สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ การจัดการความรู้ของแกนนำเกษตรกร โดยกระบวนการโรงเรียนชาวนาต้นแบบ สู่การพึ่งพาตนเองด้านเมล็ดพันธุ์
บุญธิชา ชมชื่น - สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ชื่อเรื่อง: การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ การจัดการความรู้ของแกนนำเกษตรกร โดยกระบวนการโรงเรียนชาวนาต้นแบบ สู่การพึ่งพาตนเองด้านเมล็ดพันธุ์
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: บุญธิชา ชมชื่น
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาการจัดการความรู้ของแกนนำเกษตรกร โดยกระบวนการ โรงเรียนชาวนาต้นแบบสู่การพึ่งพาตนเองด้านเมล็ดพันธุ์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้าง กระบวนการเรียนรู้การเป็นวิทยากรด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยการฝึก ปฏิบัติจริงในแปลงทดลอง ซึ่งมีเป้าหมายการพัฒนาศักยภาพแกนนำศูนย์ต้นแบบ ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพและ ผ่านมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ รวมถึงเป็นแหล่งเรียนรู้ระบบการผลิตแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การเรียนรู้ระบบนิเวศ การเตรียมแปลงเพาะปลูก การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสม การจัดการแปลงนา การจัดการเมล็ดพันธุ์หลังเก็บเกี่ยว และสามารถถ่ายทอด ความรู้ให้กับเกษตรกรที่สนใจผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวบริสุทธิ์เพื่อใช้ในฤดูถัดไป รูปแบบของการจัดกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนชาวนาต้นแบบ มีการ ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จำนวน 5 ครั้ง ในรอบการผลิตข้าวนาปี 2555/2556 โดยดำเนินการในพื้นที่โรงเรียนชาวนาต้นแบบแม่ข่าย 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดน่าน จังหวัดแพร่ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดยโสธร ได้รับความร่วมมือจาก ศูนย์วิจัยข้าว กรมการข้าว ศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก อีสาน และเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้านจังหวัดยโสธร (น่ายบุญส่ง มาตขาว) ทำหน้าที่ จัดกระบวนการเรียนรู้ตลอดระยะเวลาดำเนินการ เจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูป ที่ดินจังหวัด ทำหน้าที่ประสานงาน อำนวยการ และทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าว กรมการข้าว ทำหน้าที่ให้ข้อมูลความรู้ด้านเทคนิควิชาการผสมผสาน กับองค์ความรู้ทางด้านเทคนิควิซาการผสมผสานกับองค์ความรู้ ภูมิปัญญาดั้งเดิม กระบวนการจัดการความรู้ของโรงเรียนชาวนาต้นแบบแม่ข่าย ซึ่งมีการพัฒนา หลักสูตรให้สอดคล้องและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่และความต้องการ ที่แท้จริงของผู้เข้ารับการอบรม รวมทั้งร่วมกันกำหนดเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินโครงการระยะยาว มีการสรุปประสบการณ์ สรุปบทเรียนร่วมกัน ระหว่างแกนนำเกษตรกรที่เข้ารับการฝึกอบรม ทีมงานครูฝึกที่ทำหน้าที่ถ่ายทอด ความรู้ ทีมงานพี่เลี้ยงและเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ประสานงาน อำนวยการ และจัด กิจกรรมเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อนำไปสู่ความสามารถในการจัดการ ของชุมชนเกษตรกรรมด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ความมั่นคงทางด้าน อาหาร และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและพัฒนา การเกษตรที่ยั่งยืน ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวจะบรรลุตามเจตนารมณ์ได้ จำเป็นต้อง มีการขยายผลการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุกรรมพืชพื้นเมือง ไม่เฉพาะเรื่องพันธุ์ข้าว แต่หมายความรวมถึงพันธุ์พืชผักพื้นเมือง พืชสมุนไพร พันธุ์สัตว์ เป็นต้น สร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง เกษตรกร หน่วยงาน และสถาบันที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางด้านอาหารและ ความหลากหลายทางชีวภาพให้คืนกลับสู่พื้นที่เกษตรกรรม จากการศึกษาพบว่าแกนนำเกษตรกรที่ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร การพัฒนาศักยภาพแกนนำเกษตรกร "โรงเรียนชาวนาต้นแบบ" ได้นำ ความรู้จากการฝึกปฏิบัติจริงในแปลงนารวมของกลุ่ม บางรายนำไปปฏิบัติ ในแปลงนาของตนเองควบคู่ไปด้วย มีการชักชวนญาติพี่น้อง เพื่อนเกษตรกรรวม กลุ่มมาเรียนรู้ร่วมกันในแปลงเรียนรู้รวมของกลุ่ม ซึ่งเป็นการทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ แล้วนำไปทดลองทำ เป็นการเพิ่มทักษะ เพิ่มประสบการณ์ ทำซ้ำ ๆ ทำบ่อย ๆ จะ ค้นพบชุดความรู้ใหม่ ๆ ได้ด้วยตนเอง จนเกิดความมั่นใจ และสามารถถ่ายทอด ความรู้ให้กับสมาชิกได้ รวมถึงสามารถสร้างต้นแบบการจัดการความรู้เกี่ยวกับ การลดต้นทุนการผลิตด้านเมล็ดพันธุ์ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม สามารถสร้างแรงจูงใจ ให้สมาชิกในกลุ่มให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมคล้อยตามได้ จะเห็นได้จากการที่มี การขอสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น มีการขยายแนวคิดและนำสู่การปฏิบัติ ได้จริงในชุมชน ซึ่งมีแนวโน้มการขยายจำนวนกลุ่มสมาชิกและพื้นที่การผลิต เมล็ดพันธุ์เพิ่มขึ้น และสิ่งที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากเกษตรกรมีความรู้ ความเข้าใจ เรื่องการคัดเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เองได้แล้ว ยังมีการรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายผู้ผลิต เมล็ดพันธุ์เพื่อจำหน่าย โดยใช้แนวทางการบริหารจัดการกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชองชุมชน และอีกประการสำคัญที่เกิดขึ้นคือ มีกลุ่มเกษตรกรภายใต้โครงการ "โรงเรียนชาวนาต้นแบบ" สมัครขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ประเทศไทย (มกท.) ไม่น้อยกว่า 15 กลุ่ม การขยายผลความรู้ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ของแกนนำเกษตรกร ที่ผ่านกระบวนการโรงเรียนชาวนาต้นแบบ สู่เกษตรกรในพื้นที่ มีรูปแบบของ การขยายผล ดังนี้ 1. การขยายความรู้ผ่านสมาชิกของกลุ่ม / องค์กร / เครือข่ายคนทำ การเกษตรที่สนใจกิจกรรมการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยการชักชวนกันลงมือปฏิบัติ ในระดับกลุ่ม เช่น การปักดำข้าวต้นเดียว 2. การขยายผลผ่านระบบเครือญาติ เป็นการชักชวนญาติ พี่น้อง หันมาปลูกข้าวพื้นบ้านไว้บริโภค ส่วนมากทำแบบไม่เป็นทางการ 3. การขยายผลผ่านการรณรงค์ และการประชาสัมพันธ์ เช่น วิทยุชุมชน ผ่านการแนะนำและบอกต่อ กิจกรรมเยี่ยมแปลงเรียนรู้ภายในชุมชน รูปแบบนี้ ทำให้ได้รับความสนใจจากสมาชิกภายในกลุ่ม และเกษตรกรในชุมชนสนใจเข้าร่วม เรียนรู้และทดลองปฏิบัติตามมากขึ้น 4. การขยายผลผ่านงานบุญประเพณีต่าง ๆ เช่น งานบุญเดือนสาม หรือบุญกุ้มข้าวใหญ่ การลงแขกในหลายพื้นที่มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ในงานบุญดังกล่าว ซึ่งมีการนำเอาข้าวพื้นบ้านมาจัดนิทรรศการ และนำเสนอเรื่องราว คุณค่าทางโภชนาการ การชิมข้าว การนำข้าวพื้นบ้านไปใส่บาตรถวายพระ เป็นต้น 5. การขยายผลผ่านการอบรมของโรงเรียนชาวนาต้นแบบแม่ข่าย และ แลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ หลายกลุ่มที่เข้าโครงการโรงเรียนชาวนาต้นแบบเป็น กลุ่มที่ดำเนินการฝึกอบรมเกษตรกรอยู่แล้ว เช่น ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน กลุ่มผลิต เมล็ดพันธุ์ ฯลฯ ได้นำเอาความรู้ เทคนิค ที่ได้จากกระบวนการโรงเรียนชาวนา ต้นแบบ ไปถ่ายทอด บอกต่อ ให้กับเกษตรกร ซึ่งมีทั้งการอบรมให้กับสมาชิกของ เครือข่ายตนเอง และเกษตรกรทั่วไป 6. การขยายผลผ่านการทำแปลงทดลอง แปลงสาธิต แปลงนารวม ภายใต้เงื่อนไขการเข้าร่วมเรียนรู้การพัฒนาพันธุ์ข้าว ต้องกลับไปสร้างแปลงเรียนรู้ แปลงทดลอง ให้พื้นที่ของตนเอง ซึ่งแต่ละกลุ่มจะเลือกพื้นที่ที่ใกล้ถนน ใกล้ชุมชน เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจจากคนในชุมชน นอกจากจะมีการขยายจำนวนครอบครัวแล้ว ยังมีการขยายชนิด ปริมาณ และเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวพื้นเมือง โดยการทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้ก่อน ในปีต่อไป จึงนำไปปลูกเป็นข้าวเพื่อบริโภค ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ เพราะนอกจากจะได้จำนวน สมาชิก แนวร่วมเพิ่มขึ้นแล้ว เครือข่ายยังได้พื้นที่ปลูกข้าวพื้นเมือง ชนิด และ ปริมาณ รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนวิธีการปลูก เพื่อลดต้นทุน และเป็นการปลูกข้าว ที่ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกด้วย การเชื่อมโยงเครือข่ายชาวนา และเครื่อข่าย ด้านการผลิตเมล็ดพันธุ์ การแลกเปลี่ยน จำหน่าย และช่วยเหลือกันด้านเมล็ดพันธุ์ เช่น มีการทอดผ้าป่าเมล็ดพันธุ์ของเครือข่ายแกนนำในโรงเรียนชาวนาต้นแบบ แม่ข่ายภาคเหนือ (จังหวัดน่าน) และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดยโสธร) ส่งเมล็ดพันธุ์ข้าวและข้าวเปลือกเพื่อบริโภค ไปช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เครือข่าย แกนนำเกษตรกรโรงเรียนชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดมหาสารคาม) เพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตข้าวเสียหายเนื่องจากภาวะภัยแล้งทั้งชุมชน พี่น้องเกษตรกร ไม่มีเมล็ดพันธุ์ข้าวสำหรับทำพันธุ์ในปีต่อไป และข้าวที่เก็บไว้บริโภคไม่เพียงพอ ข้อเสนอจากการศึกษา ครัวเรือนเกษตรกรรายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก การผลักดันระดับนโยบายให้ทำการผลิตเชิงพาณิชย์ และสู่ระบบอุตสาหกรรม ผลกระทบโดยตรงกับเกษตรกรรายย่อยและชุมชนท้องถิ่นในปัจจุบัน คือการสูญเสีย ความเป็นเจ้าของและอำนาจในการจัดการปัจจัยการผลิต สูญเสียความหลากหลาย ของพันธุกรรมท้องถิ่น การผลิตที่ใช้สารเคมีสังเคราะห์อย่างเข้มข้น ส่งผลให้เกิด การทำลายฐานทรัพยากรธรรมชาติ ความไม่ปลอดภัยของอาหาร การใช้แนวทาง "โรงเรียนชาวนาต้นแบบ " เป็นเครื่องมือในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับแกน นำเกษตรกร เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการทบทวน วิเคราะห์ เพื่อแสวงหาทางเลือก และตัดสินใจที่จะพัฒนาวิถีการเกษตรและการจัดการตนเองด้านเมล็ดพันธุ์ด้วย ตัวเกษตรกรเอง ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐควรให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ ขั้นตอน เมื่อเกษตรกรมีความเข้มแข็ง หน่วยงานที่เป็นพี่เลี้ยงทำหน้าที่หนุนเสริม 1. พัฒนาและยกระดับความรู้ ความสามารถแกนนำเกษตรกร เป็น อยู่ห่าง ๆ และคอยติดตามเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ หาโอกาสเปิดพื้นที่ใหม่ให้ เครือข่ายแกนนำเกษตรกรได้นำเสนอผลการดำเนินงาน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งกันและกัน อย่างน้อยภูมิภาคละ 1 ครั้งต่อปี และระดับประเทศ อย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี 2. การขับเคลื่อนกระบวนการทำงาน โดยใช้กลุ่มเกษตรกรที่ผ่าน กระบวนการเรียนรู้ "โรงเรียนชาวนาต้นแบบแม่ข่าย" เป็นกลไก หรือ เป็นเครื่องมือ สำหรับการทำงานด้านการพัฒนาได้อีกทางหนึ่ง การกำหนดแผนงานโครงการ ควรมีการวางแผนการขับเคลื่อนร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรชาวบ้าน และองค์กรพัฒนาเอกชนอย่างต่อเนื่อง 3. ควรส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวหลากหลายสายพันธุ์และ ตอบสนองกับการบริโภคของคนในท้องถิ่น ประเพณีวัฒนธรรม เพื่อให้เกิด ความยั่งยืน ถ้าจะทำให้เกิดรายได้จะขายต้องมีการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์4 ข้าวพื้นเมืองด้านคุณค่าโภชนาการให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้บริโภคดูแลรักษาสุขภาพ 4. พัฒนาแปลงทดลองของกลุ่มเกษตรกร ให้เป็นโรงเรียนชาวนาต้นแบบ ด้านการอนุรักษ์และพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด ความรู้ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง 5. ยกระดับความรู้ และทักษะให้กับเจ้าหน้าที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม ทำหน้าที่เป็นนักส่งเสริมการเกษตร โดยเฉพาะการทำเกษตร แบบพึ่งพาตนเอง หรือ เกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อเป็นการสร้างต้นแบบกระบวนการ พัฒนาชุมชนที่เข้มแข็งต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.alro.go.th/research_plan/ewt_dl_link.php?nid=394
เผยแพร่โดย: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
คำสำคัญ: เมล็ดพันธุ์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการ การจัดการความรู้ของแกนนำเกษตรกร โดยกระบวนการโรงเรียนชาวนาต้นแบบ สู่การพึ่งพาตนเองด้านเมล็ดพันธุ์
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
2556
การจัดการความรู้ คือ เครื่องมือในการจัดการความรู้ การจัดการความรู้ (KM: Knowledge Management) องค์ประกอบ 4 อย่างที่ดีที่สุดของการจัดการความรู้ การพัฒนาโครงร่างการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน : เอกสารประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดการความรู้ของเกษตรกรที่ทำการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ตำบลหินดาต อำเภอปาศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร การจัดการความรู้ทำให้ความสามารถในการผลิต (productivity) สูงขึ้น ผลของขนาดเมล็ดที่มีต่อความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ถั่วแลปแลป การพัฒนารูปแบบการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโดยเกษตรกร การผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่ว American Jointvetchสายพันธุ์ Leeและสายพันธุ์Glenn เพื่อใช้เป็นพืชอาหารสัตว์ในที่ลุ่ม (1) การเร่งความงอกของเมล็ดถั่ว American Jointvetch สายพันธุ์ Lee และสายพันธุ์ Glenn
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก