สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงา
คนึงนิตย์ เหรียญวรากร - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงา
ชื่อเรื่อง (EN): Study of Genetic Diversity of Phytoplasmas Associated withPhyllody Disease of Sesame
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: คนึงนิตย์ เหรียญวรากร
บทคัดย่อ: ต้นงาที่แสดงอาการของโรคแตกพุ่มฝอยที่เก็บมาจากแหล่งปลูกงาสำคัญ 10 จังหวัดในประเทศไทย นำมาทำการเพิ่มปริมาณยีน 16S rRNA และ secY ด้วยเทคนิค polymerase chain reaction (PCR) โดยใช้ไพรเมอร์ R16F2/R16R2 และ AYsecYF1/AYsecYR1 ได้แถบดีเอ็นเอขนาดประมาณ 1,200 และ 1,300 คู่เบส ตามลำดับ นำข้อมูลของลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA ที่ได้จาก 15 ไอโซเลท เปรียบเทียบกับข้อมูลลำดับนิวคลี-โอไทด์ของเชื้อไฟโตพลาสมาที่เป็นตัวแทนกลุ่ม 15 กลุ่ม คือ 16SrI-16SrXV พบว่าเชื้อจัดอยู่ในกลุ่ม 16SrI (Aster yellows group) และ 16SrII (Peanut witches’-broom group) โดยมีค่าความคล้ายคลึงของลำดับนิวคลีโอไทด์ ? 97.5 เปอร์เซ็นต์ และจัดกลุ่มย่อยด้วยยีน 16S rRNA โดยการวิเคราะห์จากลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ in silico restriction fragment length polymorphism (RFLP) พบว่า เชื้อจัดอยู่ในกลุ่มย่อย 16SrI-B และ 16SrII-A โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ความคล้ายคลึง > 0.97 ส่วนการจัดกลุ่มโดยใช้ลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน secY ของเชื้อกลุ่ม 16SrI ที่นำมาศึกษา เปรียบเทียบกับข้อมูลลำดับนิวคลีโอไทด์ของเชื้อไฟโตพลาสมาที่เป็นตัวแทนกลุ่ม 11 กลุ่ม พบว่า เชื้อทั้ง 8 ไอโซเลท จัดอยู่ในกลุ่ม SecY-Iต้นงาที่แสดงอาการของโรคแตกพุ่มฝอยที่เก็บมาจากแหล่งปลูกงาสำคัญ 10 จังหวัดในประเทศไทย นำมาทำการเพิ่มปริมาณยีน 16S rRNA และ secY ด้วยเทคนิค polymerase chain reaction (PCR) โดยใช้ไพรเมอร์ R16F2/R16R2 และ AYsecYF1/AYsecYR1 ได้แถบดีเอ็นเอขนาดประมาณ 1,200 และ 1,300 คู่เบส ตามลำดับ นำข้อมูลของลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA ที่ได้จาก 15 ไอโซเลท เปรียบเทียบกับข้อมูลลำดับนิวคลี-โอไทด์ของเชื้อไฟโตพลาสมาที่เป็นตัวแทนกลุ่ม 15 กลุ่ม คือ 16SrI-16SrXV พบว่าเชื้อจัดอยู่ในกลุ่ม 16SrI (Aster yellows group) และ 16SrII (Peanut witches’-broom group) โดยมีค่าความคล้ายคลึงของลำดับนิวคลีโอไทด์ ? 97.5 เปอร์เซ็นต์ และจัดกลุ่มย่อยด้วยยีน 16S rRNA โดยการวิเคราะห์จากลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน 16S rRNA ด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ in silico restriction fragment length polymorphism (RFLP) พบว่า เชื้อจัดอยู่ในกลุ่มย่อย 16SrI-B และ 16SrII-A โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ความคล้ายคลึง > 0.97 ส่วนการจัดกลุ่มโดยใช้ลำดับนิวคลีโอไทด์ของยีน secY ของเชื้อกลุ่ม 16SrI ที่นำมาศึกษา เปรียบเทียบกับข้อมูลลำดับนิวคลีโอไทด์ของเชื้อไฟโตพลาสมาที่เป็นตัวแทนกลุ่ม 11 กลุ่ม พบว่า เชื้อทั้ง 8 ไอโซเลท จัดอยู่ในกลุ่ม SecY-I
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ยีน
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

คนึงนิตย์ เหรียญวรากร. "ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงาStudy of Genetic Diversity of Phytoplasmas Associated withPhyllody Disease of Sesame". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2553

คนึงนิตย์ เหรียญวรากร. "ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงาStudy of Genetic Diversity of Phytoplasmas Associated withPhyllody Disease of Sesame". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2553. Print.



TARR Wordcloud:
ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงา
คนึงนิตย์ เหรียญวรากร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2553
ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมา สาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงา ศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมของเชื้อไฟโตพลาสมา สาเหตุโรคแตกพุ่มฝอยของงา การศึกษาชนิดแมลงพาหะและพัฒนาแอนติบอดีเพื่อตรวจเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคพุ่มแจ้ของมันสำปะหลัง โครงการ นวัตกรรมการตรวจสอบเชื้อไฟโตพลาสมาและการควบคุมโรคใบขาวอ้อยโดยชีววิธี นวัตกรรมการตรวจสอบเชื้อไฟโตพลาสมาและการควบคุมโรคใบขาวอ้อยโดยชีววิธี การแพร่กระจายของเพลี้ย Yamatotettix flavovittatus และ Matsumuratettix hiroglyphicus แมลงพาหะโรคใบขาวอ้อยในพื้นที่ภาคกลางตอนบนของประเทศไทยและการตรวจสอบเชื้อไฟโตพลาสมาสาเหตุโรคใบขาวอ้อย การใช้สารกระตุ้นชีวภาพชนิดไคโตซานเพื่อลดอาการและปริมาณของเชื้อไฟโตพลาสมา และการระบาดของโรคใบขาวในอ้อย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของยีนส์ Amylase ในโคเนื้อไทย ความหลากหลายของ pathotype ของเชื้อราสาเหตุโรคไหม้ข้าวในปี 2550/51 และยีนต้านทานกว้างขวางที่เป็นประโยชน์ในภาคเหนือตอนล่าง ความสัมพันธ์ของความแตกต่างทางพันธุกรรมของยีน Insulin-like growth factor II (IGF-II) ต่อลักษณะการเจริญเติบโตและขนาดร่างกายในประชากรสุกรเชิงการค้าแห่งหนึ่ง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair