์ประกอบสภาพการณ์กลุ่ม กับกลุ่มที่สองคือ ตัวแปรที่เป็นลักษณะบางประการของกลุ่ม กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางจาก 4 จังหวัด ที่ถูกคัดเลือกมาเป็นตัวอย่าง คือ อ่างทอง ชัยนาถ ลพบุรี และสระบุรี กลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาทั้งสิ้น 80 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มที่มีประสิทธิผลและไม่มีประสิทธิผล โดยผ่านเกณฑ์การประเมินผลของกรมส่งเสริม มีอย่างละ 40 กลุ่มเท่ากัน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลคือแบบสัมภาษณ์ซึ่งประกอบด้วยข้อคำถามและแบบวัดต่างๆ รวมทั้งหมด 9 ตอน การทดสอบหาค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดโดย internal consistency และ ANOVA ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบวัดที่ใช้ในการศึกษาดังต่อไปนี้ แบบวัดการเปิดรับข่าวสารมีค่า rtt เท่ากับ 0.75 แบบวัดแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มีค่า rtt = 0.92 แบบวัดความสัมพันธ์ผู้นำกับสมาชิกมีค่า rtt = 0.82 แบบวัดโครงสร้างของงานมีค่า rtt = 0.86 และแบบวัดอำนาจในตำแหน่ง ของผู้นำมีค่า rtt = 0.72 ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้คือ 1. โดยทั่วไปส่วนใหญ่ไม่มีความแตกต่างในลักษณะพื้นฐานทั่วไปทางเศรษฐกิจและสังคมของผู้นำที่อยู่ในกลุ่มมีประสิทธิผลและไม่มีประสิทธิผล ยกเว้นขนาดที่ทำกิน โดยผู้นำในกลุ่มมีประสิทธิผลมีขนาดที่ทำกินใหญ่กว่า (X=77.00 ไร่) ผู้นำในกลุ่มไม่มีประสิทธิผล (X=49.00 ไร่) 2. ลักษณะบางประการของกลุ่มพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาทั้งหมดมีอายุกลุ่มเฉลี่ย 14 ปี สำหรับระยะเวลาการเป็นผู้นำกลุ่มพบว่าผู้นำที่ศึกษาทั้งหมดมีช่วงระยะเวลาการเป็นผู้นำเฉลี่ย 14 ปี นับจากระยะเวลาของการตั้งกลุ่มพบว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำกลุ่มคิดเป็นร้อยละ 63.75 เมื่อเปรียบเทียบสมาชิกที่มีอยู่ในปัจจุบันกับจำนวนสมาชิกเมื่อแรกตั้งกลุ่มพบว่า มีการเปลี่ยนแปลง 3 ลักษณะคือ มีการลดลงคิดเป็นร้อยละ 42.50 คงที่ร้อยละ 20.00 และเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 37.50 ผลการศึกษาพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ในบางตัวแปรลักษณะบางประการของกลุ่ม ระหว่างกลุ่มมีประสิทธิผลและกลุ่มไม่มีประสิทธิผลดังนี้คือ ความถี่ของการประชุมสมาชิก ความถี่ของกี่ปีะชุมกรรมการกลุ่ม รวมการประชุมทั้งหมด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับสมาชิก โครงสร้างงาน อำนาจในตำแหน่งของผู้นำ และสภาพการณ์กลุ่ม ส่วนจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทั้งนี้กลุ่มมีประสิทธิผลมีค่าเฉลี่ยสูงกว่ากลุ่มไม่มีประสิทธิผล สภาพการณ์กลุ่มของกลุ่มเกษตรกรทำนา มีลักษณะสภาพการณ์กลุ่มที่เอื้อ(ง่าย) คิดเป้นร้อยละ 57.50 มีลักษณะเอื้อปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 42.50 และไม่พบว่ามีกลุ่มใดที่มีสภาพการณ์ไม่เอื้อ(ยาก) ต่อการบริหารของผู้นำ ผลการศึกษากลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาที่เป็นอยู่ในขณะนี้มีลักษณะภาวะผู้นำของประธานกลุ่มกับสภาพการณ์กลุ่มที่เป็นอยู่มีความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสมนั้น ผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดพบว่า มีกลุ่มที่เหมาะสมต่อภาวะผู้นำ คิดเป็นร้อยละ 63.75 (จำนวน 51 กลุ่ม) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มที่มีผู้นำลักษณะมุ่งงานและมีสภาพการณ์กลุ่มที่เอื้อคิดเป็นร้อยละ 27.50 กับกลุ่มที่มีสภาพเอื้อปานกลาง และมีผู้นำที่มีลักษณะมุ่งสัมพันธ์คิดเป็นร้อยละ 36.25 ส่วนกลุ่มที่ไม่เหมาะสม หมายถึงกลุ่มที่มีผู้นำที่มีภาวะไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์กลุ่มนั้นมีอยู่ร้อยละ 36.25 (จำนวน 29 กลุ่ม) ประกอบด้วยกลุ่มที่มีสภาพการณ์เอื้อปานกลาง แต่มีผู้นำที่มีลักษณะมุ่งงานคิดเป็นร้อยละ 13.75 และกลุ่มที่มีสภาพการณ์กลุ่มเอื้อ(ง่าย) แต่มีผู้นำที่มีลักษณะมุ่งสัมพันธ์ คิดเป็นร้อยละ 22.50 3. ลักษณะผู้นำ ผลการศึกษาผู้นำทั้ง 2 กลุ่มพบว่า ผู้นำในกลุ่มมีประสิทธิผล มีลักษณะมุ่งงาน (X=46.30) ส่วนผู้นำในกลุ่มไม่มีประสิทธิลผู้นำมีลักษณะมุ่งสัมพันธ์ (X=64.73) และเมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้วพบว่าผู้นำกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนามีลักษณะมุ่งสัมพันธ์ (X=55.50) นอกจากนี้เมื่อศึกษากลุ่มตัวอย่างทั้งหมด โดยแยกศึกษาเป็นประเภทของภาวะผู้นำ ผลการศึกษาพบว่าเกือบร้อยละ 60 ผู้นำเกษตรกรมีภาวะผู้นำที่มุ่งสัมพันธ์ โดยเป็นผู้นำที่มุ่งสัมพันธ์อยู่ในกลุ่มไม่มีประสิทธิผล คิดเป็นร้อยละ 45.00 และเป็นผู้นำที่มุ่งสัมพันธ์อยู่ในกลุ่มมีประสิทธิผลคิดเป็นร้อยละ 41.25 สำหรับผู้นำที่มีภาวะการเป็นผู้นำในลักษณะมุ่งงานมีร้อยละ 41.25 เป็นผู้นำในกลุ่มมีประสิทธิผลคิดเป็นร้อยละ 36.25 และเป็นผู้นำที่อยู่ในกลุ่มไม่มีประสิทะผลร้อยละ 5.00 เท่านั้น 4. ลักษณะบุคคลิกภาพของผู้นำ ผลการศึกษาพบว่า ผู้นำในกลุ่มมีประสิทธิผลมีการเชื่ออำนาจในตนสูง และมีการเปิดรับข่าวสารมากกว่าผู้นำที่อยู่ในกลุ่มไม่มีประสิทธิผล 5.ตัวแปรอิสระที่ทำนายประสิทธิผลของกลุ่ม จากทฤษฎีประสิทธิผลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ของฟิดเลอร์ ซึ่งมี 4 ตัวแปรนั้น ผลการศึกษาพบว่ามีตัวแปร 3 ตัวที่ร่วมกันทำนายประสิทธิผลของกลุ่มได้ 68% คือ โครงสร้างงาน(49%) ลักษณะภาวะผู้นำ(17%) และอำนาจในตำแหน่งของผู้นำ(2%) ส่วนชุดตัวแปรอิสระที่เป็นจิตลักษณะของผู้นำนั้น มีตัวแปรเข้าร่วมทำนาย 2 ตัวคือ การเชื่ออำนาจภายใน-นอกตน(39%) และการเปิดรับข่าวสาร(9%) ตัวแปรอิสระ 2 ตัวนี้ร่วมทำนายประสิทธิผลของกลุ่มได้ 48% เมื่อมีการนำตัวแปรทั้งหมด 12 ตัว โดยมีตัวแปรอิสระในทฤษฎีประสิทธิผลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ (4 ตัวแปร) จิตลักษณะของผู้นำ(3 ตัวแปร) และลักษณะของกลุ่มบางประการ (5 ตัวแปร) เพื่อหาตัวทำนายประสิทธิผลกลุ่ม ผลการศึกษาปรากฎว่ามีตัวแปรอิสระ 6 ตัว ร่วมกันทำนายประสิทธิผลของกลุ่มได้ 76% คือโครงสร้างของงาน(49%) ลักษณะภาวะผู้นำ(17%) การเชื่ออำนาจภายในตน(5%) การประชุมกลุ่มทั้งหมด(3%) การแปรเปลี่ยนสมาชิก(1%) และอำนาจในตำแหน่งของผู้นำ(1%) เมื่อพิจารณาให้เห็นชัดขึ้นพบว่า 3 ใน 6 ตัวแปรที่เข้าร่วมทำนายนั้นเป็นตัวแปรอิสระ จากทฤษฎี Contigency model ของฟีดเลอร์ ส่วนอีก 3 ตัวนั้นมาจากตัวแปรบุคคลิกภาพ 1 ตัวแปร และเป็นตัวแปรจากลักษณะบางประการของกลุ่ม 2 ตัวแปร 6. จากการทดสอบสมมติฐานศึกษาเปรียบเทียบเปอร์เซนต์การทำนายของตัวแปรอิสระ 2 ชุด คือตัวแปรอิสระในทฤษฎีประสิทธิผลของภาวะผู้นำตามสถานการณ์ของฟีลเลอร์และตัวแปรอิสระชุดลักษณะบางประการของกลุ่ม เพื่อดูว่าตัวแปรชุดใดจะมีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของกลุ่มได้มากกว่ากัน ผลปรากฎว่าตัวแปรอิสระในContigency model ให้ผลทำนายสูงกว่า ทั้งที่ศึกษาในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดและในกลุ่มย่อย โดยมีตัวแปรโครงสร้างของงาน ลักษณะภาวะผู้นำ และอำนาจในตำแหน่งของผู้นำ เป้นตัวเข้าร่วมทำนาย 7. ผลการศึกษาความแปรปรวนของประสิทธิผลของกลุ่มตามลักษณะของกลุ่
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: สถานการณ์กลุ่ม
คำสำคัญ (EN): Contingency Model
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์ประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาตาม Contingency Model ในเขตภาคกลาง
กรมส่งเสริมการเกษตร
2537
ผู้นำและประสิทธิผลของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำนาในเขตภาคกลางของประเทศไทย สถานการณ์โดยทั่วไปของกลุ่มเกษตรกรในภาคกลาง ศึกษาการดำเนินงานกลุ่มเกษตรกรทำนาท่าแค ปัจจัยที่มีต่อความสำเร็จของกลุ่มเกษตรกรทำนาอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ การดำเนินงานกลุ่มเกษตรกรในภาคกลาง ปี 2538 สภาพการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรทำนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การทดสอบประสิทธิภาพเครื่องสาวไหมไปปรับใช้กับกลุ่มเกษตรกร ในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ และกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ สภาพการใช้ปุ๋ยในนาข้าวของกลุ่มเกษตรกรทำนาบ้านโคก ตำบลบ้านโคก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร สภาพการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในนาข้าวของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรทำนา ตำบลพลับพลา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก